สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัย เรื่องฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า
รัตนา เฉลิมกลิ่น - มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัย เรื่องฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า
ชื่อเรื่อง (EN): Antioxidation activity of commercial lotus & water lily
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัตนา เฉลิมกลิ่น
บทคัดย่อ: ( ก ) ชืองานวิจัย : ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวทีนิยมปลูกเป็นการค้า tioxidation Activi ofco_erciaI Loณs &watcr 1ily ชื่อผูีวจัย : ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัตนา เฉลืมกลิ่น ปีที่ทำวิจัย : 2548 บท คัด ย่อ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า ได้แก่ บัวหลวง บัวสาย และบัวผันทึ่เก็บจากเเหล่งปลูกในภาคกลาง ทำการศึกษาฤทธึ์ต้าน ออกซิเดชันในส่วนของใบ กลีบดอก ก้าน เกสร และเหง้า โดยวิธีทางสเปกโทรโฟโตเมตรี และ ใช้อนุมูลอิสระที่ค่อนข้างเสถียร คือ 2 2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH) เปรียบเทียบกับสาร ต้านอนุมูลอิสระ BHA คำนวณค่า % การออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และรายงานผลเป็นค่า lc พบว่า BHA มีค่า lc o.ol8 mg/ml ส่วนต่างๆของบัวมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันแตกต่างกัน เกสร และกลีบดอกของบัวหลวงและบัวสาย มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันสูงกว่าส่วนอื่น โดยเกสรบัวหลวง และเกสรบัวสายมีค่า lc 16.8872 mg/ml และ 7.8879 mg/ml ค่า lc ของกลีบดอกบัวทั้งสอง ชนิดมีค่า 20.0450 และ 20.4969 mg/ml ตามลำดับ ส่วนใบ ก้านและเหล้าของบัวส่วนใหญ่ไม่ มีฤทธิ์ต้านออกซิเคชัน ยกเว้นเหง้าบัวผันพบว่ามีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันสูงกว่า เกสร และ กลีบ ดอก โดยค่า lc ของเหง้าบัวผัน มีค่าอยู่ที่ 4.3143 mg/ml
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=31&RecId=524&obj_id=5888
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
คำสำคัญ: วจ584.32
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
รายละเอียด: ( ก ) ชืองานวิจัย : ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวทีนิยมปลูกเป็นการค้า tioxidation Activi ofco_erciaI Loณs &watcr 1ily ชื่อผูีวจัย : ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัตนา เฉลืมกลิ่น ปีที่ทำวิจัย : 2548 บท คัด ย่อ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า ได้แก่ บัวหลวง บัวสาย และบัวผันทึ่เก็บจากเเหล่งปลูกในภาคกลาง ทำการศึกษาฤทธึ์ต้าน ออกซิเดชันในส่วนของใบ กลีบดอก ก้าน เกสร และเหง้า โดยวิธีทางสเปกโทรโฟโตเมตรี และ ใช้อนุมูลอิสระที่ค่อนข้างเสถียร คือ 2 2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH) เปรียบเทียบกับสาร ต้านอนุมูลอิสระ BHA คำนวณค่า % การออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และรายงานผลเป็นค่า lc พบว่า BHA มีค่า lc o.ol8 mg/ml ส่วนต่างๆของบัวมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันแตกต่างกัน เกสร และกลีบดอกของบัวหลวงและบัวสาย มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันสูงกว่าส่วนอื่น โดยเกสรบัวหลวง และเกสรบัวสายมีค่า lc 16.8872 mg/ml และ 7.8879 mg/ml ค่า lc ของกลีบดอกบัวทั้งสอง ชนิดมีค่า 20.0450 และ 20.4969 mg/ml ตามลำดับ ส่วนใบ ก้านและเหล้าของบัวส่วนใหญ่ไม่ มีฤทธิ์ต้านออกซิเคชัน ยกเว้นเหง้าบัวผันพบว่ามีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันสูงกว่า เกสร และ กลีบ ดอก โดยค่า lc ของเหง้าบัวผัน มีค่าอยู่ที่ 4.3143 mg/ml
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัย เรื่องฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
2548
รายงานการวิจัยเรื่องฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดจากบัวที่นิยมปลูกเป็นการค้า รายงานการวิจัยเรื่อง การทดสอบฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของสารสกัดจากผักในเขตเทศบาลเมืองนครปฐม การศึกษาฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ของดีปลากั้ง รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ฟีโลเดนดรอนมูนไลท์ การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน และฤทธิ์ยังยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสจากพืชสมุนไพรจังหวัดอุบลราชธานี รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาการทำน้ำหอมจากดอกไม้หอม งานวิจัยเรื่อง ชุดทดสอบหาสารปราบศัตรูพืชที่ตกค้างในผัก รายงานการวิจัยเรื่อง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตว่านกระชายดำ รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาอัตราส่วนความเข้มข้นของน้ำสกัดชีวภาพที่มีผลของการเจริญเติบโตของผักกวางตุ้งฮ่องเต้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก