สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาสารสกัดบริสุทธิ์จากพืชสมุนไพรไทยที่มีประสิทธิภาพในการกําจัดพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิใบไม้ในกระเพาะในสัตว์เคี้ยวเอื้อง
รศ.ดร.น.สพ.ปณัฐ อนุรักษ์ปรีดา - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การศึกษาสารสกัดบริสุทธิ์จากพืชสมุนไพรไทยที่มีประสิทธิภาพในการกําจัดพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิใบไม้ในกระเพาะในสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ชื่อเรื่อง (EN): Study of Thai plant pure compound against liver and rumen flukes in ruminants
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รศ.ดร.น.สพ.ปณัฐ อนุรักษ์ปรีดา
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ได้ทำการทดสอบผลของสารสกัดบริสุทธิ์จากขี้เหล็ก หูกวาง และเจตมูลเพลิงแดงเปรียบเทียบกับ การใช้ยาฆ่าพยาธิที่ขายตามท้องตลาดที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิใบไม้ในกระเพาะโดย พยาธิสัมผัสสารเชิงเดี่ยวที่ผสมในอาหารเลี้ยงเชื้อ ทำการแบ่งพยาธิทั้งสองชนิดออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 30 ตัว ทั้งหมด 30 กลุ่ม รวมพยาธิทั้งหมด 900 ตัว โดยแบ่งเป็นกลุ่ม negative control groups 5 najw, positive control groups 5 กลุ่ม และ treatment groups 20 กลุ่ม ซึ่งทำการทดลอง 5 ซ้ำ โดยพยาธิจะสัมผัสสารสกัดจากขี้เหล็ก หูกวาง และเจตมูลเพลิงแดงที่ผสมในอาหารเลี้ยงเชื้อภายหลังจากการสัมผัสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง, 3 ชั่วโมง, 6 ชั่วโมง. 12 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมง พยาธิในแต่ละกลุ่มจะถูกนำมาสังเกตการเคลื่อนไหวภายใต้กล้อง Stereo Microscope โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนตามวิธีของ Kiuchi et al. (1987) จากนั้นจึงนำมาคำนวณหาค่า Relative Mobility (RM) value ในแต่ละ condition ของการทดสอบกับพยาธิ และทำการศึกษาผลกระทบต่อตัวพยาธิใบไม้จากสาร สกัดหยาบด้วยวิธี Light Microscopy (LM) and Scanning Electron Microscopy (SEM) ขณะนี้ได้คัดเลือกสาร สกัดบริสุทธิ์จากขี้เหล็ก (ใบและแก่น) หูกวาง (ใบ) และเจตมูลเพลิงแดง (ราก) และสามารถทราบความเข้มของ สารสกัดที่สามารถกำจัดพยาธิได้ดังนี้คือ ความเข้มข้นที่ 6.25-100 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร สารสกัดบริสุทธิ์จากราก เจตมูลเพลิงแดงสามารถทำให้หยุดการเคลื่อนไหวและตายที่เวลา 1-6 ชั่วโมงหลังการทดสอบ เมื่อใช้สารสกัด บริสุทธิ์จากแก่นขี้เหล็กและใบหูกวางสามารถทำให้หยุดการเคลื่อนไหวและตายที่เวลา 3-6 ชั่วโมงหลังการทดสอบ แต่เมื่อใช้สารสกัดบริสุทธิ์จากใบขี้เหล็กสามารถทำให้หยุดการเคลื่อนไหวและตายที่เวลา 24 ชั่วโมงหลังการทดสอบ สารสกัดบริสุทธิ์จากพืชสามชนิด ดังกล่าวสามารถออกฤทธิ์ทำให้พยาธิหยุดการเคลื่อนไหวและตะตายในที่สุดซึ่งให้ผล ดีกว่ายาฆ่าพยาธิที่ขายตามท้องตลาด สารสกัดทั้งสามชนิตสามารถออกฤทธิ์ทำให้ผิวพยาธิเกิดการบวม มีตุ่มนูน ลอกหลุดและเกิดพยาธิสภาพถึงชั้น basement membrane ซึ่งจะทำให้ osmoregulatory system ของพยาธิ ทำงานผิดปกติไปจนทำให้พยาธิไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ใด้ หยุดการเคลื่อนไหวและตายในที่สุด ดังนั้นสารสกัดจาก สมุนไพรไทยทั้งสามชนิดดังกล่าวอาจจะเป็นยากำจัดพยาธิตันแบบที่สามารถพัฒนาเพื่อผลิตออกจำหน่ายหน่ายทางการค้า ได้ในอนาคตสำหรับรักษาโรคพยาธิใบไม้ในตับและโรคพยาธิใบไม้ในกระเพาะ
บทคัดย่อ (EN): In the present study, we have investigated the in vitro anthelmintic effect of the pure compound extract of Senna siamea Lam (leaves and heartwood), Terminalia catappa L. (leaves), Plumbago indica L. (root), triclabendazole (TCZ) and albendazole (ABZ) on adult liver and rumen flukes after incubating the flukes in culture medium containing the extracts at various doses and times. Nine hundred flukes were divided into three groups: negative controls, positve controls and treatment groups, which conducted five replications. The extracts-treated flukes at all dosages exhibited rapid decrease of motility, and the relative motility (RM) values as described by Kiuchi et al. (1987) were decreased sharply from start to 1-6 h. Flukes were killed after 1-6 h of treatment with 6.25-100 μg/ml of Plumbago indica L. (root), 3-6 h of treatment with 6.25-100 μg/ml of Senna siamea Lam (heartwood) and Terminalia catappa L. (leaves) as well as 24 h of treatment with 6.25-100 μg/ml of Senna siamea Lam (leaves). By light microscopy (LM) and scanning electron microscopy (SEM) levels, the flukes’ tegument showed the morphological alterations after treatment with ABZ and the extracts that consisted of swelling, blebbing, disrupted-blebs, erosion, lesion, and disruption of the tegument. The severity and rapidity of the damages of the basement membrane caused malfunction of flukes’ osmoregulatory system, then the flukes could not survive and movement and eventually death. Therefore, three Thai palnt extracts could be the prototypes of the powerful anthelmintic drugs that were produced commercially in the future for treatment of fasciolosis and paramphistomosis.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: สารสกัดจากพืชสมุนไพร
คำสำคัญ (EN): Plant extract
เจ้าของลิขสิทธิ์: สถาบันชีววิทยาศาตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาสารสกัดบริสุทธิ์จากพืชสมุนไพรไทยที่มีประสิทธิภาพในการกําจัดพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิใบไม้ในกระเพาะในสัตว์เคี้ยวเอื้อง
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2560
การศึกษาสารสกัดหยาบจากพืชสมุนไพรไทยที่มีประสิทธิภาพในการกําจัดพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิใบไม้ในกระเพาะในสัตว์เคี้ยวเอื้อง การพัฒนาสารฆ่าพยาธิจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร การพัฒนาสูตรสำเร็จสารเคลือบเมล็ด ที่ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากเชื้อ Streptomyces philanthi RL-1-178 เพื่อควบคุมเชื้อราที่สร้างสารพิษอะฟลาทอกซินในระหว่างการเก็บรักษาเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (โครง การพัฒนาเวชภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดบัวบกสำหรับบาดแผลที่มีความลึกระดับที่สองแผลในช่องปากจากการได้รับการฉายรังสีและแผลปริทันต์ การพัฒนาเวชภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดบัวบกสำหรับบาดแผลที่มีความลึกระดับที่สองแผลในช่องปากจากการได้รับการฉายรังสีและแผลปริทันต์ ปีที่ 2 โครงการ การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง ปี 2559 โครงการย่อยที่ 2 การสกัดสารแอสตาแซนทินจากเศษเหลือของอุตสาหกรรมแปรรูปกุ้ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผักและสมุนไพรเพื่อยับยั้งการย่อยไขมัน การพัฒนาตำรับน้ำยาบ้วนปากสมุนไพรเพื่อป้องกันฟันผุ การผลิตสารออกฤทธิ์จากกระชายเหลืองสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อผิวขาว การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างมีประสิทธิภาพ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก