สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับที่ได้รับบาดเจ็บ
Warisa Charoenvej - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับที่ได้รับบาดเจ็บ
ชื่อเรื่อง (EN): The study of hepatic glycogen staining in the traumatic livers
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Warisa Charoenvej
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มุ่งศึกษา เปรียบเทียบการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับที่ได้รับบาดเจ็บ โดยทำการศึกษาจากตัวอย่างตับ 24 ตัวอย่างโดยตัดเป็นชิ้นเล็กๆ จำนวน 6 ชิ้น ดังนี้ ชิ้นที่1 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ห่างไปจากบริเวณที่มีการบาดเจ็บ ชิ้นที่2 ชิ้นเนื้อตับที่มีการบาดเจ็บฉีกขาด ชิ้นที่3 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ติดกับชิ้นเนื้อตับที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านซ้าย เป็นระยะทาง 2 และ3เซนติเมตร ชิ้นที่4 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ห่างจากบริเวณที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านซ้ายเป็นระยะทาง 4 และ 5 เซนติเมตร ชิ้นที่5 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ติดกับชิ้นเนื้อตับที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านขวา เป็นระยะทาง 2 และ 3 เซนติเมตร และชิ้นที่6 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ห่างจากบริเวณที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านขวาเป็นระยะทาง 4 และ 5 เซนติเมตร จากนั้นนำไปย้อมดูการติดสีของไกลโคเจนโดยใช้วิธี PAS จากการศึกษาพบว่าชิ้นเนื้อตับบริเวณขอบที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดนั้นจะย้อมไกลโคเจนไม่ติดสี และติดสีลดลงเมื่อเทียบกับบริเวณที่ห่างออกไปจากบริเวณขอบของตับที่ฉีกขาด โดยที่ชิ้นเนื้อตับทั้ง 6 ชิ้นมีการติดสีไกลโคเจนเฉลี่ยร้อยละ 51.42, 33.40, 44.11, 49.36, 44.87 และ 50.97 ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับแต่ละชิ้น พบว่า ชิ้นที่2 ชิ้นที่3 และชิ้นที่5 เมื่อเปรียบเทียบกับชิ้นที่1 มีร้อยละของการย้อมติดสีไกลโคเจนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p<0.001, p<0.01และ p< 0.05 ตามลำดับ ส่วน ชิ้นที่3 ชิ้นที่4 ชิ้นที่5 และชิ้นที่6 เมื่อเปรียบเทียบกับชิ้นที่2 พบว่ามีร้อยละของการย้อมติดสีแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p<0.001 ทั้งนี้จากข้อมูลการศึกษานี้อาจนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อที่นำไปใช้ศึกษาเปรียบเทียบกับตับที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือฉีกขาดหลังจากที่เสียชีวิตว่ามีการย้อมติดสีของไกลโคเจนแตกต่างกันหรือไม่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางนิติเวชว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นที่ตับนั้นเป็นบาดแผลที่เกิดก่อนหรือหลังการเสียชีวิต
บทคัดย่อ (EN): m., H&E and PAS staining was performed and evaluated for the intensity of glycogen in each section. The result yielded no glycogen staining along the laceration edges and intensity of staining increasing in areas far from laceration edges. The mean percentage of glycogen staining of first to sixth pieces were 51.42, 33.40, 44.11, 49.36, 44.87 and 50.97, respectively. There was statistically significant difference between second, third, and fifth pieces compared to first piece at p< 0.001, p<0.01, and p<0.05, respectively. A statistically significant difference between third, fourth, fifth and sixth pieces compared to the second piece was p<0.001. This result reflects glycogen metabolic response to trauma of the liver. Further study to compare between the antemortem and postmortem traumatic liver glycogen staining may be of some use in forensic cases.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3317&obj_id=5002
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): anatomy & histology
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การวิจัยนี้มุ่งศึกษา เปรียบเทียบการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับที่ได้รับบาดเจ็บ โดยทำการศึกษาจากตัวอย่างตับ 24 ตัวอย่างโดยตัดเป็นชิ้นเล็กๆ จำนวน 6 ชิ้น ดังนี้ ชิ้นที่1 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ห่างไปจากบริเวณที่มีการบาดเจ็บ ชิ้นที่2 ชิ้นเนื้อตับที่มีการบาดเจ็บฉีกขาด ชิ้นที่3 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ติดกับชิ้นเนื้อตับที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านซ้าย เป็นระยะทาง 2 และ3เซนติเมตร ชิ้นที่4 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ห่างจากบริเวณที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านซ้ายเป็นระยะทาง 4 และ 5 เซนติเมตร ชิ้นที่5 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ติดกับชิ้นเนื้อตับที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านขวา เป็นระยะทาง 2 และ 3 เซนติเมตร และชิ้นที่6 ชิ้นเนื้อตับที่อยู่ห่างจากบริเวณที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดไปทางด้านขวาเป็นระยะทาง 4 และ 5 เซนติเมตร จากนั้นนำไปย้อมดูการติดสีของไกลโคเจนโดยใช้วิธี PAS จากการศึกษาพบว่าชิ้นเนื้อตับบริเวณขอบที่มีการบาดเจ็บฉีกขาดนั้นจะย้อมไกลโคเจนไม่ติดสี และติดสีลดลงเมื่อเทียบกับบริเวณที่ห่างออกไปจากบริเวณขอบของตับที่ฉีกขาด โดยที่ชิ้นเนื้อตับทั้ง 6 ชิ้นมีการติดสีไกลโคเจนเฉลี่ยร้อยละ 51.42, 33.40, 44.11, 49.36, 44.87 และ 50.97 ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับแต่ละชิ้น พบว่า ชิ้นที่2 ชิ้นที่3 และชิ้นที่5 เมื่อเปรียบเทียบกับชิ้นที่1 มีร้อยละของการย้อมติดสีไกลโคเจนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการย้อมติดสีไกลโคเจนในตับที่ได้รับบาดเจ็บ
Warisa Charoenvej
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การดูดซับสีย้อมรีแอคทีฟ และสีย้อมเบสิคโดยกากตะกอนของเสีย การสกัดสีจากกะหล่ำปลีสีแดงเพื่อใช้เป็นสีย้อมสไลด์ การดูดซับสีย้อมเบสิกและสีย้อมรีแอคทีฟโดยใช้เคโอลินเคลือบด้วยไคโตซาน การย้อมเซลล์ประสาทด้วยสีจากธรรมชาติ การบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมผลิตสีย้อมและการย่อยสลายสีย้อมกลุ่มอะโซบางชนิดโดยจุลินทรีย์ผสม การพัฒนาและปรับปรุงวัสดุดูดซับราคาถูกเพื่อใช้ในการดูดซับสีย้อมรีแอคทีฟ และสีย้อมเบสิก การกำจัดสีย้อมประเภทสีดิสเพอร์สจากน้ำเสียจากการฟอกย้อมสิ่งทอด้วยระบบถ่านกัมมันต์ชนิดเกล็ด-เอสบีอาร์ การศึกษาความคงทนของสีของผ้าไหมที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติ การบำบัดสีในน้ำสีรีแอกทีฟจากโรงงานฟอกย้อมโดยกระบวนการไฟฟ้าเคมี การผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีต่อไกลโคคอนจูเกตและการประยุกต์ใช้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก