สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ในการผลิตโครงสร้างแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการตรวจสอบสารปนเปื้อนทางการเกษตร
ศาสตราจารย์​ เภสัชกรหญิง ดรมณฑารพ ยมาภัย - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ในการผลิตโครงสร้างแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการตรวจสอบสารปนเปื้อนทางการเกษตร
ชื่อเรื่อง (EN): Development of phage display and antibody engineering technology for the production of antibody fragments suitable for detecting agricultural contaminants
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศาสตราจารย์​ เภสัชกรหญิง ดรมณฑารพ ยมาภัย
บทคัดย่อ:      สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ในการผลิตโครงสร้างแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการตรวจสอบสารปนเปื้อนทางการเกษตร” แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ในการผลิตโครงสร้างแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการตรวจสอบสารปนเปื้อนทางการเกษตร      จากการศึกษาวิจัย พบว่า การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี โดยพัฒนาเทคนิคการสร้างคลังแอนติบอดีส่วน scFv จากกระต่าย ในส่วนของเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ได้พัฒนาเทคนิคการผลิตเป็นแอนติบอดีที่เชื่อมกับ เอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเทส scFv-AP และ ปรับเป็นแอนติบอดีเต็มรูปแบบ IgG และแสดงการนำมาใช้ในการตรวจสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ในรูปแบบ ELISA และ แถบวิเคราะห์ Lateral flow หรือ strip test  ในส่วนคุณสมบัติและประสิทธิภาพของแอนติบอดีที่พัฒนาขึ้นมาได้นั้น พบว่าแอนติบอดีจากมนุษย์ มีคุณสมบัติในการตรวจจับสารพิษจากเชื้อราทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ อะฟลาทอกซิน  โอคราทอกซิน และ ซีราลีโนน ดีกว่าแอนติบอดีที่ได้จากกระต่าย  โดยค่าความไวในการตรวจสอบหรือ (IC50) ของแอนติบอดีในรูปแบบต่างๆ มีลำดับความไวจากมากไปน้อยคือ  scFv-AP > แอนติบอดีแบบ scFv อิสระ >แอนติบอดีที่อยู่บนผิวเฟจ ผลการศึกษาความคงตัวของแอนติบอดี พบว่า ความคงทนขึ้นกับชนิดของแอนติบอดี โดยสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บรักษาคือในกลีเซอรอล 50% ที่ –20 องศาเซลเซียส เพราะจะดีต่อแอนติบอดีทุกรูปแบบ เมื่อผู้วิจัยได้นำแอนติบอดีมนุษย์ที่มีโครงสร้างแบบ scFv-AP ตรวจหาสารปนเปื้อนจากน้ำสกัด ที่สกัดจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 2 ชนิดคือ ข้าวโพด และข้าวสาลี ผลการศึกษาพบว่าแอนติบอดีต่อ อะฟลาทอกซิน โอคราทอกซิน และ ซีราลีโนน มีค่า IC50 เท่ากับ 2, 500 และ 400 ไมโครกรัม/มล ตามลำดับ ซึ่งแสดงว่าเฉพาะแอนติบอดีต่อ อะฟลาทอกซิน และ ซีราลีโนน มีคุณสมบัติดีพอที่จะทำการศึกษาต่อไป ซึ่งเมื่อนำไปใช้ตรวจหาการปนเปื้อนจากตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมาตรฐาน 2 ชนิดคือ ข้าวโพด และ ข้าวสาลี ซึ่งรู้ปริมาณการปนเปื้อนที่แน่นอน พบว่าเฉพาะแอนติบอดีต่อ ซีราลีโนน มีความไวเพียงพอที่จะใช้ตรวจการปนเปื้อนในข้าวสาลีในเชิงคุณภาพ คือสามารถตรวจได้ที่ระดับ <1000 ppb ซึ่งอยู่ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานของประเทศไทย และหลายประเทศทั่วโลก (<3000 ppb)  ทั้งนี้โครงสร้างของแอนติบอดีทั้งหมดที่ได้จากโครงการวิจัยนี้ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาคุณสมบัติให้ดียิ่งขึ้นต่อไปด้วยวิธีการพันธุวิศวกรรม      ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลงานวิจัย ได้กระบวนการในการพัฒนาเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี เพื่อทำการผลิตแอนติบอดีต่อสารพิษปนเปื้อนทางการเกษตรและอาหาร นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย สามารถประยุกต์ใช้ทางด้านการแพทย์ และด้านอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตชุดตรวจสารปนเปื้อนทางการเกษตร และอื่นๆ ที่ต้องใช้แอนติบอดีในการตรวจสอบอีกด้วย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: แอนติบอดี;เทคโนโลยีเฟจ; วิศวกรรม; แฮบเทน;สารพิษ; ปนเปื้อน; การพัฒนาความสามารในการจับ; มนุษย์; กระต่าย; ส่วนแปรปรวนสูงสายเดี่ยว
คำสำคัญ (EN): antibody; phage display technology; engineering; hapten; toxin; contaminants; affinity maturation; human; rabbit; scFv
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
ข้อมูลทรัพยสินทางปัญญา
ประเภทIP สิทธิบัตรการประดิษฐ์
รายชื่อสิ่งประดิษฐ์ ชิ้นส่วนโมโนโคลนอลแอนติบอดีมนุษย์ชนิดเส้นเดี่ยว ที่เชื่อมติดอยู่กับเอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเทส สามารถให้สัญญาณเพื่อการตรวจวัดในตัวเอง สำหรับตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อรา: ซีราลีโนน (Zearalenone)
เลขที่คำขอ 1701001530
วันที่ยื่นคำขอ 2017-03-21 12:00:00
เลขที่ประกาศ
วันที่จดทะเบียน
เลขที่จดทะเบียน
วันที่ประกาศ 2020-03-17 12:00:00
สถานะปัจจุบัน เชิงพาณิชย์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ในการผลิตโครงสร้างแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการตรวจสอบสารปนเปื้อนทางการเกษตร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
23 สิงหาคม 2558
การพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพบนผิวเฟจ และเทคนิควิศวกรรมแอนติบอดี ในการผลิตโครงสร้างแอนติบอดี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการตรวจสอบสารปนเปื้อนทางการเกษตร การสำรวจระดับแอนติบอดีต่อโรคคลามัยเดียในโคเขต1 การสำรวจระดับแอนติบอดีต่อโรคคลามัยเดียในโคเขต 1 การใช้เทคโนโลยีแอนติบอดีบนผิวเฟจเพื่อการตรวจสอบและติดตามปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิตแอนติบอดีบนผิวเฟจเพื่อการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตร การพัฒนาเทคนิคการคัดหาเฟจจากคลังและการพัฒนาคลังชนิดทุติยภูมิ เพี่อการประยุกต์ใช้ทางการเกษตร การยกระดับเลือดโคพันธุ์บราห์มันในโคพื้นเมืองของเกษตรกรรายย่อยบนที่สูงโดยใช้ฮอร์โมนคุมสัดและเทคนิคผสมเทียม โครงการ พัฒนาเยาวชนบนพื้นที่สูง การจำแนกลักษณะประจำพันธุ์ไหมโดยเทคโนโลยีชีวภาพ โครงการทดสอบเทคโนโลยีการผลิตยางพาราที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก