สืบค้นงานวิจัย
เชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟ
Nopporn Sudjaitham - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: เชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟ
ชื่อเรื่อง (EN): Briquette fuel made from coffee residue
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nopporn Sudjaitham
บทคัดย่อ: 23.4 ซึ่งใกล้เคียงกับฟืนไม้เบญจพรรณ เมื่อพิจารณาด้านความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์โดยใช้ข้อมูลของวัตถุดิบในปี พ.ศ. 2543 พบว่า เมื่อขาย เชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟที่ราคาขายต่ำสุดคือกิโลกรัมละ 1 บาท และที่ราคาขายกิโลกรัมละ 1.25 บาท ค่า Net Present Value ของราคาขายทั้ง 2 กรณีมีค่าเป็นบวก และค่า Internal Rate of Return มีค่ามากกว่า Minimum Attractive Rate of Return ที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 15 แสดงว่าโครงการมีความคุ้มค่าในการลงทุน เมื่อพิจารณาด้านการนำมาใช้ประโยชน์ของกากกาแฟ (4,700-5,700 Kcal/kg หรือ 19.68-23.86 Mj/kg) พบว่า เมื่อคิดเชิงเปรียบเทียบโดยนำกากกาแฟดิบที่ผ่านการลดความชื้นมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทันทีจะมีค่าความร้อนรวม เทียบได้กับน้ำมันเตาที่มีค่าความร้อน 39.23 MJ/l ราคา 7 บาท/ลิตร คิดเป็นมูลค่า 18.0433 ล้านบาท/ปี (ประมาณ 4,510 บาท/ตัน) ที่สามารถประหยัดได้ ทั้งนี้หากนำกากกาแฟมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง ซึ่งมีความสะดวกในการ ใช้งานมากกว่าการใช้กากกาแฟดิบเป็นเชื้อเพลิงโดยตรง โดยคิดเทียบน้ำมันเตาจะสามารถประหยัดเงินได้ถึง 14.9414 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นเชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟจึงมีความเหมาะสมในการผลิตเพื่อใช้งานโดยเฉพาะ ใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนในกระบวนการอุตสาหกรรมตลอดจนการใช้งานในระดับครัวเรือน นอกจากนี้การนำกาก กาแฟมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งยังเป็นการลดปริมาณกากกาแฟซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากกระบวนอุตสาหกรรมที่ เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
บทคัดย่อ (EN): tolerance to handling and transportation, were in the range of 0.82-0.99. Efficiency of heat utilization of the briquette was in the range of 13.3-23.4 per cent, which is similar to the firewood. In an analysis of economic value based on 1999 raw material data, the results showed that when the briquette was sold at the minimum price of 1 baht/kg and at 1.25 baht/kg, the Net Present Value was positive and the Internal Rate of Return was higher than the Minimum Attractive Rate of Return by 15 per cent, proving the project is a viable investment. In terms of utilization of raw coffee residue (4,700-5,700 Kcal/kg or 19.68-23.86 MJ/kg ) compared with the stove oil (39.23 MJ/l at the price of 7 baht/l), the results showed that 18.0433 Mbaht/year (approx. 4,510 baht/ton) could be saved. While using the briquette produced from coffee residue compared with stove oil, only 14.9414 Mbaht/year can be saved. However, the briquette is more convenient to handle and transport. It can also be used in a greater range of industrial and household activities than raw coffee residue. Regarding to environmental problems and reducing industrial waste, both of briquettes and coffee residue are quite advantageous
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1211&obj_id=5155
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Briquets (Fuel)
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: 23.4 ซึ่งใกล้เคียงกับฟืนไม้เบญจพรรณ เมื่อพิจารณาด้านความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์โดยใช้ข้อมูลของวัตถุดิบในปี พ.ศ. 2543 พบว่า เมื่อขาย เชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟที่ราคาขายต่ำสุดคือกิโลกรัมละ 1 บาท และที่ราคาขายกิโลกรัมละ 1.25 บาท ค่า Net Present Value ของราคาขายทั้ง 2 กรณีมีค่าเป็นบวก และค่า Internal Rate of Return มีค่ามากกว่า Minimum Attractive Rate of Return ที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 15 แสดงว่าโครงการมีความคุ้มค่าในการลงทุน เมื่อพิจารณาด้านการนำมาใช้ประโยชน์ของกากกาแฟ (4,700-5,700 Kcal/kg หรือ 19.68-23.86 Mj/kg) พบว่า เมื่อคิดเชิงเปรียบเทียบโดยนำกากกาแฟดิบที่ผ่านการลดความชื้นมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทันทีจะมีค่าความร้อนรวม เทียบได้กับน้ำมันเตาที่มีค่าความร้อน 39.23 MJ/l ราคา 7 บาท/ลิตร คิดเป็นมูลค่า 18.0433 ล้านบาท/ปี (ประมาณ 4,510 บาท/ตัน) ที่สามารถประหยัดได้ ทั้งนี้หากนำกากกาแฟมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง ซึ่งมีความสะดวกในการ ใช้งานมากกว่าการใช้กากกาแฟดิบเป็นเชื้อเพลิงโดยตรง โดยคิดเทียบน้ำมันเตาจะสามารถประหยัดเงินได้ถึง 14.9414 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นเชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟจึงมีความเหมาะสมในการผลิตเพื่อใช้งานโดยเฉพาะ ใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนในกระบวนการอุตสาหกรรมตลอดจนการใช้งานในระดับครัวเรือน นอกจากนี้การนำกาก กาแฟมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งยังเป็นการลดปริมาณกากกาแฟซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากกระบวนอุตสาหกรรมที่ เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากกาแฟ
Nopporn Sudjaitham
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
การศึกษาศักยภาพและประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงอัดแท่งจากกากตะกอนน้ำเสียโรงงานน้ำตาลผสมกับชานอ้อย การใช้ประโยชน์กากตะกอนจากโรงงานแป้งมันดัดแปรผสมกับเศษถ่านผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง เทคโนโลยีการผลิตถ่านอัดแท่งเชื้อเพลิงจากแกลบผสมชานอ้อย การศึกษาอัตราส่วนผสมของเชื้อเพลิงจากกากไขมันและกากของกากไขมันกับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ประสิทธิภาพในการดูดซับโลหะหนักโครเมียมโดยกากกาแฟที่ผ่านการใช้ประโยชน์ ผลกระทบของขนาดอนุภาคขี้เถ้าแกลบและกากตะกอนของเสียจากโรงงานแบตเตอร์รี่ต่อกำลังรับแรงอัดและการชะละลายของแท่งหล่อแข็ง การชะละลายของตะกั่วและกำลังรับแรงอัดจากการหล่อแข็งกากตะกอนของโรงงานแบตเตอรี่โดยใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และขี้เถ้าแกลบ กำลังรับแรงอัดอัดของก้อนของเสียหล่อแข็งกากตะกอนจากโรงชุบที่ใช้กากแคลเซียมคาร์ไบด์และเถ้าแกลบดำเป็นวัสดุยึดประสาน และใช้ปูนซีเมนต์ และโซเดียมซิลิเกตในการกระตุ้นปฎิกิริยาปอซโซลาน การพัฒนาออกแบบเม็ดดูดซับเซรามิคผลิตจากกากกาแฟ ศักยภาพของน้ำมันเมล็ดมะเคาะในการเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก