สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ชีวภาพทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมี เพื่อการปลูกมะละกอ ในกลุ่มชุดดินที่ 8
สุรชัย สุวรรณชาติ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ชีวภาพทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมี เพื่อการปลูกมะละกอ ในกลุ่มชุดดินที่ 8
ชื่อเรื่อง (EN): Study on using bio – product to replace chemical-fertilizer and chemical-compound for papaya plant in Soil group No. 8
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุรชัย สุวรรณชาติ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Surachai Suwannachat
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ชีวภาพทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมีเพื่อการปลูกมะละกอในกลุ่มชุดดินที่ 8 ดำเนินการในปี พ.ศ.2549-2551 ณ หมู่ 3 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยวางแผนทดลองแบบ RCBD ประกอบด้วย 5 ตำรับการทดลอง คือ 1) แปลงควบคุม 2) ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี 3) ปอเทือง + ปุ๋ยหมักอัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี 4) ปอเทือง+ปุ๋ยเคมีสูตร 13 – 13 – 21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และ 5) ปอเทือง+ ปุ๋ยหมักอัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี +ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ผลการทดลอง พบว่า การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งปุ๋ยหมักและปุ๋ยพืชสดทำให้อินทรียวัตถุเพิ่มขึ้นในดิน ความสูงของมะละกอ อายุ 120 และ 270 วัน พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในทุกตำรับ โดยตำรับที่ 4 ปอเทือง+ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ทำให้มะละกอมีความสูงสูงสุด คือ 196 เซนติเมตร รองลงมาคือ ตำรับที่ 5 ปอเทือง+ ปุ๋ยหมักอัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี +ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และตำรับที่ 3 ปอเทือง +ปุ๋ยหมักอัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้นต่อปีมะละกอมีความสูง 194 และ 188 เซนติเมตร ตามลำดับ ขณะที่แปลงควบคุมมะละกอมีความสูงน้อยสุด 186 เซนติเมตร ผลผลิตมะละกอเฉลี่ย 2 ปี ตำรับที่ 5 ปอเทือง+ ปุ๋ยหมักอัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี +ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ทำให้มะละกอมีน้ำหนักผลสูงสุด คือ 1,891 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาคือ ตำรับที่ 4 ปอเทือง +ปุ๋ยเคมี สู ตร 13-13-21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และตำรับที่ 2 ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี มะละกอมีน้ำหนักผลผลิต 1,831 และ 1,763 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ สำหรับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ตำรับที่ 4 ปอเทือง +ปุ๋ยเคมีสูตร 13 – 13 – 21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ สูงที่สุด 4,926 บาทต่อไร่ ต่อปี รองลงมา ตำรับที่ 2 ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต้น ต่อปี และ ตำรับที่ 5 ปอเทือง+ปุ๋ยหมัก+ปุ๋ยเคมีสูตร 13 – 13 – 21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ให้ผลตอบแทน 4,731 และ 3,902 บาทต่อไร่ต่อปี ตามลำดับ ส่วนตำรับที่ให้ผลตอบแทนต่ าสุด คือ ตำรับที่ 1 แปลงควบคุม ให้ผลตอบแทน 2,439 บาทต่อไร่ต่อปี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: กลุ่มชุดดิน
คำสำคัญ (EN): soil series
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ชีวภาพทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมี เพื่อการปลูกมะละกอ ในกลุ่มชุดดินที่ 8
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2551
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การจัดการดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกอ้อยแต่ละพันธุ์ตามกลุ่มชุดดิน การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับการใช้ปูนและจุลินทรีย์ควบคุมสาเหตุของโรคพืชเพื่อเพิ่มผลผลิตพริกขี้หนู ในกลุ่มดินชุดที่ 33 ผลการใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำในระบบการลดใช้สารเคมีกับปาล์มน้ำมันในดินชุดที่ 14 การจัดการดินสำหรับปลูกลองกองเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดการใช้สารเคมี ในกลุ่มชุดดินที่ 26 ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการเลือกซื้อปุ๋ยเคมีของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการเลือกซื้อปุ๋ยเคมีของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะปลูกที่เหมาะสมร่วมกับการใช้ปุ๋ยหมัก, น้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 5 ในกลุ่มชุดดินที่ 29 จังหวัดลำปาง การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น 2 ( การสร้างต้นแบบการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติรวมทั้งความพึงพอใจของเกษตรกรในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดลองในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มีความเหมาะสมชั้น 3 (
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก