สืบค้นงานวิจัย
ตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis Linnaeus
ระพีพร เรืองช่วย - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชื่อเรื่อง: ตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis Linnaeus
ชื่อเรื่อง (EN): Optimizing Cultivation Model of Green Laver, Ulva intestinalis Linnaeus
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ระพีพร เรืองช่วย
บทคัดย่อ: การศึกษาตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis ประกอบด้วย สภาวะการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ในต้นพันธุ์จากแหล่งธรรมชาติที่แตกต่างกัน การเหนี่ยวนำให้สร้างเซลล์สืบพันธุ์ และการกระตุ้นให้ปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ และการเลือกชนิดของวัสดุที่เหมาะสมกับการเกาะของเซลล์สืบพันธุ์ และรูปแบบการเลี้ยงในบ่อซิเมนต์และในบ่อดิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ได้อย่างต่อเนื่อง การศึกษาสภาวะการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของสาหร่ายไส้ไก่ที่เก็บจาก 4 แหล่ง ได้แก่ บ่อดิน บ่อซิเมนต์ อ่าวปัตตานี และห้องปฏิบัติการ พบว่า รูปแบบการสร้างเซลล์สืบพันธุ์สัมพันธ์กับลักษณะและแหล่งที่พบสาหร่าย การสร้างเซลล์สืบพันธุ์แบบผสมทั้งสองแบบคือแบบอับแกมีตและอับซูโอสปอร์ในต้นเดียวกันสัมพันธ์เชิงบวกกับความกว้างของแทลลัส ส่วนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์แบบมีเพศ หรือแกมีต เพียงอย่างเดียว สัมพันธ์แบบผกผันกับค่าความเป็นด่างและแสง แต่มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับ ความยาวของแทลลัส สำหรับการเหนี่ยวนำการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ โดยใช้ปัจจัยกระตุ้น 5 ปัจจัย ขนาดความยาวท่อนพันธุ์ 5 ระดับ คือ 0.5, 1.0, 1.5, 2.0 และ 3.0 ซม. การผึ่งแห้ง 4 ระดับ คือ 0, 1, 2 และ 3 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 3 ระดับ คือ 25, 30 และ 35 ?C 5 ระดับ และความเค็ม 5 ระดับ คือ 10, 15, 20, 25 และ 30 ppt และการเติม CaCl2 0, 6, 12 และ 18 mg/L พบว่า ความยาวท่อนพันธุ์ 0.5-3.0 เซนติเมตร สามารถเหนี่ยวนำให้สร้างอับซูโอสปอร์ได้ร้อยละ 100?0 ในระยะเวลา 4 วัน ส่วนการผึ่งแห้งพบว่าที่เวลา 0 ชม.หรือการไม่ผึ่งแห้ง สร้างอับสปอร์ได้ร้อยละ 97?2 ในเวลา 4 วัน และมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p0.05) ส่วนการนำต้นพันธุ์ไปกระตุ้นด้วยระดับความเข้มแสงต่าง ๆ พบว่าท่อนพันธุ์ที่ไม่ให้แสง (0 ?mol m-2s-1) ให้จำนวนสปอร์มากที่สุด คือ 10.10?0.24 ล้านสปอร์ต่อกรัมน้ำหนักสด ส่วนปัจจัยด้านการผึ่งแห้งพบว่าที่ระดับการผึ่งแห้ง 0 ชั่วโมง ให้จำนวนสปอร์สูงกว่าที่เวลาอื่น จำนวน 9.91?1.01 ล้านสปอร์ต่อกรัมน้ำหนักสด และมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับการผึ่งแห้งอื่น (p0.05) โดยเชือกมีความหนาแน่นสปอร์มากที่สุด ถึง 1.4?1.7x109 สปอร์/ตารางเซนติเมตร รองลงมาคืออวน และพลาสติกมีความหนาแน่นของสปอร์ถึง 1.1?0.0X109 สปอร์/ตารางเซนติเมตร และ 0.8?0.1X109 สปอร์/ตารางเซนติเมตรตามลำดับ สำหรับระดับการเกาะของสปอร์ พบว่ามีปริมาณสปอร์เกาะที่ระดับบนมากที่สุด การเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ในบ่อซีเมนต์ จากการทดลองเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ ในบ่อซีเมนต์ ขนาด 2 ตัน ที่เลี้ยงโดยใช้ต้นพันธุ์ เริ่มต้นขนาดยาว 2.9?0.3 ซม. ในความหนาแน่น 25000, 37500 และ 50000 ต้นต่อตร.ม. เมื่อเลี้ยงไป 3 สัปดาห์ พบว่า 50000 ต้นต่อตร.ม. มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยคิดเป็นการเพิ่มของน้ำหนัก ร้อยละ 14,398?14,713 และเป็นการเพิ่มของความยาวร้อยละ 123?77 ซึ่งเป็นอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะเฉลี่ยโดยน้ำหนักเท่ากับ 23.7?0.1 g ต่อวัน มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะจนเก็บเกี่ยวได้ เท่ากับร้อยละ 49.8 กรัม ต่อวัน และ มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะโดยความยาวเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 20.8 ซม. ต่อ วัน ซึ่งทั้งหมดไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ กับที่ความหนาแน่น 37500 ต้นต่อตร.ม. สำหรับการทดลองเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ ในบ่อดิน โดยใช้วัสดุเกาะของต้นอ่อนที่แตกต่างกัน ได้แก่ วัสดุเชือกพีอี พลาสติกรังผึ้ง และอวนไนล่อน ที่เลี้ยงโดยใช้ต้นพันธุ์ น้ำหนักเริ่มต้น 3?0 กรัมต่อตร.ม. เริ่มต้นความยาวเริ่มต้น เท่ากับ 2.9?0.4 ซม เมื่อเลี้ยงไป 6 สัปดาห์ พบว่า มวลชีวภาพ บนวัสดุเชือกพีอี พลาสติกรังผึ้ง และอวนไนล่อน มีน้ำหนักสาหร่ายเพิ่มขึ้นมากที่สุด 91?15, 67?16 และ 34?2 กรัมต่อตร.ม. และมีความยาวเพิ่มขึ้น เท่ากับ 13.2?1.0, 10.5?1.1, 6.2?1.4 เซนติเมตร โดยมีการเพิ่มของน้ำหนัก ร้อยละ 1,360?238, 974?257 และ 438?31ตามลำดับ และเป็นการเพิ่มของความยาวร้อยละ 955?25, 863?85 และ 491?76 ตามลำดับ มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะต่อวัน โดยน้ำหนักร้อยละ 8.5?0.4, 7.8?0.6 และ 6.2?0.1 g ต่อวัน และ มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะต่อวัน โดยความยาวร้อยละเท่ากับ 5.8?3.0, -7.1?0.8 และ -9.0?0.3 ซม. ต่อ วัน ตามลำดับ จากการวิจัยสรุปได้ว่าความกว้าง และความยาวของแทลลัสสาหร่ายมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อการสร้างเซลล์สืบพันธุ์แบบผสม และแบบอาศัยเพศ ของสาหร่ายไส้ไก่ ส่วนความเป็นด่าง และความเข้มแสง มีความสัมพันธ์เชิงลบต่อการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ทั้งนี้ในห้องปฏิบัติการพบเพียงการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยสร้างซูโอสปอร์ การเหนี่ยวนำให้สร้างซูโอสปอร์ควรตัดสาหร่ายให้ยาวเป็นท่อน 0.5-3.0 เซนติเมตร ใช้ความเค็มในช่วง 10-30 ppt ไม่ผึ่งแห้ง วางเลี้ยงที่อุณหภูมิ 25?C และในน้ำเลี้ยงควรเติมสารละลายของแคลเซียมไอออนจาก CaCl2 6-18 มิลลิกรัม/ลิตร เมื่อจะกระตุ้นให้สาหร่ายปล่อยซูโอสปอร์ควรลดความเค็มลงให้อยู่ในช่วง 5-25 ppt ให้ความเข้มแสง 0-150 ?molm-2s-1 เป็นเวลา 3 ชม. และไม่ให้แทลลัสผึ่งลม ทั้งนี้สามารถใช้วัสดุใดก็ได้ เพื่อให้สปอร์ยึดเกาะ ได้แก่ เชือก อวน และพลาสติกรังผึ้ง เพื่อล่อให้สปอร์เกาะเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ที่ใช้ต้นพันธุ์จากช่อต้นอ่อน ที่ความหนาแน่น 50,000 ต้น/ตร.ม. ได้ผลผลิต 1,160 กรัม นน. สด ต่อ ตร.ม. หรือ 95 กรัม นน. แห้ง/ตร.ม. ส่วนการเลี้ยงในบ่อดินที่ใช้ต้นพันธุ์จากต้นอ่อนบนเชือกหรืออวน ที่ความหนาแน่น 20,000-25,000 ต้น/ตร.ม. มีความเหมาะสม ได้ผลผลิต 125 กรัม นน. สด/ตร.ม. หรือ 8.7 กรัม นน. แห้ง/ ตร.ม.
บทคัดย่อ (EN): Effects of environmental factors on reproductive behavior of Gut Weed, Ulva intestinalis Linnaeus: conditions of reproductive type in the thalli from different sources, induction of reproductive formation, stimulation on spore release and type of optimal materials on spore adhesion were conducted for basic information to propagate the algae. The study on reproductive type from different sources was done in mature thalli collected from 4 sources: earthen pond, cement tank, Pattani bay and the laboratory. Type of reproductive cell was checked under microscope and some environmental factors were investigated. It was found that the type of reproductive formation relates to the character and source of the thalli. The mixed reproductive type between gametangia and zoosporangia was related to the width of thalli while the single type of the reproductive cell showed inversed relation to alkalinity and light intensity but related to thallus length. Induction of reproductive cells formation by using 5 factors by individual running: fragment length 5 levels of 0.5, 1.0, 1.5, 2.0 and 3.0 cm; desiccation time of 0, 1, 2 and 3 hrs; salinity in 5 levels of 10, 15, 20, 25 and 30 ppt; temperature in 3 levels at 25, 30 and 35 ?C; and the addition of calcium from calcium chloride 4 levels of 0, 6, 12 and 18 mg L-1. The result found that the fragment of the thallus in the range of 0.5-3.0 cm showed the formation of zoosporangium 100?0 % at 4 days. The desiccation of 0 hr showed highest zoosporangium formation of 97?3 % within 4 days and showed significant different (p0.05). Under 0 ?mol m-2 s-1, the fragment provided the highest spores 9.91?1.01x106 spores per g FW and showed significant differences of those with the other desiccation time. The adhesion of spores on three different materials: PE rope, Honeycomb plastic sheet, and nylon nets. The materials hung on set on a 30x50 cm2 of the frame and put in 150 L plastic tanks under outdoor conditions. The concentration of swimming spores in the water was 3.3 x107 spores per mL. The number of spore was checked every day at different heights of the frame at 10 cm interval on the top, middle, and bottom. The results found that the adhesion of spores on 3 types of material from the first day and showed the highest number of spores on day 9th. The number of spores showed non significantly affect (p>0.05) among the 3 types of materials. The rope provided the highest number of spores with 1.4?1.7x109 spores per square meter and the next was the nets and plastic with 1.1?0.0X109 and 0.8?0.5X109 spores per square, respectively. At top of the frame found the number of spores attach to those of both other levels. The cultivation of the gut weed in cement tank of 2 tons with the initial of 2.9 ?0.3 cm long with a density of 25000, 37500, 50000 plants/m2. After 3 weeks of cultivation, at 50000 plants/m2 provided the highest yield of 14,398?14,713 % by weight and 123?77% by length. The specific growth rate by weight equals. 23.7?0.1 g day-1 and the provided the specific growth rate until harvest by weight of 49.8 g % day-1 and by the length of 20.8 cm % day-1. Those showed a significant difference with the density of 37500 plants per m2. For the cultivation in the pond under different attachment materials of spore: PE rope, Honeycomb plastic sheet, and nylon nets were conducted with an initial weight of 3?0 g m-2 and the initial seedling length of 2.9?0.4 cm. After 6 weeks of cultivation, the biomass on PE rope, Honeycomb plastic sheet, and nylon nets showed the increased weight of 91?15, 67?16 and 34?2 g m-2 and increased weight of 13.2?1.0, 10.5?1.1, 6.2?1.4 cm, respectively. Percentage of increased weights of those were 1,360?238, 974?257 and 438?31 and percentage of increased length of 955?25, 863?85 and 491?76 g m-2, respectively. The growth rate of weights were 8.5?0.4, 7.8?0.6 and 6.2?0.1 %day-1 and the growth rates of length were 5.8?3.0, -7.1?0.8 and -9.0?0.3 %day-1, respectively. The research concluded that the wide and the length of the thallus showed positively correlated to mixed reproduction and gametangial reproduction, respectively. The water alkalinity and light intensity showed a negative relationship with the sexual reproduction of zoosporangia. The induction of zoospore formation should be cut the thalli to 0.5-3.0 cm at 10-30 ppt salinity, not dry of thalli, set under 25 ?C and adding CaCl2 6-18 mg L-1. For the stimulation of the zoospore release should set the mature thalli under salinity in the range of 5-25 ppt, light intensity of 0-150 umol m-2s-1 and should not dry the thalli. However, any material can be used for spore adhesion, including PE ropes, honeycomb plastic sheets, and nylon nets as the substrate of spore for 1 week. Culture in cement tank from germling cluster with the density of 50,000 plants m-2 provided 1 160 g FW m-2 or 95 g DW m-2. For cultivation in the pond should use the initial of 20,000-25,000 plants m2a and could obtain 125 g FW m-2 yield or 8.7 g DW m-2.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คำสำคัญ: การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสีเขียว
คำสำคัญ (EN): green laver
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ระพีพร เรืองช่วย. "ตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis LinnaeusOptimizing Cultivation Model of Green Laver, Ulva intestinalis Linnaeus". มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 2556

ระพีพร เรืองช่วย. "ตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis LinnaeusOptimizing Cultivation Model of Green Laver, Ulva intestinalis Linnaeus". มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 2556. Print.



TARR Wordcloud:
ตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis Linnaeus
ระพีพร เรืองช่วย
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
30 กันยายน 2556
การเหนี่ยวนำการสร้างอับซูโอสปอร์ของสาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis Linnaeus (Chlorophyta) ในห้องปฏิบัติการ การเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis แบบสเกลใหญ่ในถังที่แตกต่างกัน การออกแบบหน่วยฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตราไวโอเล็ต และผลต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณเชื้อโรคในการเลี้ยงปลาตะกรับ (Scatophagus argus Linnaeus, 1766) ระบบน้ำหมุนเวียน รูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการเพาะฟักไข่ไรน้ำนางฟ้าไทย การเพาะและอนุบาลปลาซิวหางดอก การเจริญเติบโตและอัตรารอดของลูกปลาตะกรับ (Scatophagus argus Linnaeus, 1766) ที่อนุบาลด้วยอาหารสำเร็จรูปเสริมด้วยสาหร่ายไส้ไก่ (Ulva intestinalis) ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมสำหรับไก่ลูกผสมพื้นเมือง-เซี่ยงไฮ้ บทบาทของสาหร่ายไส้ไก่ (Ulva intestinalis Linnaeus) ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำ ดินตะกอน และสร้างอาหารธรรมชาติในการเลี้ยงกุ้งแชบ๊วย (Penaeus merguiensis de Man, 1988) เชิงพาณิชย์ ระดับโภชนะที่เหมาะสมในอาหารสัตว์ปีก 2) ไก่พื้นเมือง (ระยะเจริญเติบโต) หญ้าเนเปียร์แคระขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดได้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair