สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2
นงคราญ ลําจวน - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2
ชื่อเรื่อง (EN): (Research and development of papaya extract: Implications for patients with thrombocytopenia Phase 2)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นงคราญ ลําจวน
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากใบมะละกอที่มีฤทธิ์ในการเพิ่มค่า เกล็ดเลือดในสัตว์ทดลองที่มีถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โดยสารสกัดใบมะละกอที่ผลิตได้ผ่านการ ประเมินความปลอดภัยของสารสกัดและจัดทำข้อกำหนดมาตรฐานของสารสกัดตามเกณฑ์ตำรามาตรฐานยา สมุนไพรไทย ทางด้านคุณภาพวัตถุดิบซึ่งประกอบด้วยข้อมูลลักษณะทางสัณฐานวิทยาระดับมหภาคและระดับ จุลภาคของมะละกอ ผลการพิสูจน์ชนิดของมะละกอด้วยเทคนิคดีเอ็นเอบาร์โคด คุณสมบัติทางกายภาพและทาง เคมีของใบมะละกอ รวมทั้งการควบคุมคุณภาพสารสกัดและการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์แคปซูลสารสกัดใบ มะละกอ ผลการตรวจวิเคราะห์ความเข้มข้นของโลหะหนัก (สารหนู ปรอท ตะกั่วและแคดเมียม) และจุลินทรีย์ก่อ โรคปนเปื้อน (เชื้ออีโคไล เชื้อคลอสตริเดียม เชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสและเชื้อซัลโมเนลา) ของสารสกัดใบ มะละกออยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าข้อกำหนดของวัตถุดิบเจือปนอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผล การวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ทั้งหมดในสารสกัดใบมะละกอมีค่าไม่น้อยกว่า 35 มิลลิกรัมสมมูลของกรดแกลลิกต่อกรัมสารสกัดและ 70 มิลลิกรัมสมมูลของเควอซิตินต่อกรัมสารสกัด ตามลำดับ เมื่อวิเคราะห์สารกลุ่มฟีนอลิกและสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ด้วยเทคนิคโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง พบสารรู ทิน เควอซิติน กรดแกลลิค คาเทชิน อะพิเจนิและแคมป์เฟอรอล โดยพบปริมาณของรูทิน เควอซิติน และกรดแกลลิ คสูงกว่าสารตัวอื่นที่วิเคราะห์ได้ (1,043 ± 7.2 มิลลิกรัม/100 กรัมสารสกัด 853.7 ± 6.4 มิลลิกรัม/100 กรัมสาร สกัด และ 873.5 ± 8.5 มิลลิกรัม/100 กรัมสารสกัด ตามลำดับ) ผลเอชพีแอลซีโครมาโทแกรมแสดงให้เห็นว่ารูทิน และเควอซิติน เป็นสารบ่งชี้ทางเคมีที่เหมาะสมสำหรับการจัดทำมาตรฐานสารสกัดใบมะละกอ ผลการศึกษาความ เป็นพิษเฉียบพลันของสารสกัดใบมะละกอเมื่อนำมาป้อนทางปาก ขนาด 5,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวหนู แรทเพศเมียพบว่าไม่ก่อพิษเฉียบพลันและมีค่า LD50 มากกว่า 5000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว การได้รับสาร สกัดมะละกอขนาด 5,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวทางปากพบว่า ไม่ก่อให้เกิดพิษเฉียบพลัน ในขณะที่การ ทดสอบพิษเรื้อรังโดยให้หนูได้รับสารทดสอบทางปากขนาด 100, 400, 1,000ม และ 5,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม น้ำหนักตัวหนูแรทเพศเมียและเพศผู้ระยะเวลา 180 วัน พบว่าสารสกัดใบมะละกอไม่ก่อให้เกิดสัญญาณและอาการ แสดงของความเป็นพิษ ฤทธิ์ทางชีวภาพในการเพิ่มค่าเกล็ดเลือดในหนูขาวเพศเมียพันธุ์วิสตาร์ พบว่าหนูปกติกลุ่มที่ ได้รับสารสกัดจากใบมะละกอไม่พบการเปลี่ยนแปลงค่าเกล็ดเลือดเมื่อเปรียบเทียบกับหนูปกติกลุ่มที่ได้รับน้ำเกลือ ซึ่งให้ผลการทดสอบเช่นเดียวกันในหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดใบมะละกอสด แสดงให้เห็นว่าการได้รับสารสกัดใบ มะละกอไม่มีผลในการไปเพิ่มหรือลดค่าเกล็ดเลือดในหนูปกติแต่อย่างใด ในขณะที่การทดสอบสารสกัดจากใบ มะละกอในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำด้วยยาคาร์โบพลาติน พบว่าสารสกัดใบมะละกอและสาร สกัดจากใบมะละกอสด ไม่สามารถไปเพิ่มค่าเกล็ดเลือดได้ โดยพบว่าค่าเกล็ดเลือดในหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดใบ มะละกอและสารสกัดจากใบมะละกอสดมีค่าเกล็ดเลือดไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับหนู กลุ่มที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำด้วยยาคาร์โบพลาติน ผลการศึกษาครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับการ ศึกษาวิจัยในระยะที่ 1 ที่พบว่าการให้สารสกัดใบมะละกอสด สามารถไปเพิ่มค่าเกล็ดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติได้ ความไม่ตรงกันของผลการทดสอบนี้อาจจะเกิดจากระยะเวลาการเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำและระยะเวลาในการออก ฤทธิ์ของสารสกัดไม่เหมาะสมกัน นอกจากนี้การสร้างโมเดลสัตว์ทดลองที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำให้มีระยะยาวขึ้นและ คงที่อยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อที่จะใช้เป็นโมเดลในการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดในการเพิ่มค่าเกล็ดเลือด จึงจำเป็น ที่จะต้องมีการศึกษาต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The main objective of this study was to develop a dietary supplement from Carica papaya leaf containing the bioactive compound that increases the platelet count in induced thrombocytopenic animals. The results indicated that the papaya leaf extract obtained in this study underwent safety assessment and specification of standardized extract based on the Thai Herbal Pharmacopoeia. The quality of herbal materials, including macroscopical characteristics, microscopical characteristics, DNA barcode for identification of papaya species, physicochemical and phytochemical properties of papaya leaf, and the quality control of the extract and its product were examined. The concentrations of heavy metals; arsenic, mercury, lead, cadmium, and bacterial species, such as Escherichia coli, Clostridium spp., Staphylococcus aureus and Salmonella spp. in the papaya leaf extract were below the FDA-acceptable limits. The phenolic and flavonoid content of the standardized papaya leaf extract were not less than 35 mg of GAE/g and 70 mg QE/ g of extract, respectively. HPLC analysis revealed the presence of rutin, quercetin, gallic acid, catechin, apigenin and kaempferol in the papaya leaf extract. The content of rutin, quercetin and gallic acid were higher than other identified compounds (1,043 ± 7.2, 853.7 ± 6.4 and 873.5 ± 8.5 mg/100 g extract, respectively). HPLC chromatogram revealed that rutin and quercetin were suitable chemical markers of standardized papaya leaf extract. The acute oral toxicity study of the papaya leaf extract with a dose of 5,000 mg/kg body weight was studied in female Wistar rats. No deaths and signs of acute toxicity were observed, and the LD50 is estimated to be above 5,000 mg/kg body weight. For the chronic toxicity study, oral administration of the papaya leaf extract at 100, 400, 1,000 and 5,000 mg/kg body weight were examined in both male and female Wistar rats for 180 days. The results suggested that papaya leaf extract did not cause any toxicological effects. The effect of papaya leaf extracts in increasing the platelet count in normal, and thrombocytopenic Wistar rats were determined. The results showed that the group of normal rats receiving the papaya leaf extract did not significantly change the platelet count compared to the control group. This result was also observed in the group of normal rats that received the papaya fresh leaf extract, suggesting the leaf extract did not affect the normal rats' platelet count. Thrombocytopenic rats were induced by a single intraperitoneal injection of carboplatin (CP). Treatment with papaya leaf extract and fresh leaf extract did not increase the platelet count compared to the CP group. In contrast to the previous result (phase 1), the oral administration of the papaya fresh leaf extract significantly accelerated the increased platelet count compared to the CP group. The discrepancy between these results may be inappropriate for the duration of low platelet count in thrombocytopenic rats and the onset of papaya leaf extract. In addition, establishing an animal model that is prolonged in thrombocytopenia needs further study.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: ภาวะเกล็ดเลือดต่ํา
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นงคราญ ลําจวน . "การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2(Research and development of papaya extract: Implications for patients with thrombocytopenia Phase 2)". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน). 2564

นงคราญ ลําจวน . "การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2(Research and development of papaya extract: Implications for patients with thrombocytopenia Phase 2)". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน). 2564. Print.



TARR Wordcloud:
การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2
นงคราญ ลําจวน
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2564
การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอสําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ต้นแบบถังปฏิกรณ์ชีวภาพผลิตแพลงก์ตอนระดับอุตสาหกรรมแบบต่อเนื่อง เพื่อผลิตอาหารคุณภาพสาหรับบ่ออนุบาลลูกกุ้ง ลูกปลา และผลิตสารสกัดออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามูลค่าสูง การสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในปลานิลและการค้นหาและทดสอบสารต้านหรือยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อดังกล่าวจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อนามาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ การสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในปลานิลและการค้นหาและทดสอบสารต้านหรือยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อดังกล่าวจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อนามาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ ปีที่ 2 การควบคุมแบคทีเรียก่อโรคพืชโดยน้ำหมักชีวภาพและสารสกัดจากใบคตสัง (Combretum trifoliatum Vent.) และฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน ฤทธิ์ของสารสกัดจากใบกฤษณาต่อการแสดงออกของโปรตีน Glial fibrillary acidic protein (GFAP) ในตับอ่อนและไตของหนูที่ถูกเหนี่ยวนําให้เกิดโรคเบาหวาน ฤทธิ์ของสารสกัดกัญชงต่อการป้องกันและรักษาการอักเสบ: แนวทางเพื่อการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID19 การเสริมอาหารกุ้งด้วยสารสกัด sulfated galactans จากสาหร่ายผมนางเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและต้านเชื้อแบคทีเรียตายด่วนในกุ้ง การใช้ประโยชน์จากสารสกัดสมุนไพรคนที่เขมาในทางสัตวแพทย์: ทางเลือกในการรักษามะเร็งในสุนัขและป้องกันการเกิดท้องเสียจากการติดเชื้อแบคทีเรียในสุกรหลังหย่านม การศึกษาเภสัชจลนศาสตร์และประสิทธิผลในการฆ่าพยาธิของสารสกัดจากรากหนอนตายหยากเพื่อประเมินขนาดและระยะเวลาในการให้สารสกัดสําหรับฆ่าพยาธิตัวจี๊ดในหนูทดลอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair