สืบค้นงานวิจัย
ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส (ต่อเนื่อง) และการทดสอบพันธุ์
นายสุชาติ จุลอดุง - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส (ต่อเนื่อง) และการทดสอบพันธุ์
ชื่อเรื่อง (EN): Continuous improvement of Streptoccosis-resistant Nile tilapia (Oreochromis niliticus) and the performance test
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นายสุชาติ จุลอดุง
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมประมง
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ เพื่อพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ปลานิลให้มีความ ทนทานต่อโรคสเตรปโตคอคโคซิสและยังคงไว้ซึ่งลักษณะการเจริญเติบโตดีด้วยวิธีการคัดเลือก โดยเริ่มดำเนินการ ที่รุ่นที่ 4 (F4) ต่อเนื่องจากโครงการก่อนหน้านี้ (โครงการพัฒนาพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิสโดยใช้ เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ด้วยเครื่องหมายโมเลกุล ระยะที่ 2 สัญญาเลขที่ PRP5905010480) และเพื่อ ดำเนินการทดสอบการแสดงออกของพันธุ์ปลานิลรุ่นที่ 5 (F5) ที่ได้จากโครงการนี้ กระบวนการคัดลือกปรับปรุงพันธุ์ เพื่อให้ได้ปลานิลที่มีความทนทานต่อโรคสเตรปโตคอคโคซิส ใช้วิธีการคัดเลือกแบบครอบครัว โดยพิจารณา ข้อมูลอัตรารอดจากการทดสอบความทนทานเชื้อ Streptococcus agalactiae ร่วมกับข้อมูลการเจริญเติบโต และอัตรารอดตายของปลานิลอายุ 25 สัปดาห์ ผลการเจริญเติบโตของปลานิลอายุ 25 สัปดาห์ในรุ่นที่ 4 ที่เลี้ยง ในอาคารปรับปรุงพันธุ์ พบว่า ปลานิลกลุ่มคัดเลือกและกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยของความยาว น้ำหนัก น้ำหนัก เพิ่มต่อวัน และอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะที่ไม่มีนัยสำคัญในความแตกต่างทางสถิติ (p>0.05) ในขณะที่ ข้อมูลอัตรารอด พบว่า ปลานิลกลุ่มคัดเลือกมีอัตรารอดมากกว่ากลุ่มควบคุม 10.88 เปอร์เซ็นต์โดยมีนัยสำคัญ ในความแตกต่างทางสถิติ (p<0.05) ปลานิลรุ่นที่ 5 ที่เลี้ยงในอาคารปรับปรุงพันธุ์ พบว่า ปลานิลกลุ่มคัดเลือก และกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยความยาว น้ำหนัก น้ำหนักเพิ่มต่อวัน และอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะที่ไม่มีนัยสำคัญ ในความแตกต่างทางสถิติ (p>0.05) ในขณะที่ปลานิลกลุ่มคัดเลือกมีอัตรารอดมากกว่ากลุ่มควบคุม 13.16 เปอร์เซ็นต์โดยมีนัยสำคัญในความแตกต่างทางสถิติ (p<0.05) ขณะที่ปลานิลรุ่นที่ 5 ที่เลี้ยงในกระชังแขวนใน บ่อดิน พบว่า ข้อมูลค่าเฉลี่ยด้านการเจริญเติบโตและอัตรารอดทั้งหมดในกลุ่มคัดเลือกสูงกว่ากลุ่มควบคุม แต่ก็ ปรากฏนัยสำคัญในความแตกต่าง (p<0.05) เฉพาะที่ค่าความยาวเฉลี่ยลำตัวเท่านั้น ความเข้มข้นของ LD50 ที่ คำนวณได้ในรุ่นที่ 4 มีค่าเท่ากับ 6.82x106 CFU (Colony Forming Unit) และในรุ่นที่ 5 มีค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2.18x107 CFU รวมถึงการวิเคราะห์สมการเส้นตรงของ LnLD50 ตั้งแต่รุ่นที่ 1 - 5 ซึ่งปรากฏความลาดเอียงที่ สูงขึ้น แสดงถึงความทนทานต่อเชื้อ S. agalactiae ที่เพิ่มขึ้นในปลานิลที่ผ่านการคัดเลือก ผลจากการฉีดเชื้อ S. agalactiae ที่ความเข้มข้น 107 CFU พบว่า ปลานิลกลุ่มคัดเลือกรุ่นที่ 4 มีอัตรารอดเฉลี่ย 66.85±26.42 เปอร์เซ็นต์ และในรุ่นที่ 5 เพิ่มขึ้นเป็น 73.65±21.68 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าสายพันธุ์เอกชนที่นำมาเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ทั้ง 2 รุ่น ค่าอัตราพันธุกรรมของลักษณะความทนทานเชื้อ S. agalactiae ซึ่งมีค่าเท่ากับ 0.057±0.023 ในรุ่นที่ 4 และ 0.055±0.025 ในรุ่นที่ 5 และค่าตอบสนองต่อการคัดเลือกที่มีค่า 1.56 ในรุ่นที่ 4 และ 1.45 ในรุ่นที่ 5 มีค่าใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในรุ่นที่ 3 ก่อนหน้านี้ การทดสอบพันธุ์ปลา นิลรุ่นที่ 5 ในฟาร์มเกษตรกร ปรากฏข้อมูลว่าปลานิลรุ่นที่ 5 มีอัตรารอดเฉลี่ยสูงกว่าปลานิลสายพันธุ์เอกชนที่ นำมาเปรียบเทียบ 7 - 9 เปอร์เซ็นต์ จึงสรุปรวมว่า ข้อมูลการเจริญเติบโต อัตรารอดจากการเลี้ยงและทดสอบ ความทนทานเชื้อ S. agalactiae และการทดสอบพันธุ์ แสดงให้เห็นแนวโน้มในด้านความแข็งแรงทนทานของ ปลานิลสายคัดเลือกรุ่นที่ 5 ที่สูงขึ้น และยังคงไว้ซึ่งลักษณะการเจริญเติบโตดีของปลานิล
บทคัดย่อ (EN): Two main objectives of this research project were, firstly, to improve and develop Nile tilapia to the trait of Streptococcosis-resistance with the well growing still being kept by continuing the selectivebreeding on the 4th generation fish (F4 ) obtained from the previous project (Development of Streptococcosis-resistant Nile tilapia, Oreochromis niloticus, based on marker-assisted breeding: phase 2, No. PRP5905010480); and, secondly, to carry out performance tests of the 5th generation (F5 ) obtained from the present project. The selective breeding program was by family selection technique, using the survival rate from the resistance test of Streptococcus agalactiae injection together with growth and survival rates from the fish culture, both indoor and outdoor, as the data to be considered. A number of data of the select and control fish at the age of 25 weeks were informed by the indoor culture (culturing in cement ponds). The select and control of the 4thgeneration were found not to be significantly different (p>0.05) by the averages of length, weight, daily weigth gain and specific growth rate, whereas the survival rate of the select fish was found to be 10.88 percent significantly higher (p<0.05) than that of the control. Similarly, the select and control of the 5th generation were found not to be significantly different (p>0.05) by the averages of length, weight, daily weigth gain and specific growth rate, whereas the survival rate of the select fish was found to be 13.16 percent significantly higher (p<0.05) than that of the control. For the outdoor culture (cage-culturing in earthen ponds) of the 5th generation fish, the select, at the age of 25 weeks, were found to have all averaged data of the growth and survival to be higher than those of the control, although significant difference (p<0.05) was shown only in the body length. The LD50 concentration calculated in the 4th selected generation was 6.82x106 CFU (Colony Forming Unit) and the 5 th selected generation was increased to 2.18x107 CFU. Linear equation analysis of the LnLD50 values of the 1st –5 th selected generations showed the upper slope, confirming the more resistance of the latest generation in this selective breeding program. The S. agalactiae injection with 107 CFU showed that averaged survival rate of the 4th selected generation was 66.85±26.42 percent and increased to 73.65±21.68 percent in the 5th selected generation. The both selected generations, moreover, showed averaged survival rates being significantly higher (p<0.05) than those of the comparative private strains. The estimated heritabilities and responses to selection, which respectively were 0.057±0.023 and 1.56 in the 4th generation and 0.055±0.025 and 1.45 in the 5th generation, were relatively close to the values previously estimated in the 3rd generation. On-farm tests showed that the 5th selected generation appeared averaged survival rates 7 –9 percent higher than those appeared by the comparative private strains. Conclusively, informations of growth and survival rates obtained from the fish culture, S. agalactiaeinjection and the on-farm tests suggested the trend of higher resistance with the good growth still being in the 5th selected generation.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: การทดสอบพันธุ์
คำสำคัญ (EN): performance test
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมประมง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นายสุชาติ จุลอดุง . "ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส (ต่อเนื่อง) และการทดสอบพันธุ์Continuous improvement of Streptoccosis-resistant Nile tilapia (Oreochromis niliticus) and the performance test". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) . 2566

นายสุชาติ จุลอดุง . "ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส (ต่อเนื่อง) และการทดสอบพันธุ์Continuous improvement of Streptoccosis-resistant Nile tilapia (Oreochromis niliticus) and the performance test". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) . 2566. Print.



TARR Wordcloud:
ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส (ต่อเนื่อง) และการทดสอบพันธุ์
นายสุชาติ จุลอดุง
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2566
การพัฒนาวัคซีนอนุภาคนาโนแบบแช่เพื่อใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อแบคทีเรียคอรัมนาริสและโรคติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคอซิสในปลานิล การพัฒนาวิธีการตรวจโรคไวรัสอุบัติใหม่และแยกเชื้อทิลาเปียพาร์โวไวรัสในฟาร์มปลานิลและปลานิลแดง การพัฒนาตํารับยาห้ารากชนิดสกัดเพื่อรักษาโรคลัมปีสกินในโค-กระบือ การทดลองเลี้ยงปลานิลโดยใช้หญ้าเนเปียร์ของเกษตรกร อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย การสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในปลานิลและการค้นหาและทดสอบสารต้านหรือยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อดังกล่าวจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อนามาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ การสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในปลานิลและการค้นหาและทดสอบสารต้านหรือยับยั้งการสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อดังกล่าวจากสารสกัดธรรมชาติเพื่อนามาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ ปีที่ 2 การสร้างวิธีตรวจสุขภาพกุ้งเพื่อคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ และลูกกุ้งที่ทนต่อโรคไวรัสตัวแดงดวงขาว การปรับปรุงพันธุ์ข้าวลูกผสมเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสำหรับการแปรรูปเชิงอุตสาหกรรม ระยะที่ 2 ปีที่ 2 การศึกษาประสิทธิภาพของตํารับยาสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ โพรไบโอติกในการเสริมภูมิคุ้มกัน และยับยั้งกลไกการเข้าสู่เซลล์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) เพื่อนําประยุกต์ การสํารวจโรคติดเชื้อโคโรนาและโควิด 19 ในปศุสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair