สืบค้นงานวิจัย
การผลิตแผ่นกำบังอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมม่าจากวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เลื่อยไม้
เกียรติศักดิ์ แสนบุญเรือง - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ชื่อเรื่อง: การผลิตแผ่นกำบังอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมม่าจากวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เลื่อยไม้
ชื่อเรื่อง (EN): Manufacturing of Neutron and Gamma Radiation Shield Sheet from Wood-Natural Rubber Composite
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เกียรติศักดิ์ แสนบุญเรือง
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ศึกษาชนิดและปริมาณของสารตัวเดิมป้องกันรังสี 3 ชนิด ดังนี้ ผงกรดบอริก ผงโบรอนออกไซด์ และผงตะกั่ว โดยปรับเปลี่ยนปริมาณที่ 0, 10, 20, 30, 40 และ 50 ส่วนในยางร้อยส่วน (Parts per hundred of nbber: pbr) ในวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ ตรวจสอบสมบัติต้นรังสี เวลาที่ขางเริ่มเกิดการคงรูป เวลาที่ขงคงรูป สมบัติเชิงกล ค่ความหนาแน่นและ ค่าการนำความร้อน จากการศึกษาสมบัตินรังสื พบว่า การเติมผงโบรอนออกไซด์ส่งผลทำให้วัสดุเชิง ประกอบยางมีความต้านทานต่ออนุภาคนิวตรอนได้ดีกว่าผงกรดบอริกในทุกสัส่วนปริมาณของสารตัวเติม ส่วนการเติมผงตะกั่วส่งผลทำให้วัสดุเชิงประกอบขางสามารถต้านทานต่อรังสีแกมมา (ที่หลุดมาจากการดูด ซับอนุภาคนิวตรอน) ได้ นอกจากนี้พบว่า การเติมสารตัวเติมชนิดผงกรดบอริกในวัสดุเชิงประกอบยาง ธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ส่งผลทำให้เวลาที่ยางเริ่มเกิดการคงรูปและ เวลาคงรูปยางเพิ่มขึ้น ส่วนในกรณีการเดิมสารตัวเดิมชนิดผงโบรอนออกไซด์ใบวัสดุเชิงประกอบยาง ธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบขางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ทำให้เวลาที่ยางเริ่มเกิดการคงรูปและเวลาคง รูปยางลดลง ส่วนวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ที่เติม ผงตะกั่วไม่ส่งผลต่อเวลาที่ขางเริ่มเกิดการคงรูปและเวลาคงรูปยาง การศึกษาสมบัติเชิงกล พบว่า การเติมผง กรคบอริกในวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบขางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ส่งผลทำ ให้ค่าความแข็งที่ผิว ค่ามอตุลัสแรงตึง ความด้านทา านแรงตึง เปอร์เซ็นต์การยืดตัว ฌ จุดขาด และความ ค้านทานต่อแรงฉีกขาดลดลง ส่วนการติมผงโบรอนออกไซด์ในวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติ และวัสดุเชิง ประกอบขางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ทำให้ค่าความแข็งที่ผิวเพิ่มขึ้น ยกเว้นคำมอตุลัสแรงตึง ความ ค้านทานต่อแรงดึง เปอร์เซ็นต์การยืดตัว ณ จุดขาด และความตื้นทานต่อแรงฉีกขาคลดลง ในกรณีการเติม ผงตะกั่วในวัสดุชิงประกอบยงธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบขางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ ไม่ส่งผลต่อ ค่าความ แข็งที่ผิวและค่ามอดูลัสแรงตึง แต่ความด้านทานแรงดึง เปอร์เซ็นต์การยืดตัว ณ จุดขาด และความ ค้านทานต่อแรงฉีกขาดมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้พบว่า การเติมสารตัวเดิมป้องกันรังสีชนิดกรดบอริก โบรอนออกไซด์ และผงตะกั่ในวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติที่เติมและ ไม่เดิมผงขี้เสื่อยไม้มีความ หนาแน่นอยู่ระหว่าง 1.053 - 1.4064 g*m และมีค่ำการนำความร้อนที่ใกล้เคียงกัน และมีสมบัติความเป็น ฉนวนกันความร้อนที่ดีกว่าเกณฑ์เป้าหมาย และพบว่า การเดิมผงโบรอนออกไซด์ในวัสดุเชิงประกอบยาง ธรรมชาติ และวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เสื่อยไม้ที่ปริมาณ 50 phr มีค่ำความค้ำนทานต่อ อนุภาคนิวตรอนเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์จากเกณฑ์เป้าหมายของโครงการ
บทคัดย่อ (EN): This research aims to investigate effects of three radiation protection agents: boric acid, boron oxide, and lead powders, with the contents of 0, 10, 20, 30, 40, and 50 phr (parts per hundred of rubber) in natural rubber composite and wood sawdust/natural rubber composite. The interested properties that are investigated include radiation properties, scorch time, cure time, mechanical propertie, density and thermal conductivity. In the case of radiation properties, adding boron oxide to the composites can shield neutrons better than adding boric acid at the same contents, while lead powders can shield gamma ray, which emitted from neutron shielding. Results indicate that adding boric acid to the composites increases the scorch time and cure time, while boron oxide decreases the scorch time and cure time, and lead powder does not significantly affect the scorch time and cure time. In the case of mechanical properties, boric acid decreases hardness, modulus, tensile strength, elongation at break, and tear strength, while boron oxide increases hardness but decreases modulus, tensile strength, elongation at break, and tear strength. Lead powders do not affect hardness and modulus but decrease tensile strength, elongation at break, and tear strength. The densities of composites with boric acid, boron oxide, and lead powder are in between 1.053 –1.4064 g/cm3 , while thermal conductivity are about the same for each composite andarebetter insulators than the product target. Lastly, the composites with 50 phr of boron oxide has about the same ability to shield neutrons as the product target.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://cmudc.library.cmu.ac.th/frontend/Info/item/dc:133070
เผยแพร่โดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
คำสำคัญ: เบต้า
คำสำคัญ (EN): Beta
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตแผ่นกำบังอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมม่าจากวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เลื่อยไม้
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
2558
การผลิตแผ่นกำบังอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมมาจากวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติผสมผงขี้เลื้อยไม้ ระยะที่ 2 การพัฒนาวัสดุเชิงประกอบยางพาราและขี้เลื่อยไม้ยางพาราสำหรับผลิตของเล่นเด็ก การผลิตและทดสอบหลังคายางพาราจากวัสดุผสมยางธรรมชาติกับขี้เลื่อย อิทธิพลของผงขี้เลื่อยไม้ยางพาราต่อสมบัติของวัสดุเชิงประกอบไม้พลาสติกที่เตรียมจากพอลิแลคติกแอสิดซึ่งผ่านการเพิ่มความเหนียวด้วยอนุภาคยางคอร์เชลล์เพื่อประยุกต์ใช้เป็นของเล่นทดแทนไม้สำหรับเด็ก สีเคลือบสะท้อนรังสีอาทิตย์เพื่อลดการแตกร้าวโดยใช้สารยึดติดอะคริลิคอิมัลชั่นผสมน้ำยางธรรมชาติ เทคโนโลยีการผลิตยางผสมจากยางธรรมชาติ การแปรรูปน้ำยางผสมของยางธรรมชาติกับยางสังเคราะห์ การพัฒนาไม้เชิงประกอบด้วยกระบวนการอัดพอลิอะคริเลตและยางธรรมชาติเข้าในเนื้อไม้ยางพารา การพัฒนาถ้วยรับน้ำยางจากวัสดุผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติกับยางธรรมชาติ ถ้วยรับน้ำยางจากยางธรรมชาติผสมเถ้าไม้ยางพารา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก