สืบค้นงานวิจัย
การกำจัดตะกั่วโดยพืชน้ำในระบบไฮโดรโพนิก
Prayooth Yaowakhan - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การกำจัดตะกั่วโดยพืชน้ำในระบบไฮโดรโพนิก
ชื่อเรื่อง (EN): Removal of lead by aquatic macrophytes under hydroponic conditions
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Prayooth Yaowakhan
บทคัดย่อ: ตะกั่วเป็นโลหะหนักที่ก่อปัญหาทางสิ่งแวดล้อมในแหล่งน้ำ จากการศึกษากระบวนการการ กำจัดและดูดซับตะกั่วในก่อนหน้านี้พบว่ามีพืชน้ำหลายชนิดถูกใช้ในการกำจัดตะกั่วจากแหล่งน้ำ ปนเปื้อน พืชน้ำ 4 ชนิด ได้แก่ Ceratophyllum demersum, Hygrophila difformis, Cabomba caroliniana และ Ludwigia hyssopifolia ได้รับการคัดเลือกให้ใช้ในการศึกษาการบำบัดแหล่ง น้ำที่ปนเปื้อนตะกั่วภายใต้ปัจจัยควบคุมที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ความเข้มข้นของตะกั่ว (0, 0.1, 1 และ 10 ppm), ระยะเวลาการดูดซับ (0, 3, 6, 9, 12, และ 15 วัน), ค่าความเป็นกรดด่าง (3, 5, 5.7 และ 7), การเติมสารคีเลเตอร์ (ทั้ง EDTA และ HEDTA ที่ ความเข้มข้น 0.5 และ 1 ไมโครโมลาร์) และการ เติมสารไบคาร์บอเนต (ความเข้มข้น 0.5 และ 1 ไมโครโมลาร์) ผลการศึกษาได้นำเสนอเป็นค่า เปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตของพืช การสะสมตะกั่วในเนื้อเยื่อพืช (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนัก แห้งพืช) ความเข้มข้นของตะกั่วที่เหลืออยู่ในสารละลาย ค่าเปอร์เซ็นต์การกำจัดตะกั่ว และค่าปัจจัย ความเข้มข้นทางชีวภาพ (BCF) จากผลการศึกษาพบว่า H. difformis และ L. hyssopifolia เป็นพืชน้ำที่มีค่าการเจริญเติบโต สูงสุดและต่ำสุดในทุกระดับความเข้มข้นตะกั่วตามลำดับ ค่าการดูดซับตะกั่วของพืชน้ำจะเพิ่มขึ้น ตามความเข้มข้นตะกั่วแรกเริ่มและแตกต่างกันไปในพืชน้ำแต่ละชนิด พืชน้ำทั้งสี่ชนิดแสดงให้เห็น ถึงค่า BCF และค่าเปอร์เซ็นต์การกำจัดตะกั่วที่ลดลงเมื่อความเข้มข้นตะกั่วแรกเริ่มเพิ่มขึ้น ความ เป็นกรดด่างมีผลต่อการดูดซับและสะสมตะกั่วของพืชน้ำ ที่พีเอช 3 พืชมีการดูดซับและสะสมตะกั่ว มากที่สุด การเติมคีเลเตอร์ส่งผลให้การดูดซับและการสะสมตะกั่วในพืชลดลงอย่างมาก ส่วนการ เติมสารไบคาร์บอเนตทำให้เกิดการตรึงโลหะหนักซึ่งทำให้การดูดซับและการสะสมตะกั่วน้อยลง เช่นกัน การศึกษานี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการกำจัดตะกั่วจากแหล่งน้ำปนเปื้อนได้
บทคัดย่อ (EN): M). The results were shown as percentage relative growth, lead concentration in plants (mg/kg dry weight), lead remaining in residual solution (mg/L), percentage removal, and bioconcentration factor (BCF). The results revealed that H. difformis and L. hyssopifolia showed the highest and lowest relative growth at each concentration, respectively. Lead accumulation increased according to the initial concentration and varied depending on plant species. At very low concentration (0.1 ppm), H. difformis showed the highest accumulation (348 mg/kg dry weight after 9 days of exposure). But at higher concentration, C. demersum showed substantial accumulation. All four plant species showed the reduction in BCF, and percentage lead removal when lead concentration was increased. Lead uptake and accumulation were highly pH dependent, decreasing with pH. Good performances were obtained at pH 3. The addition of chelators showed a significant decrease in lead uptake and accumulation in all plant species. The bicarbonate seemed to play a role in the chemical stabilization of lead and consequently in a decrease of lead uptake and accumulation. This study could be applied for removal of lead in contaminated water resources
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3170&obj_id=2813
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Removal
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ตะกั่วเป็นโลหะหนักที่ก่อปัญหาทางสิ่งแวดล้อมในแหล่งน้ำ จากการศึกษากระบวนการการ กำจัดและดูดซับตะกั่วในก่อนหน้านี้พบว่ามีพืชน้ำหลายชนิดถูกใช้ในการกำจัดตะกั่วจากแหล่งน้ำ ปนเปื้อน พืชน้ำ 4 ชนิด ได้แก่ Ceratophyllum demersum, Hygrophila difformis, Cabomba caroliniana และ Ludwigia hyssopifolia ได้รับการคัดเลือกให้ใช้ในการศึกษาการบำบัดแหล่ง น้ำที่ปนเปื้อนตะกั่วภายใต้ปัจจัยควบคุมที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ความเข้มข้นของตะกั่ว (0, 0.1, 1 และ 10 ppm), ระยะเวลาการดูดซับ (0, 3, 6, 9, 12, และ 15 วัน), ค่าความเป็นกรดด่าง (3, 5, 5.7 และ 7), การเติมสารคีเลเตอร์ (ทั้ง EDTA และ HEDTA ที่ ความเข้มข้น 0.5 และ 1 ไมโครโมลาร์) และการ เติมสารไบคาร์บอเนต (ความเข้มข้น 0.5 และ 1 ไมโครโมลาร์) ผลการศึกษาได้นำเสนอเป็นค่า เปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตของพืช การสะสมตะกั่วในเนื้อเยื่อพืช (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนัก แห้งพืช) ความเข้มข้นของตะกั่วที่เหลืออยู่ในสารละลาย ค่าเปอร์เซ็นต์การกำจัดตะกั่ว และค่าปัจจัย ความเข้มข้นทางชีวภาพ (BCF) จากผลการศึกษาพบว่า H. difformis และ L. hyssopifolia เป็นพืชน้ำที่มีค่าการเจริญเติบโต สูงสุดและต่ำสุดในทุกระดับความเข้มข้นตะกั่วตามลำดับ ค่าการดูดซับตะกั่วของพืชน้ำจะเพิ่มขึ้น ตามความเข้มข้นตะกั่วแรกเริ่มและแตกต่างกันไปในพืชน้ำแต่ละชนิด พืชน้ำทั้งสี่ชนิดแสดงให้เห็น ถึงค่า BCF และค่าเปอร์เซ็นต์การกำจัดตะกั่วที่ลดลงเมื่อความเข้มข้นตะกั่วแรกเริ่มเพิ่มขึ้น ความ เป็นกรดด่างมีผลต่อการดูดซับและสะสมตะกั่วของพืชน้ำ ที่พีเอช 3 พืชมีการดูดซับและสะสมตะกั่ว มากที่สุด การเติมคีเลเตอร์ส่งผลให้การดูดซับและการสะสมตะกั่วในพืชลดลงอย่างมาก ส่วนการ เติมสารไบคาร์บอเนตทำให้เกิดการตรึงโลหะหนักซึ่งทำให้การดูดซับและการสะสมตะกั่วน้อยลง เช่นกัน การศึกษานี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการกำจัดตะกั่วจากแหล่งน้ำปนเปื้อนได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การกำจัดตะกั่วโดยพืชน้ำในระบบไฮโดรโพนิก
Prayooth Yaowakhan
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การเลี้ยงปลาดุกลูกผสมในบ่อซีเมนต์ระบบหมุนเวียนร่วมกับระบบการปลูกพืชไฮโดรโพนิคส์ การบำบัดตะกั่วโดยต้นสาปเสือ chromolaena odorata : การทดลองในภาวะไฮโดรโพนิก และในดิน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์ สารสกัดจากพืชที่กำจัดศัตรูพืช-สัตว์ได้เพื่อช่วยลดการให้สารกำจัดศัตรูพืช-สัตว์อันตรายทางการเกษตร การสะสมการแพร่กระจายของโลหะหนักบางชนิดในน้ำ ดินตะกอน และพืชน้ำ ในระบบคลองของจังหวัดราชบุรีและสมุทรสงครา การออกแบบระบบระบายน้ำในท้องถิ่น ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับมาตรการอนุรักษ์ดิน โดยใช้วัสดุอินทรีย์ในระบบพืชที่มีพืชน้ำมันเ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกำจัดธาตุอาหารทางชีวภาพสำหรับบำบัดน้ำเสียชุม ปริมาณโลหะหนักบางชนิดในน้ำบริเวณป่าชายเลนที่รับน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี การใช้สาหร่ายทะเลบำบัดคุณภาพน้ำในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก