สืบค้นงานวิจัย
การจัดการธาตุอาหารและน้ำในการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
ศุภธิดา อ่ำทอง - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การจัดการธาตุอาหารและน้ำในการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
ชื่อเรื่อง (EN): PLANT NUTRITION AND WATER MANAGEMENT OF OKRA
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศุภธิดา อ่ำทอง
บทคัดย่อ: กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชผักที่มีศักยภาพในการเป็นพัชส่งออก มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและยัง เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง การจัดการธาตุอาหารนับว่าเป็นประเด็นความสำคัญในกระบวนการ ผลิตเพื่อให้ผลผลิตและคุณภาพเพิ่มขึ้น และยังเป็นการลดต้นทุนด้วยถ้ามีการจัดการอย่างเหมาะสม ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ทดลองดังนี้ 1. การเปรียบเทียบกระเจี๊ยบเขียวสายพันธุ์ต่าง ๆ มีความสามารถต่อต้านทานโรคไว รัสแตกต่างกัน ในขณะเดียวกันสายพันธุ์กระเจี๊ยบเขียวก็มีลักษณะการเจริญเติบโต และลักษณะทาง กายภาพของต้นและรากแตกต่างกันด้วย ทั้งอาจจะมีผลต่อการดูดใช้ธาตุอาหารเพื่อเสริมสร้างความ แข้งแรงให้กับกระเจี๊ยบเขียวแตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาโรคไวรัสได้ ซึ่งการ ทดลองครั้งนี้จะศึกษาความเข้มข้นของธาตุอาหาร N, P และ K ในใบกระเจี๊ยบเขียวตำแหน่งที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดจากฝักลงไปที่ถูกเก็บเกี่ยวของกระเจี๊ยบ 16 สายพันธุ์ ขึ้งสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือกลุ่ม พันธุ์ต้นสูงและกลุ่มพันธุ์ต้นเตี้ย กลุ่มละ 8 สายพันธ์ พร้อมกันนั้นก็ได้ทำการวัดการเจริญเติบโตไป พร้อมกัน พบว่า ความเข้มข้นของ N, P และ K เมื่อเปรียบเทียบภายใน16 สายพันธุ์นั้นไม่มีความแตก ต่างกันทางสถิติ แต่เมื่อแยกเป็นกลุ่มพันธุ์สูงและพันธุ์เตี้ย พบว่ากลุ่มพันธุ์สูงจะมีค่าความเข้มข้นของ N ในใบที่ 2 สูงกว่ากลุ่มพันธุ์เตี้ย ในขณะที่ธาตุ P ในใบตำแหน่งที่ 3 พบว่ากลุ่มพันธุ์เตี้ยมีค่าความ เข้มข้นสูงกว่า ส่วน K นั้นไม่มีความแตกต่างกันในทั้งสองกลุ่ม นอกจากนี้ในเรื่องของตำแหน่งของใบ พบว่าความเข้มข้นของธาตุ N และ K ในใบที่ 2 มีค่าต่ำกว่าใบที่ 3 ที่อยู่ถัดจากฝักลงไปอาจจะเป็น เพราะมีการเคลื่อนย้ายธาตุอาหารในการพัฒนาผัก และเมื่อนำค่าความเข็มข้นของ N, P และ K สร้าง ความสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของกระเจี๊ยบทั้ง 16 พันธุ์พบว่าค่าความเข้มข้นของธาตุอาหารที่ทำ ให้มีการเจริญเติบโตสูงสุดคือ 3.5-3.6 , 0.50-0.55 และ 3.1-3.2 % ตามลำดับ 2. การศึกษาผลของธาตุ N และ K ต่อคุณสมบัติของดิน ความเข้มข้นของธาตุอาหาร ต่าง ๆในส่วนต่าง ๆของกระเจี๊ยบเขียว และผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียว โดยทำการทดลองในดินผ่าน การจัดการดินอย่างประณีต โดยใช้แผนการทดลอง Factorial in Randomized Complete Block Design ประกอบด้วย2 ปัจจัย3ซ้ำ คือ 1. N มี2 อัตราคือ 3.75 และ 7.50 Kg/ ไร่เครั้ง และ2 K JO มี 6 อัตรา คือ 0, 1, 3, 5. 7 และ 10 KgK.O/ไม่เครั้ง โดยใส่ทั้งหมด 4 ครั้งที่อายุกระเจี๊ยบเขียว อายุ 0, 20, 40 และ 60 วัน โดยผสมปุ๊ย N และ K แล้วโรยข้างต้นแล้วกลบ และเมื่อกระเจี๊ยบเขียว อายุ 50 วัน ทำการเก็บตัวอย่างดินที่ระดับ 0-15 cm และตัวอย่างใบกระเจี๊ยบเขียวที่ตำแหน่ง 1 และ 2 ที่อยู่ถัดลงจากฝัก และฝักที่เก็บในช่วงสัปดาห์ที่ 2, 4 และ 6 มาวิเคราะห์คุณสมบัติและธาตุอาหาร พบว่าผลของการใช้ N ที่อัตรา 7.50 kg/ไร่/ครั้ง มีผลทำให้ pH ของดินต่ำกว่าดินที่มีการใส่ N อัตรา 3.75 kg/ไร่เครั้ง และการใส K มีผลทำให้ปริมาณโปแตเชียมที่สกัดได้เพิ่มขึ้นโดยมีความแตกต่างกัน ทางสถิติ ผลของการใส่ N ในอัตราที่เพิ่มขึ้นทำให้ความเข้มข้น N ในที่ 1 และ 2 (ถัดลงมาจากฝัก) และฝักในช่วงสัปดาห์ที่ 2 มีความเข้มข้นของ N เพิ่มขึ้น และทำให้ Ca และMg ในใบที่2 เพิ่มขึ้น แต่ ทำให้ Ca ในฝึกช่วงสับตาห์ที่ 2, 4 และ 6 มีความเข้มข้นลดลง ในขณะที่ Mn ในใบที่ 1 และ 2 เพิ่มแต่ทำให้ B ในใบที่ 1 ลดลงโดยมีความแตกต่างกันทางสถิติ วนผลของการเพิ่ม K ความเข้มข้น N ในฝักช่วงสัปดาห์ที่ 4 ความเข้มข้น P ในใบที่ 2 และทำให้ความเข้มข้น K ในฝักช่วง สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มขึ้นแต่ทำให้ความเข้มข้น Ca ในผักช่วงสัปดาห์ที่ 4 ลดลง สำหรับการเจริญเติบโตนั้น พบว่า N ทำให้ความสูงที่อายุ 60 วันสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ แต่เส้นผ่าศูนย์กลาง จำนวนกิ่ง และ จำนวนวันการออกดอก 50 % มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับน้ำหนักสด และจำนวนฝักรามทั้งหมด และการเพิ่ม N และK ทำให้น้ำหนักแห้งในช่วงสัปดาห์ที่ 4 และ 6 เพิ่มอย่างนัยสำคัญทางสถิติ 3. การศึกษาถึงผลของ N, P และ K ในดินชุดสันทรายที่ไม่ผ่านระบบการเกษตรโดยมี แผนการทดลองเป็น Randomized Complete Block Design) ประกอบด้วย 36 ตำรับการทดลอง มี ผลต่อคุณสมบัติของดิน การดูดใช้ธาตุอาหาร พบว่าถ้าเพิ่มธาตุธาตุ N ในรูป NH,NO, ทำให้ pH ของ ดินลดลง ในขณะที่ค่าการนำไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยมีความแตกต่างกันอย่างนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่ การเพิ่ม P และ K จะทำให้ฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชเพิ่มขึ้น สำหรับการเพิ่ม N. P และ K ต่อการดูดใช้ธาตุอาหารในใบพบว่าการเพิ่ม N ในดินทำให้ความเข้มข้น N, P, Mg และ Zn เพิ่มขึ้น ในขณะที่ K. Ca, Fe, Mn มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ประเด็นที่พบจากการศึกษาครั้งนี้พบว่าเมื่อมีการเพิ่มธาตุ K จะพบว่า Mg ในใบกระเจี๊ยบเขียวมีแนวโน้มลดลง และปฏิสัมพันธ์ของธาตุอาหารหลักถ้าใส่ให้กับพืชในปริมาณไม่เหมาะสมหรือไม่สมดุลกันจะทำให้เกิด ผลกระทบในเรื่องการดูดใช้ธาตุอาหารที่ไม่สมดุลเช่นกันตลอดจนการเจริญเติบโต และผลผลิตในที่สุด
บทคัดย่อ (EN): okra (Abelmoschus esculentus I , one the Thailand's most valuab and has very high value nutrient. Some have argued that variable fertllizer management is appropriate and profitable for the highly productive and qualitative This study consisted three experimentais. The experiment peaiment was varieties of okra have the vary pattern of growth and morphology may be affected to nutrient uptake. Nutrient uptake and concentration reflect of the healthy plant. This investigation was carried on from the study the varietal resistant of okra, determination of the N, P and K concentration of the second and third leaf under pod is harvested. This study has sixteen varieties of okra and could be provided two group are high and short stem. Results showed that N, P and K concentration in second and third leaf under pod of sixteen varieties were not significant. N concentration in second leaf of high stem group was significantly higher than short stem up. P concentration in third leaf of short stem group was significantly high stem group. K concentration was not significant in the both leaves of short and high stem groups. The Nutrient concentration in the varies position of leaf showed that N and K concentration in second leaf were lower than the third ieaf may be translocated nutrients from second for development of pod. Also, the estimated critical level of N ,P and K of sixteen varieties of okra were 3.5-3.6 ,0.50-0.55 and 3.1-3.2 respectively. The second experiment was designed to study the effect of N and K on soil properties, nutrient concentration in vary plant organ and yield.The experiment was a 2 X 6 factorial in randomized complete blocks with three replications which was conducted on fertile field .Treatments consisted of two levels of N ( 3.75 and 7.50 kgN/rai/time) and six level of K ( 0,1,3,5,7 and 10 kgK,O/rai/time), application four times. Treatment banded beside and below the seed and the plant at 0 , 20 . 40 and 60 days after planting. Soil sampies were collected at a 0-15 cm depth (five points) which between the okra rows from each plot for one composite sample after applying ertilization three times. Plant samples were collected at the first and second leaf under the pod which harvested at 50 days age of okra and harvested pod at during the second , fourth and sixth week. Soil and plant sampies were analyzed some chemical properties and nutrient concentration. Application of N decreased soil pH and K application increased extractable K in soil. Application N increased N concentration in the first and second ieaf , harvested pod at second week , Ca and Mg concentration in the second leaf and Mn concentration in the first and second leaf ; but it decreased Ca in pod at second fourth and sixth week and B concentration in first. Application of K increased N concentration in pod at fourth week , P concentration in the second leaf and K concentration in pod at second week; but it decreased Ca concentration in pod at fourth week. Application N tended to increase yield . fresh weight , number of pod and increased plant growth e.g. high at 60 da okra tended to increase diameter, number of thiller and delaved flowering."N and K application increased pod dry matter at fourth and sixth week. The third experiment was designed to study the effect of N , P and K on soil ies, nutrient concentration in leaf of okra.The experiment was in mplete blocks with three replications which was conducted in native soil (Sansai .Treatments consisted of four levels of N ( 4 ,8,12 and 16 kgN/rai), three level P.Os (8 ,12 and 16 KgP,Osrai) and three level of K ( 4,8 and 12 kgK,Olrai/time), 36 combination treatments. Also same second experiment, application of N decreased soil pH and increased electrical conductivity . P,K application increased available P, K in soil. Application N increased N,P,Mg and Zn concentration in leaf but no effect K,Ca,Fe and Mn We found application of K tended to decrease Mg concentration leaf and interaction between N,P and K may effect to nutrient uptake especially secondary nutrient and micronutrient and also plant growth and yield.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: การจัดการน้ำในดิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการธาตุอาหารและน้ำในการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2544
โครงการศึกษาเทคโนโลยีการผลิตกระเจี๊ยบเขียว การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตกระเจี๊ยบเขียว อาหารบำรุงสมอง การประเมินสถานภาพของธาตุอาหารเพื่อการจัดการปุ๋ยสำหรับปาล์มน้ำมัน ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหน่อไม้ฝรั่งและกระเจี๊ยบเขียว การผลิตและการแปรรูปไหมอีรี่เป็นอาหารเพื่อจำหน่าย อนาคตของอาหารโลกอยู่ในมือของคุณ การจัดการโรงเรือนเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพผัก การทดสอบเสถียรภาพของผลผลิตถั่วเขียวอินทรีย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก