สืบค้นงานวิจัย
อิทธิพลของพลาสติไซเซอร์ต่อคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของแผ่นอัลจิเนตฟิล์มที่ประกอบด้วยตัวยาต้นแบบ
Yupin Mitpracha - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: อิทธิพลของพลาสติไซเซอร์ต่อคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของแผ่นอัลจิเนตฟิล์มที่ประกอบด้วยตัวยาต้นแบบ
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of plasticizers on physicochemical properties of alginate film containing model drug
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Yupin Mitpracha
บทคัดย่อ: อัลจิเนตฟิล์มที่ได้จากการไขว้เชื่อมโดยการเติมแคลเซียมคลอไรด์ลงในตำรับแล้วจึงเทเป็นฟิล์ม ตัวยา ต้นแบบที่ใช้คือไดโคลฟีแนคและ อะเซตามิโนเฟนซึ่งมีความแตกต่างกันเรื่องคุณสมบัติทางอิออน อิทธิพล ของพลาสติไซเซอร์ ได้แก่ กลีเซอรีน โพลีเอทิลีนไกลคอล400 (PEG400) โพรพิลลีนไกลคอล (PG) ในช่วง ปริมาณ 2.5%-30% โดยน้ำหนัก ได้ถูกนำมาใช้เพื่อประเมินผลถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณสมบัติทางเคมี ฟิสิกส์ของแผ่นฟิล์มอัลจิเนตที่บรรจุด้วยยาต้นแบบเทียบกับที่ไม่ได้บรรจุยา โดยศึกษาถึงคุณสมบัติเชิงกล การซึมผ่านน้ำของฟิล์ม การดูดซับความชื้น ปริมาณยาที่บรรจุในฟิล์มและการปลดปล่อยตัวยา ผลการศึกษา พบว่าทุกตำรับสามารถเทเป็นฟิล์มและทำให้แห้งได้ง่าย แผ่นฟิล์มอัลจิเนตที่ไม่ได้บรรจุยามีความหนา 4-7 ไมโครเมตร และถ้าบรรจุด้วยตัวยาต้นแบบจะมีความหนา 14-24 ไมโครเมตร ฟิล์มที่ได้จะสามารถ ปลดปล่อยตัวยาได้อย่างรวดเร็ว โดยปลดปล่อยมากกว่าร้อยละ 80 ภายใน 5 นาทีในเกือบทุกตำรับ แผ่นฟิล์มอัลจิเนตที่มีอะเซตามิโนเฟนและ กลีเซอรีนร้อยละ 30 ในตำรับจะให้ค่าความต้านแรงดึงลดลง ค่า การยืดของฟิล์มเพิ่มขึ้น และค่าอัตราการซึมผ่านน้ำของฟิล์มต่ำที่สุด ส่วน PEG400 และ PG ในระดับความ เข้มข้นต่ำสุดจะให้ค่าการดูดซับความชื้นของฟิล์มอัลจิเนตที่ต่ำ ภายหลังจากการเก็บไว้ที่ความชื้นสัมพัทธ์ 75% และ 100% เป็นเวลา 20 วัน ในขณะที่ฟิล์มอัลจิเนตที่มีไดโครฟีแนคจะพบว่า เมื่อใช้กลีเซอรีนร้อยละ 2.5 หรือ PG ร้อยละ 12.5 ของตำรับจะเหมาะสมกว่า อีกทั้งกลีเซอรีนร้อยละ 2.5 ของตำรับจะให้ค่าอัตราการ ซึมผ่านน้ำในขนาดต่ำที่สุดด้วย และ เมื่อใช้ปริมาณกลีเซอรีน หรือ PG ในขนาดที่เพิ่มขึ้นในตำรับของฟิล์มอัล จิเนตที่มีไดโคลฟีแนค พบว่าจะทำให้การปลดปล่อยตัวยาเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามพบว่าไม่มีพลาสติไซ เซอร์ใดเหมาะสมสำหรับฟิล์มอะเซตามิโนเฟน
บทคัดย่อ (EN): m for alginate film without and with model drug, respectively. Immediate release pattern of the films were shown (i.e., more than 80% of the drug was released from almost all of the formulations within 5 minutes). Acetaminophen alginate film with 30% glycerin showed a decrease in tensile strength, increase in elongation of the film and the lowest of water vapor transmission rate. The films containing the lowest concentration of PEG400 and PG showed the low moisture content after storage in 75%RH and 100%RH for 20 days. It was shown 2.5% glycerin and 12.5% PG were suitable for plasticizers diclofenac alginate film. Diclofenac alginate film with 2.5% glycerin showed the lowest water vapor transmission rate. Additionally, it was found that the higher concentrations of glycerin or PG, the higher drug release for diclofenac alginate film. However, it was shown that none of the plasticizers used was suitable for alginate film containing acetaminophen.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4767&obj_id=4496
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Transdermal Medication
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: อัลจิเนตฟิล์มที่ได้จากการไขว้เชื่อมโดยการเติมแคลเซียมคลอไรด์ลงในตำรับแล้วจึงเทเป็นฟิล์ม ตัวยา ต้นแบบที่ใช้คือไดโคลฟีแนคและ อะเซตามิโนเฟนซึ่งมีความแตกต่างกันเรื่องคุณสมบัติทางอิออน อิทธิพล ของพลาสติไซเซอร์ ได้แก่ กลีเซอรีน โพลีเอทิลีนไกลคอล400 (PEG400) โพรพิลลีนไกลคอล (PG) ในช่วง ปริมาณ 2.5%-30% โดยน้ำหนัก ได้ถูกนำมาใช้เพื่อประเมินผลถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณสมบัติทางเคมี ฟิสิกส์ของแผ่นฟิล์มอัลจิเนตที่บรรจุด้วยยาต้นแบบเทียบกับที่ไม่ได้บรรจุยา โดยศึกษาถึงคุณสมบัติเชิงกล การซึมผ่านน้ำของฟิล์ม การดูดซับความชื้น ปริมาณยาที่บรรจุในฟิล์มและการปลดปล่อยตัวยา ผลการศึกษา พบว่าทุกตำรับสามารถเทเป็นฟิล์มและทำให้แห้งได้ง่าย แผ่นฟิล์มอัลจิเนตที่ไม่ได้บรรจุยามีความหนา 4-7 ไมโครเมตร และถ้าบรรจุด้วยตัวยาต้นแบบจะมีความหนา 14-24 ไมโครเมตร ฟิล์มที่ได้จะสามารถ ปลดปล่อยตัวยาได้อย่างรวดเร็ว โดยปลดปล่อยมากกว่าร้อยละ 80 ภายใน 5 นาทีในเกือบทุกตำรับ แผ่นฟิล์มอัลจิเนตที่มีอะเซตามิโนเฟนและ กลีเซอรีนร้อยละ 30 ในตำรับจะให้ค่าความต้านแรงดึงลดลง ค่า การยืดของฟิล์มเพิ่มขึ้น และค่าอัตราการซึมผ่านน้ำของฟิล์มต่ำที่สุด ส่วน PEG400 และ PG ในระดับความ เข้มข้นต่ำสุดจะให้ค่าการดูดซับความชื้นของฟิล์มอัลจิเนตที่ต่ำ ภายหลังจากการเก็บไว้ที่ความชื้นสัมพัทธ์ 75% และ 100% เป็นเวลา 20 วัน ในขณะที่ฟิล์มอัลจิเนตที่มีไดโครฟีแนคจะพบว่า เมื่อใช้กลีเซอรีนร้อยละ 2.5 หรือ PG ร้อยละ 12.5 ของตำรับจะเหมาะสมกว่า อีกทั้งกลีเซอรีนร้อยละ 2.5 ของตำรับจะให้ค่าอัตราการ ซึมผ่านน้ำในขนาดต่ำที่สุดด้วย และ เมื่อใช้ปริมาณกลีเซอรีน หรือ PG ในขนาดที่เพิ่มขึ้นในตำรับของฟิล์มอัล จิเนตที่มีไดโคลฟีแนค พบว่าจะทำให้การปลดปล่อยตัวยาเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามพบว่าไม่มีพลาสติไซ เซอร์ใดเหมาะสมสำหรับฟิล์มอะเซตามิโนเฟน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
อิทธิพลของพลาสติไซเซอร์ต่อคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของแผ่นอัลจิเนตฟิล์มที่ประกอบด้วยตัวยาต้นแบบ
Yupin Mitpracha
มหาวิทยาลัยมหิดล
2551
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างยา 5% อิมิควิมอดครีมตามด้วยแผ่นปิดกับยาหลอกตามด้วยแผ่นปิด ร่วมกับ 20% ซาลิไซลิก แอซิด ในการรักษาหูดธรรมดาชนิดที่พบบ่อย อิทธิพลของอันตรกิริยาระหว่างยากับโพลิเมอร์ต่อคุณสมบัติทางเคมีกายภาพและการปลดปล่อยตัวยาจากยาเม็ดมาทริกซ์ องค์ประกอบของแอนโทไซยานินจากกาบปลีกล้วยป่าในประเทศไทย อิทธิพลของสารตัวเติมลูกผสมกลุ่มซิลิกา (เถ้าชานอ้อย/เถ้าลอย/พรีซิพิเตตซิลิกา) ที่มีต่อสมบัติการสุกตัวและเชิงกลของวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติ การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยา การวิเคราะห์รูปแบบนิวคลีโอไทด์ 3 ตัว (Oligonucleotide Triplets) ในการจำแนกชนิดของไซยาโนแบคทีเรีย ผลขององค์ประกอบผงสมุนไพรที่มีต่อการพัฒนาตำรับยาเม็ด คุณสมบัติทางกายภาพและทางกลของแผ่นฟิล์มไคโตซาน-เจลาติน การศึกษาผลของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟคลินในส่วนประกอบของเลือด การสกัดไคโตซานจากเกล็ดปลานิลเพื่อการผลิตแผ่นฟิล์มที่บริโภคได้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก