สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินจากการจัดการดินกลุ่มชุดดินที่ 10,11 และ 14 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จินดาภรณ์ เพ็ชรศิริ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินจากการจัดการดินกลุ่มชุดดินที่ 10,11 และ 14 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ชื่อเรื่อง (EN): Study on changes of soil properties form soil management Soil series 10, 11 and 14 by biotechnology product of Land Development Department for organic rice in Nakhon Si Thammarat Province of Pakpanung watershed
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จินดาภรณ์ เพ็ชรศิริ
บทคัดย่อ: ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินจากการจัดการดินกลุ่มชุดดินที่ 10, 11 และ 14 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปาก พนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินการในปี 2552-2554 วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design จำนวน 5 ตำรับการทดลอง 3 ซ้ำ ประกอบด้วย ตำรับการทดลองที่ 1 แบบ เกษตรกร (ปุ๋ยเคมี) ตำรับการทดลองที่ 2 พืชปุ้ยสด + น้ำหมักชีวภาพ(ซุปเปอร์พด.2) + สารป้องกัน แมลงสัตรูพืช(พด. 7) + ปูนตามค่าความต้องการปูน ตำรับการทดลองที่ 3 พืชปุ้ยสด + น้ำหมักชีวภาพ (ซุปเปอร์พด.2) + สารป้องกันแมลงสัตรูพืช(พด. 7) + หินฟอสเฟต 300 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลอง ที่ 4 พืชปุ๋ยสด + น้ำหมักชีวภาพ(ซุปเปอร์ พด.2)+ สารป้องกันแมลงศัตรูพืช(พด.7) + ปุ้ยหมัก(พด.9) อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 5 พืชปุยสด + น้ำหมักชีวภาพ(ซุปเปอร์ พด.2) + สาร ป้องกันแมลงศัตรูพืช(พด. 7) + 2 ค่ความต้องการปูน + หินฟอสเฟต 150 กิโลกรัมต่อไร่ + ปุ้ยหมัก (พด.9) อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการศึกษาพบว่า ตำรับการทดลองที่มีการใส่ปูน ปฏิกิริยาดิน และปริมาณแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้มี แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากดินเดิมมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่งกับการไมใส่ปูน การใส่หิน ฟอสเฟตร่วมกับปุยหมัก (พด.9) มีผลทำให้ปริมาณฟอสฟอรัสในดินมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มากกว่า ตำรับ การทดลองที่ใช้หินฟอสเฟตหรือปุยหมัก (พด.9) เพียงอย่างเดียว ปริมาณอินทรีวัตถุมีแนวโน้มเพิ่ม สูงขึ้นในวิธีการที่มีการปลูกพืชปุยสด การจัดการดินทุกตำรับการทดลอง ความหนาแน่นรวมของดิน มี แนวโน้มลดลง ตำรับการทดลองที่ 1 แบบเกษตรกร (ปุ๋ยเคมี 46-0-0 อัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ และ 16- 20-0 อัตรา 16 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ผลผลิตน้ำหนักเมล็ดสดรวมเฉลี่ยมีค่าสูงสุด ในทุกกลุ่มชุดดิน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: พด.9
คำสำคัญ (EN): LDD.9
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินจากการจัดการดินกลุ่มชุดดินที่ 10,11 และ 14 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2554
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การจัดการดินที่เหมาะสมสำหรับปลูกอ้อยแต่ละพันธุ์ตามกลุ่มชุดดิน การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ในชุดดินโคราช (กลุ่มชุดดินที่ 35) การเปรียบเทียบสมบัติของดินระหว่างการปลูกข้าวอินทรีย์ การปลูกข้าวลดการใช้ปุ๋ยเคมี และการปลูกข้าวแบบใช้ปุ๋ยเคมี การจัดการดินด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าว อินทรีย์ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช การเปลี่ยนแปลงของดินจากการจัดการดินต่อผลผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังที่ผ่านการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ การจัดการดินกลุ่มชุดที่ 11 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช การจัดการดินกลุ่มชุดที่ 14 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง การศึกษาแนวทางการพัฒนาการผลิตข้าวอินทรีย์ในอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก