สืบค้นงานวิจัย
วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ
วิเชียร ฝอยพิกุล - มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ชื่อเรื่อง: วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ
ชื่อเรื่อง (EN): The optinum mulching materials of garlic growing (sisaket variety)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิเชียร ฝอยพิกุล
บทคัดย่อ: การวิจัยเรื่อง วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษในครั้งนี้เป็นการทดลองในพื้นที่จริงของเกษตรกร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงวิธีการเขตกรรมของเกษตรกรที่ปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษให้ได้ผลดียิ่งขึ้น จักได้นำไปใช้แนะนำได้ต่อไป โดยแบ่งการทดลองเป็น 2 ขั้นตอน ทำการทดลอง 2 ฤดูปลูกติดต่อกันในปีเพาะปลูก 2537/38 และ 2538/39 ขั้นตอนแรก เป็นการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบการใช้วัสดุคลุมดินชนิดต่าง ๆ ในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ ทำการปลูกในปีเพาะปลูก 2537/38 ใช้พื้นที่แปลงปลูกกระเทียมของนายเสรี กะการดี เกษตรกรบ้านซำขี้เหล็ก หมู่ที่ 10 ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะะเกษ กำหนดสิ่งทดลองเป็น 5 ตำรับการทดลอง คือ การคลุมแปลงด้วย ฟางข้าว เปลือกถั่วลิสง ซังข้าวโพด แกลบ และแปลงควบคุมที่ไม่ได้คลุมดิน มีทั้งหมด 4 ซ้ำ รวม 20 แปลงย่อย การทดลองในขั้นตอนที่ 2 ปลูกในปีเพาะปลูก 2538/39 เป็นการศึกษาเพื่อหาปริมาณฟางที่เหมาะสมในการคลุมแปลง ใช้พื้นที่ของนางสุดใจ นามวงศ์ เกษตรบ้านภูเงิน ตำบลภูเงิน อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ กำหนดสิ่งทดลองเป็น 4 ตำรับ คือ การคลุมแปลงด้วยฟางข้าว 4 ระดับคือ 2, 4, 6 และ 8 กก.ต่อแปลงกว้าง 1X4 เมตร มี 4 ซ้ำ รวม 16 แปลงย่อย การทดลองทั้งสองครั้ง ใช้แผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ภายในบลอกซ์ (RCBD) ขนาดแปลง 1X4 เมตร เท่ากัน ทำ 4 ซ้ำ ระดับของการปฏิบัติในการดูแลแปลงเป็นระดับของเกษตรกรเจ้าของพื้นที่เอง เกษตรตำบล นักวิชาการเกษตรและผู้วิจัยทำหน้าที่เพียงการวางแผนทดลอง กำหนดสิ่งทดลอง การควบคุม และการเก็บข้อมูลจากการวัดต่าง ๆ เท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเขตกรรมของเกษตรกรมากนัก เพราะวัตถุประสงค์ของการทดลองมุ่งที่วิธีการคลุมแปลงเพียงอย่างเดียว ในการทดลองครั้งที่ 1 ซึ่งมีทั้งหมด 5 ตำรับทดลอง 4 ซ้ำ รวม 20 แปลงย่อย ขนาดแปลงกว้าง 1X4 เมตร ใช้ปุ๋ยคอก อัตรา 1 ตันต่อไร่ ใส่ตอนเตรียมแปลงปลูก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 และใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กก. ต่อไร่ ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 10 กก.ต่อไร่ ใส่ในระยะเวลาต่อมา การดูแลแปลงมีการรดน้ำทุกวันในระหว่างการทดลอง วัดค่าอุณหภูมิดินที่ระดับความลึก 10 ซม. เวลา 09.00 น. ทุกวันวัดการเจริญเติบโตของกระเทียมตอนโตเต็มที่ใกล้เก็บเกี่ยว และเก็บผลผลิต จากผลการทดลองพบว่า วัสดุคลุมดินที่แตกต่างมีผลทำให้อุณหภูมิทีดินที่ระยะ 10 ซม. ไม่แตกต่างกันนัก แต่แปลงที่ไม่ได้คลุมจะมีค่าอุณหภูมิดินที่สูงกว่าเล็กน้อย ความขึ้นในดินของแปลงที่คลุมดีกว่าและไม่ร้อนมาก การเจริญเติบโตของกระเทียมแปลงที่คลุมด้วยวัสดุต่าง ๆ กระเทียมเจริญเติบโตได้ดี หัวโตสม่ำเสมอ ต่างจากแปลงที่ไม่ได้คลุม ซึ่งกระเทียมเจริญเติบโตช้ากว่าและขนาดของหัวไม่สม่ำเสมอ ด้านผลผลิตกระเทียมที่นำไปขายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญอย่างยิ่งทางสถิติ แปลงที่ให้ผลผลิตกระเทียมทีสูงสุดคือ แปลงที่คลุมด้วยฟางข้าว ให้ผลผลิต 1181 กก.ต่อไร รองลงมาคือ แปลงที่คลุมด้วยเปลือกถั่วลิสง แกลบ และ ซังข้าวโพด ซึ่งให้ผลผลิตกระเทียม 1090, 964 และ 885 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ และแปลงที่ไม่ได้คลุมดิน ให้ผลผลิตต่ำสุด 805 กก.ต่อไร จึงนำไปสูข้อเสนอแนะในการทดลองครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการหาปริมาณของฟางที่เหมาะสมในการคลุมแปลงปลูกกระเทียม การทดลองครั้งที่สอง ซึ่งทำในปีต่อมา เป็นการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษแล้วกำหนดสิ่งทดลองเป็น 4 ระดับคือ ใช้ฟางอัตรา 2, 4, 6 และ 8 กก.ต่อแปลง ที่มีขนาดเท่ากับ 1X4 เมตร มี 4 ซ้ำ ใช้แผนการทดลองแบบ RCBD เริ่มเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2538 ดูแลแปลงตามปกติ เก็บข้อมูลอุณหภูมิดินที่ระดับ 10 ซม. วัดความสูงของกระเทียมเพื่อศึกษาการเจริญเติบโต และเก็บเกี่ยวผลผลิตที่กระเทียมแก่ได้ที่ ชั่งหาน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งหลังจากการผึ่งลมด้วย ผลการทดลอง พบว่า อุณหภูมิดินที่ระยะ 10 ซม. ในแปลงทุกแปลงไม่แตกต่างกันมาก แต่ถ้าใช้ฟางหนาเกินไป เช่น ในแปลงที่คลุมด้วยฟาง 6 และ 8 กก. ทำให้อุณหภูมิดินสูงกว่าแปลงที่คลุมด้วยฟางน้อยกว่า การเจริญเติบโตของกระเทียมช่วง 2 สัปดาห์แรกช้ามาก มีความสูงประมาณ 10 ซม. เท่านั้น แต่หลังจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์จะสูงเพิ่มขึ้นเป็น 40 ซม.อย่างรวดเร็ว แล้วเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยหรือเกือบคงที่จนถึงกระเทียมแก่ที่ระดับความสูง 40-42 ซม.ไม่แตกต่างกัน ด้านผลผลิตน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งของกระเทียม มีความแตกต่างกัน แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แปลงที่ให้ผลผลิตกระเทียมได้สูงสุด คือ แปลงที่คลุมด้วยฟาง 6 กก.ต่อแปลง คือให้ผลผลิตน้ำหนักแห้ง 2085 กก.ต่อไร่ และรองลงมาคือแปลงที่คลุมด้วยฟาง 2 กก. 4 กก. และ 8 กก.ต่อแปลง โดยมีผลผลิตน้ำหนักแห้ง 2030, 1900 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ ดังนั้นข้อสรุปและเสนอแนะจากการทดลองเพื่อศึกษาวิจัยกรใช้วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมกับการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษกรในครั้งนี้ คือ การปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ จำเป็นต้องใช้วัสดุคลุมดิน และวัสดุที่เหมาะสมคือ ฟางข้าว ซึ่งหาได้ง่ายพื้นที่ โดยใช้อัตราการคลุมแปลงคือ ฟางข้าวแห้ง 6 กก.ต่อขนาดแปลงกว้าง 4 ตร.ม.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://library.srru.ac.th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
คำสำคัญ: กระเทียม
คำสำคัญ (EN): 635.26
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
รายละเอียด: การวิจัยเรื่อง วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษในครั้งนี้เป็นการทดลองในพื้นที่จริงของเกษตรกร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงวิธีการเขตกรรมของเกษตรกรที่ปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษให้ได้ผลดียิ่งขึ้น จักได้นำไปใช้แนะนำได้ต่อไป โดยแบ่งการทดลองเป็น 2 ขั้นตอน ทำการทดลอง 2 ฤดูปลูกติดต่อกันในปีเพาะปลูก 2537/38 และ 2538/39 ขั้นตอนแรก เป็นการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบการใช้วัสดุคลุมดินชนิดต่าง ๆ ในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ ทำการปลูกในปีเพาะปลูก 2537/38 ใช้พื้นที่แปลงปลูกกระเทียมของนายเสรี กะการดี เกษตรกรบ้านซำขี้เหล็ก หมู่ที่ 10 ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะะเกษ กำหนดสิ่งทดลองเป็น 5 ตำรับการทดลอง คือ การคลุมแปลงด้วย ฟางข้าว เปลือกถั่วลิสง ซังข้าวโพด แกลบ และแปลงควบคุมที่ไม่ได้คลุมดิน มีทั้งหมด 4 ซ้ำ รวม 20 แปลงย่อย การทดลองในขั้นตอนที่ 2 ปลูกในปีเพาะปลูก 2538/39 เป็นการศึกษาเพื่อหาปริมาณฟางที่เหมาะสมในการคลุมแปลง ใช้พื้นที่ของนางสุดใจ นามวงศ์ เกษตรบ้านภูเงิน ตำบลภูเงิน อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ กำหนดสิ่งทดลองเป็น 4 ตำรับ คือ การคลุมแปลงด้วยฟางข้าว 4 ระดับคือ 2, 4, 6 และ 8 กก.ต่อแปลงกว้าง 1X4 เมตร มี 4 ซ้ำ รวม 16 แปลงย่อย การทดลองทั้งสองครั้ง ใช้แผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ภายในบลอกซ์ (RCBD) ขนาดแปลง 1X4 เมตร เท่ากัน ทำ 4 ซ้ำ ระดับของการปฏิบัติในการดูแลแปลงเป็นระดับของเกษตรกรเจ้าของพื้นที่เอง เกษตรตำบล นักวิชาการเกษตรและผู้วิจัยทำหน้าที่เพียงการวางแผนทดลอง กำหนดสิ่งทดลอง การควบคุม และการเก็บข้อมูลจากการวัดต่าง ๆ เท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเขตกรรมของเกษตรกรมากนัก เพราะวัตถุประสงค์ของการทดลองมุ่งที่วิธีการคลุมแปลงเพียงอย่างเดียว ในการทดลองครั้งที่ 1 ซึ่งมีทั้งหมด 5 ตำรับทดลอง 4 ซ้ำ รวม 20 แปลงย่อย ขนาดแปลงกว้าง 1X4 เมตร ใช้ปุ๋ยคอก อัตรา 1 ตันต่อไร่ ใส่ตอนเตรียมแปลงปลูก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 และใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กก. ต่อไร่ ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 10 กก.ต่อไร่ ใส่ในระยะเวลาต่อมา การดูแลแปลงมีการรดน้ำทุกวันในระหว่างการทดลอง วัดค่าอุณหภูมิดินที่ระดับความลึก 10 ซม. เวลา 09.00 น. ทุกวันวัดการเจริญเติบโตของกระเทียมตอนโตเต็มที่ใกล้เก็บเกี่ยว และเก็บผลผลิต จากผลการทดลองพบว่า วัสดุคลุมดินที่แตกต่างมีผลทำให้อุณหภูมิทีดินที่ระยะ 10 ซม. ไม่แตกต่างกันนัก แต่แปลงที่ไม่ได้คลุมจะมีค่าอุณหภูมิดินที่สูงกว่าเล็กน้อย ความขึ้นในดินของแปลงที่คลุมดีกว่าและไม่ร้อนมาก การเจริญเติบโตของกระเทียมแปลงที่คลุมด้วยวัสดุต่าง ๆ กระเทียมเจริญเติบโตได้ดี หัวโตสม่ำเสมอ ต่างจากแปลงที่ไม่ได้คลุม ซึ่งกระเทียมเจริญเติบโตช้ากว่าและขนาดของหัวไม่สม่ำเสมอ ด้านผลผลิตกระเทียมที่นำไปขายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญอย่างยิ่งทางสถิติ แปลงที่ให้ผลผลิตกระเทียมทีสูงสุดคือ แปลงที่คลุมด้วยฟางข้าว ให้ผลผลิต 1181 กก.ต่อไร รองลงมาคือ แปลงที่คลุมด้วยเปลือกถั่วลิสง แกลบ และ ซังข้าวโพด ซึ่งให้ผลผลิตกระเทียม 1090, 964 และ 885 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ และแปลงที่ไม่ได้คลุมดิน ให้ผลผลิตต่ำสุด 805 กก.ต่อไร จึงนำไปสูข้อเสนอแนะในการทดลองครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการหาปริมาณของฟางที่เหมาะสมในการคลุมแปลงปลูกกระเทียม การทดลองครั้งที่สอง ซึ่งทำในปีต่อมา เป็นการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษแล้วกำหนดสิ่งทดลองเป็น 4 ระดับคือ ใช้ฟางอัตรา 2, 4, 6 และ 8 กก.ต่อแปลง ที่มีขนาดเท่ากับ 1X4 เมตร มี 4 ซ้ำ ใช้แผนการทดลองแบบ RCBD เริ่มเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2538 ดูแลแปลงตามปกติ เก็บข้อมูลอุณหภูมิดินที่ระดับ 10 ซม. วัดความสูงของกระเทียมเพื่อศึกษาการเจริญเติบโต และเก็บเกี่ยวผลผลิตที่กระเทียมแก่ได้ที่ ชั่งหาน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งหลังจากการผึ่งลมด้วย ผลการทดลอง พบว่า อุณหภูมิดินที่ระยะ 10 ซม. ในแปลงทุกแปลงไม่แตกต่างกันมาก แต่ถ้าใช้ฟางหนาเกินไป เช่น ในแปลงที่คลุมด้วยฟาง 6 และ 8 กก. ทำให้อุณหภูมิดินสูงกว่าแปลงที่คลุมด้วยฟางน้อยกว่า การเจริญเติบโตของกระเทียมช่วง 2 สัปดาห์แรกช้ามาก มีความสูงประมาณ 10 ซม. เท่านั้น แต่หลังจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์จะสูงเพิ่มขึ้นเป็น 40 ซม.อย่างรวดเร็ว แล้วเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยหรือเกือบคงที่จนถึงกระเทียมแก่ที่ระดับความสูง 40-42 ซม.ไม่แตกต่างกัน ด้านผลผลิตน้ำหนักสดและน้ำหนักแห้งของกระเทียม มีความแตกต่างกัน แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แปลงที่ให้ผลผลิตกระเทียมได้สูงสุด คือ แปลงที่คลุมด้วยฟาง 6 กก.ต่อแปลง คือให้ผลผลิตน้ำหนักแห้ง 2085 กก.ต่อไร่ และรองลงมาคือแปลงที่คลุมด้วยฟาง 2 กก. 4 กก. และ 8 กก.ต่อแปลง โดยมีผลผลิตน้ำหนักแห้ง 2030, 1900 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ ดังนั้นข้อสรุปและเสนอแนะจากการทดลองเพื่อศึกษาวิจัยกรใช้วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมกับการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษกรในครั้งนี้ คือ การปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ จำเป็นต้องใช้วัสดุคลุมดิน และวัสดุที่เหมาะสมคือ ฟางข้าว ซึ่งหาได้ง่ายพื้นที่ โดยใช้อัตราการคลุมแปลงคือ ฟางข้าวแห้ง 6 กก.ต่อขนาดแปลงกว้าง 4 ตร.ม.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
วัสดุคลุมดินที่เหมาะสมในการปลูกกระเทียมพันธุ์ศรีสะเกษ
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
2539
ศึกษาการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินชุดโคราช การเปรียบเทียบพันธุ์แตงแคนตาลูปที่เหมาะสม 4 พันธุ์ เพื่อส่งเสริมปลูกในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ การปลูกผักชีแบบไม่ใช้ดินในเครื่องปลูกชนิดต่าง ๆ จากท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร ประสิทธิภาพของน้ำสกัดจากกระเทียมในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ผลการคลุกฟางข้าวติดต่อกันที่มีต่อดินและผลผลิตข้าว การตรวจสอบหาลายพิมพ์ประจำพันธุ์ช้าวสาลี การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี การศึกษาประสิทธิภาพสารสกัดข่ากระเทียมและกระเจี๊ยบในการยับยั้งเชื้อราที่ผลส้มเขียวหวาน การตอบสนองของข้าวสาลีต่อปุ๋ยฟอสเฟตสองชนิด 5 ระดับในดินชุดโคราช ปริมาณการพังทลายของดินในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี : วิเคราะห์โดยใช้สมการการสูญเสียดินสากล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก