สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของกล้วยไม้ประดับของไทย
พัชรียา บุญกอแก้ว - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของกล้วยไม้ประดับของไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Increasing Competitiveness Potential of Thailand Ornamental Orchids
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อศึกษาความหลากหลาย สถานภาพและศักยภาพของกล้วยไม้ดินสกุลเป้าหมาย 4 สกุล ได้แก่ Calanthe, Habenaria, Pecteilis, Spathoglottis และกล้วยไม้ดินสกุลอื่นในสภาพธรรมชาติ โดยการสำรวจเก็บข้อมูลในถิ่นอาศัยทั้งในและนอกพื้นที่อนุรักษ์ ผลการศึกษา พบกล้วยไม้ดินในสกุล Calanthe, Habenaria, และ Spathoglottis จำนวน 3, 8, 3 ชนิดตามลำดับ โดยไม่พบสกุล Pecteilis เลย นอกจากนี้ยังพบกล้วยไม้ดินสกุลอื่นอีกรวม 22 สกุล 33 ชนิด ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงถึงความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของกล้วยไม้ดินจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพทางนิเวศของถิ่นอาศัยของกล้วยไม้ดิน และการลักลอบเก็บเพื่อการค้า การวิจัยในอนาคตควรเน้นการศึกษาด้านชีววิทยาการสืบพันธุ์จากต้นพืชในธรรมชาติ ในถิ่นอาศัยของพืช และเก็บเฉพาะฝักและมาเพิ่มปริมาณในห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนา ปรับปรุงพันธุ์และส่งต้นพันธุ์แท้คืนสู่ธรรมชาติในเขตอนุรักษ์ต่อไป โดยหลีกเลี่ยงการขุด เก็บต้นมาดำเนินการในห้องปฏิบัติการซึ่งอาจเป็นเหตุให้สูญพันธุ์ได้รวบรวมกล้วยไม้ดินใบหมาก 3 สายพันธุ์ สีชมพู เหลืองและขาว เพื่อใช้เป็นต้นพ่อแม่พันธุ์ในการสร้างลูกผสม พบว่าลักษณะทางสัณฐานวิทยาของกล้วยไม้ลูกผสมทั้ง 3 สายพันธุ์ มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก ต่างกันเพียงลักษณะสีของกลีบดอก แต่เนื่องจากกล้วยไม้ดินดอกสีขาวไม่ทนทานต่อสภาพอุณหภูมิสูงและมีอาการโคนเน่าง่าย จึงคัดออกจากแผนการปรับปรุงพันธุ์ การศึกษาจำนวนโครโมโซมของกล้วยไม้ดินลูกผสมสีชมพูพันธุ์ ‘จุฬาลักษณ์’ และลูกผสมดอกสีเหลือง พบว่ามีจำนวนโครโมโซม 2n = 2x = 40 การผสมตัวเองของลูกผสม ‘จุฬาลักษณ์’ มีอัตราการผสมติดเป็น 54.00 เปอร์เซ็นต์ และลูกผสมสีเหลืองมีอัตราการผสมติด 71.43 เปอร์เซ็นต์ กรณีผสมข้ามเมื่อให้ลูกผสม ‘จุฬาลักษณ์’ เป็นต้นแม่พันธุ์ พบว่า มีอัตราการผสมติด 69.23 เปอร์เซ็นต์ ถ้าให้ลูกผสมสีเหลืองเป็นต้นแม่พันธุ์ จะมีอัตราการผสมติด 50 เปอร์เซ็นต์ สูตรอาหารที่เหมาะในการเพาะเมล็ดกล้วยไม้ลูกผสม คือ อาหารสูตร ? MS ในสภาพมีแสง โดยเมล็ดจากคู่ผสม สีเหลือง x สีเหลือง มีอัตราการงอกสูงกว่าเมล็ดจากคู่ผสม สีเหลือง x ‘จุฬาลักษณ์’ แต่อัตราการงอกของเมล็ดเป็น 0 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้ลูกผสม ‘จุฬาลักษณ์’ เป็นต้นแม่ในการผสมตัวเองและผสมข้าม เนื่องจากเมล็ดลูกผสมเป็นเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ หลังจากโปรโตคอร์มพัฒนาเป็นต้น พบว่าต้นลูกผสมที่ได้จากการผสมข้ามระหว่าง สีเหลือง x ‘จุฬาลักษณ์’ มีการเจริญเติบโตและการแตกกอมากกว่าลูกผสมที่ได้จาก สีเหลือง x สีเหลือง แต่ยังไม่มีการคัดเลือกลูกผสมเนื่องจากถูกน้ำท่วมเสียหายการเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์กล้วยไม้ในสภาพปลอดเชื้อ มุ่งศึกษาในกลุ่มกล้วยไม้ดินพื้นเมืองบางชนิด ได้แก่ กล้วยไม้ดินใบหมาก คาลันเธ กล้วยไม้ดินลิ้นมังกร และเอื้องใบไผ่ เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นไม้กระถาง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด การเพิ่มจำนวนต้น และการเจริญเติบโตของต้นอ่อนกล้วยไม้ในสภาพปลอดเชื้อ ตลอดจนส่งต่อต้นอ่อนกล้วยไม้ที่ได้จากการทดลองให้กับโครงการที่ 4 ด้วย จากผลการศึกษา 3 การทดลอง พบว่า 1) อายุฝักที่เหมาะสมต่อการงอกของกล้วยไม้ดินใบหมากประมาณ 3-4 สัปดาห์ คาลันเธประมาณ 6-8 สัปดาห์ กล้วยไม้ดินลิ้นมังกร 6 สัปดาห์ สูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ดกล้วยไม้ดินพื้นเมืองดังกล่าว คือ อาหารแข็งสูตร Vacin and Went (1949) (VW) ดัดแปลง โดยเติมน้ำมะพร้าว 100 มล./ล. น้ำตาล 20 ก./ล. วางไว้ในสภาพที่ได้รับแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ 12 ชม.ต่อวัน อุณหภูมิ 25+2 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ พบว่า อาหารเหลวสูตร VW ดัดแปลง เติมน้ำมะพร้าว 150 มล./ล. น้ำต้มมันฝรั่ง 200 มล./ล. น้ำตาล 20 ก./ล. วางไว้บนเครื่องเขย่าในสภาพมืด อุณหภูมิ 25+2 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการงอกของเมล็ดอั้วนวลจันทร์ด้วย 2) การเพิ่มจำนวนต้นหรือหน่อของอั้วนวลจันทร์ ทำได้โดยเลี้ยงลำลูกกล้วยที่ผ่าตามขวางในอาหารเหลว VW ดัดแปลง โดยเติมน้ำมะพร้าว 150 มล./ล. น้ำตาล 10 ก./ล. วางไว้ในสภาพที่ได้รับแสง 12 ชม.ต่อวัน อุณหภูมิ 25+2 องศาเซลเซียส 3) สูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นกล้ากล้วยไม้ดินใบหมาก คือ อาหารแข็งสูตร VW ดัดแปลง โดยเติมน้ำมะพร้าว 100 มล./ล. กล้วยหอม 100 ก./ล. น้ำตาล 20 ก./ล. ในขณะที่เอื้องใบไผ่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสูตรอาหารแข็งที่ใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ 20-20-20 อัตรา 1 ก./ล. น้ำมะพร้าว 100 มล./ล. กล้วยน้ำว้า/กล้วยหอม 20 ก./ล. ซึ่งเป็นสูตรที่ใช้แทนสารเคมีจากอาหารสูตร VW ได้ การพัฒนารูปแบบการใช้งานของกล้วยไม้ดินให้มีความหลากหลาย จะเป็นการเพิ่มมูลค่าของกล้วยไม้ให้สูงขึ้นได้ การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวัสดุปลูกที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ดินและรูปแบบภาชนะที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับการปลูกกล้วยไม้ดินในสภาพไม้ดอกกระถาง การศึกษาวัสดุปลูกที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ดิน แบ่งออกเป็น 4 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีจากวัสดุปลูกอัดเม็ดที่สูตรผสมต่าง ๆ กัน โดยใช้ส่วนผสมของซีโอไลต์ : ขุยมะพร้าว : ดินเหนียว ในอัตราส่วน 8:1:1, 5:1:4 และ 1:1:8 และนำไปเผาที่อุณหภูมิ 300?c, 600?c และ 900?c ตามลำดับ เพื่อหาคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีที่เหมาะสม พบว่า วัสดุปลูกอัดเม็ดที่ประกอบด้วยซีโอไลต์: ขุยมะพร้าว: ดินเหนียว อัตราส่วน 1:1:8 เผาที่ระดับอุณหภูมิ 600 และ 900?c มีน้ำหนักหลังเผา 72.25-82.61 g มีการสลายตัวในน้ำน้อย เท่ากับ 3.02-3.77 % และมีการดูดซึมน้ำเท่ากับ 32.50-39.95 % และมีค่าความเป็นกรด-ด่างเท่ากับ 5.3-6.4 ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการใช้เป็นวัสดุปลูกสำหรับกล้วยไม้ดิน การทดลองที่ 2 ผลของวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ดินใบหมากลูกผสมพันธุ์จุฬาลักษณ์ เป็นการศึกษาวัสดุปลูกและจำนวนต้นต่อกอที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ดินใบหมากลูกผสมพันธุ์จุฬาลักษณ์ พบว่าการย้ายปลูกจาก 1 ต้นต่อกอ วัสดุปลูกที่เหมาะสมที่สุด คือ เพอร์ไลท์ ส่วนการย้ายปลูกจาก 3 ต้นต่อกอ วัสดุปลูกที่เหมาะสมที่สุดคือกาบมะพร้าวสับ หรือเพอร์ไลท์ผสมกาบมะพร้าวสับอัตราส่วน1:1 หรือซีโอไลท์ผสมกาบมะพร้าวสับอัตราส่วน 1:1 การทดลองที่ 3 การศึกษาวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตและการออกดอกของกล้วยไม้ดินใบหมากลูกผสม โดยนำวัสดุปลูกอัดเม็ด (ซีโอไลต์ : ขุยมะพร้าว : ดินเหนียว อัตราส่วน 1:1:8 เผาที่ระดับอุณหภูมิ 900?c ผสมกับกาบมะพร้าวสับในอัตราส่วนที่ต่างกัน พบว่ากาบมะพร้าวสับและวัสดุปลูกอัดเม็ดสามารถใช้ได้กับการเจริญเติบโตและออกดอกของกล้วยไม้ดินใบหมากลูกผสมพันธุ์เหลืองอำไพ ส่วนพันธุ์ประกายแสดพบว่าวัสดุปลูกอัดเม็ดต่อกาบมะพร้าวสับอัตราส่วน 1:1 เป็นวัสดุปลูกที่เหมาะกับการนำมาใช้ปลูกเลี้ยงมากที่สุด การทดลองที่ 4 การศึกษาวัสดุปลูกต่อการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ดินอั้วนวลจันทร์ในสภาพโรงเรือน พบว่าวัสดุปลูกที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นกล้วยไม้ Calanthe vestita คือ ขุยมะพร้าว หรือ กาบมะพร้าวสับ หรือดินใบก้ามปู ผสมกับดินเผา อัตราส่วน 1:1 โดยเครื่องปลูกกลุ่มนี้มีผลทำให้ ความกว้างใบ ความยาวใบ ความสูงต้นสูงที่สุด การศึกษารูปแบบภาชนะที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับการปลูกกล้วยไม้ดิน 5 พันธุ์ โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ทาง Internet มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 420 คน ผลการสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อกล้วยไม้ดินใบหมากลูกผสมพันธุ์จุฬาลักษณ์ (Spathoglottis hybrid ‘Julaluk’) ที่ปลูกในกระถางรูปแบบกลมเคลือบสีน้ำเงินขนาดกลาง พันธุ์ Spathoglottis hybrid ‘Yellow’ ที่ปลูกในกระถางรูปแบบเหลี่ยมดินเผาขนาดกลาง พันธุ์ Calanthe rosea (Lindl.) Benth. และพันธุ์ Calanthe rubens Ridl. ที่ปลูกในกระถางรูปแบบเหลี่ยมดินเผาขนาดเล็ก และพันธุ์ Habenaria rhodocheila Hance ที่ปลูกในกระถางรูปแบบสี่เหลี่ยมเคลือบสีขาวขนาดกลาง นอกจากนี้ยังพบว่าการให้ข้อมูลวิธีการปลูกเลี้ยงและการดูแลรักษาสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่กล้วยไม้ดินกระถางได้
บทคัดย่อ (EN): This project aims at study of diversity, status, and potential of terrestrial orchids of 4 target genera, Calanthe, Habenaria, Pecteilis, and Spathoglottis and other genera in their natural habitat. None of Pecteilis was found during our exploration. The number of species belong to Calanthe, Habenaria, and Spathoglottis were discovered as follow: 3, 8, 3 respectively. Thirty three species in 22 genera of other terrestrial orchids were found. Most species of both target and non-target genera are classed as rare species with few are classed as scattered or locally common in distribution. Our result indicates that most species found are at the risk of extinction from their natural habitat due to habitat change and illegal collection for commercial purpose. We recommend that the immediate action to conserve the terrestrial orchid germplasm in nature must be done by avoiding collection of plant samples from nature but to study from live plants in their natural habitat and only pods to be taken for increasing plant population in laboratory for selection and breeding purposes. The pure species seedlings should be returned to their habitat for increasing natural population.Three hybrids of Spathoglottis hybrida with pink, yellow and white flowers were collected. The morphological characteristics of the three hybrids were similar excepted for flower colors. The white flower hybrid was not selected to use in breeding program because it did not tolerate to high temperature and stem rot. Chromosome numbers of pink flower ‘Chulaluck’ and yellow flower hybrid were 2n = 2x = 40. Self-pollination of ‘Chulaluck’ showed percentage of pod set 54 % and selfing of yellow hybrids showed 71.43%. In case of using ‘Chulaluck’ and yellow hybrid as seed parental plants for cross pollination, percentage of pod set was 69.23 and 50%, respectively. The appropriate media for seed culture was ? MS cultured in light condition. Hybrid seeds from yellow x yellow cross combination had higher germination rate than seeds of yellow x ‘Chulaluck’. Seed germination rate was 0 % when using ‘Chulaluck’ as seed parental plants in selfing and cross pollination. The ingeminated seeds were caused from embryo abortion. After protocorms developed to be explants, hybrid plants from yellow x ‘Chulaluck’ showed higher growth rate and branch number than yellow x yellow hybrids. Hybrid selection was still in process due to flood.Increasing efficiency of orchid micropropagation was studied in some terrestrial orchid species, such as Spathoglottis, Calanthe, Habenaria, Arundina. The objectives of this research were to study factors on orchid seed germination, multiple shoot induction and growth of plantlets in vitro, including to provide some orchid plantlets to sub-project 4. The results of three experiments as follow: 1) the appropriate age of orchid seed pod for seed germination, i.e. Spathoglottis was approximately 3-4 weeks, 6-8 weeks in Calanthe and 6 weeks in Habenaria, whereas the appropriate media and culture condition for seed germination of those terrestrial orchids were solid modified Vacin and Went (1949) (VW) media which supplemented with 100 ml/l coconut water and 20 g/l sugar, cultured under fluorescent tube about 12 hours a day and 25+2?C. Moreover, Calanthe vestita seeds showed high percentage of seed germination when were cultured in liquid modified VW media which added with 150 ml/l coconut water, 200 ml/l potato extract and 20 g/l sugar under dark and 25+2?C condition. 2) The best method and culture media for multiple shoot induction of Calanthe vestita was transverse section of pseudobulb and cultured in liquid modified VW media which supplemented with 150 ml/l and 10 g/l sugar under 12 hours light-period a day and 25+2?C. 3) The appropriate culture media for growth of Spathoglottis plantlets was solid modified VW media which added with 100 ml/l coconut water, 100 g/l banana and 20 g/l sugar, while Arundina seedlings showed no significant differences in growth between VW and fertilizer media. Therefore, the appropriate media on growth of Arundina seedlings in vitro were chemicals from VW or orchid fertilizer 1 g/l of formular 20-20-20 which in one liter each medium contained 100 ml coconut water, 100 g potato, 20 g sugar, 100 g banana and 2.5 g agar.The development of terrestrial orchid used for various purposes is a potential to increase the value of orchid. The objective of this study was to investigate suitable growing media on growth of native orchid and appropriate container for enhancing cost of native orchid potted plant. The suitable growing media on growth of native orchid was divided into 4 experiments. The experiment 1, zeolite : coir dust : clay were mixed in 3 ratios (8:1:1, 5:1:4 and 1:1:8 (v/v)). Each of ratios was burned at 300?c, 600?c and 900?c respectively. The suitable physical and chemical properties were recorded. The result showed that zeolite : coir dust : clay (1:1:8) ratio v/v at 600 and 900?c were suitable for orchids because of lightweight (72.25-82.61 g/m3), a less slake (3.02-3.77 %), water absorption (32.50-39.95 % (v/v)) and pH (5.3-6.4). The experiment 2 was studied the growing media and the appropriate amount of plants per cluster for the best growth in the 3 months old Spathoglottis hybrid “Julalaks”. The result show that the perlite is appropriate of cultivated material for the 1 plant per cluster and chopped coconut or 1:1 chopped coconut with perlite or 1:1 chopped coconut with zeolite are appropriate for 3 plants per cluster growth. In experiment 3, the effect of growing media on growth and flowering of Spathoglottis hybrid was conducted. Pellet media, zeolite : coir dust : clay (1:1:8) ratio v/v at 900?c was mixed with chopped coconut husk in different ratio. It was found that pellet media with chopped coconut husk at proper ratio was suitable for growth and flowering of Spathoglottis hybrid ‘Yellow’. On the other hand, pellet media with chopped coconut husk at 1:1 ratio was the most appropriate growing media for Spathoglottis hybrid ‘Orange’. From the experiment 4, we studied about growing media on growth of Calanthe vestita Lindl in greenhouse. We found a mixture of clay pebble:coconut husk, clay pebble:coconut coir and clay pebble:soil mixed with rain tree leaves in 1:1 ratio provided the highest of leaf width, leaf length and plant height. Value-added techniques for 5 orchids were conducted to find out appropriate container that will help increase the price of terrestrial orchids potted plants. An internet survey was conducted with 420 respondents. The result showed that survey participants preferred medium circle blue porcelain for Spathoglottis hybrid “Julalaks”, medium square terracotta pot for Spathoglottis hybrid ‘Yellow’, small square terracotta pot for Calanthe rosea (Lindl.) Benth., and Calanthe rubens Ridl., and medium square white porcelain for Habenaria rhodocheila Hance. In addition, this study indicated that the value of terrestrial orchids would increase if extensive care information was provided.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พัชรียา บุญกอแก้ว. "การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของกล้วยไม้ประดับของไทยIncreasing Competitiveness Potential of Thailand Ornamental Orchids". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2554

พัชรียา บุญกอแก้ว. "การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของกล้วยไม้ประดับของไทยIncreasing Competitiveness Potential of Thailand Ornamental Orchids". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของกล้วยไม้ประดับของไทย
พัชรียา บุญกอแก้ว
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2554
การศึกษาความหลากหลายและการประเมินศักยภาพของกล้วยไม้พื้นเมืองเพื่อเพิ่มความสามารถใน การแข่งขัน เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตเชิงพาณิชย์และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การวิเคราะห์ศักยภาพในการแข่งขันสินค้าประมงของไทยในตลาดที่สำคัญ โครงการศึกษาแนวทางเพิ่มศักยภาพการแข่งขันธุรกิจอาหารไทยผ่านช่องทางการค้าอิเล็กทรอนิกส์ ปี พ.ศ. 2559 การศึกษาศักยภาพการส่งออกสับปะรดกระป๋องของไทย การศึกษาการเพิ่มศักยภาพในเชิงปริมาณ และคุณภาพปุ๋ยอินทรีย์สำหรับประเทศไทย วิเคราะห์ศักยภาพการผลิตและความสามารถในการแข่งขันมันสำปะหลังไทยในอาเซียน การวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตและปรับปรุงพันธุ์ปทุมมาและกระเจียวประดับเพื่อเพิ่มมูลค่าการตลาด สิทธิบัตร และสนับสนุนขีดความสามารถการแข่งขันด้านการส่งออกอย่างยั่งยืน การพัฒนาสายพันธุ์กล้วยไม้สกุลม้าวิ่งเพื่อเพิ่มศักยภาพในเชิงพาณิชย์ ผลิตภัณฑ์ซุปไทยสุขภาพ เพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair