สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาการคงสภาพและการเพิ่มมูลค่ารำข้าวสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและโรงสีขนาดเล็ก
ขนิษฐา รุตรัตนมงคล - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาการคงสภาพและการเพิ่มมูลค่ารำข้าวสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและโรงสีขนาดเล็ก
ชื่อเรื่อง (EN): Development of rice bran stabilization and value addition of rice bran for community enterprise and small scale rice milling plant
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ขนิษฐา รุตรัตนมงคล
บทคัดย่อ: แผนงานวิจัย: การพัฒนากระบวนการคงสภาพและการเพิ่มมูลค่ารำข้าวสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและโรงสีขนาดเล็ก รำข้าวเป็นผลิตผลพลอยได้จากกระบวนการสีข้าวและประกอบด้วยน้ำมันสูงถึงร้อยละ 12 ถึง 23 ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการใช้ประโยชน์จากรำข้าวในการนำไปสกัดน้ำมันเพื่อผลิตน้ำมันรำข้าวในระดับวิสาหกิจชุมชนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคุณสมบัติด้านโภชนาการและผลต่อสุขภาพของน้ำมันรำข้าวที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ดี อี และเค โดยเฉพาะวิตามินอีซึ่งมีมากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม น้ำมันรำข้าวยังประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินอีกลุ่มโทโคฟีรอลประมาณร้อยละ 19-40 และกลุ่มโทโคไตรอีนอลร้อยละ 51-81 และประกอบด้วยแกมมา-โอรีซานอล (?-oyzanol) โดยการสกัดน้ำมันจากรำข้าวในระดับชุมชนมักใช้วิธีทางกลโดยการใช้เครื่องบีบอัดและไม่อาศัยความร้อนเพื่อให้ได้น้ำมันดิบ (crude oil) ที่เรียกว่าน้ำมันบีบเย็น (cold pressed oil) ซึ่งการสกัดน้ำมันโดยวิธีการบีบเย็นนี้มีข้อดีคือ การลงทุนต่ำเนื่องจากเครื่องสกัดมีราคาไม่แพงมากนัก และได้น้ำมันที่มีคุณค่าและสารสำคัญมากกว่าวิธีที่สกัดโดยใช้ความร้อนและตัวทำละลายอินทรีย์ อย่างไรก็ตามพบว่าปัญหาหลักของการผลิตน้ำมันรำข้าวบีบเย็นในระดับวิสาหกิจชุมชน ได้แก่คุณภาพของรำข้าวที่ใช้สกัดน้ำมันซึ่งส่งผลต่อคุณภาพน้ำมันรำข้าวโดยตรง เนื่องจากภายหลังกระบวนการขัดสี คุณภาพของรำข้าวจะลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากในรำข้าวประกอบด้วยเอนไซม์หลายชนิด โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นจมูกข้าว (Germ) และชั้นนอกของ Caryopsis ซึ่งเอนไซม์ไลเพส (Lipase) เป็นเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดในการทำให้รำข้าวเสื่อมเสียคุณภาพเนื่องจากปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของน้ำมันในรำข้าว ส่งผลทำให้เกิดกรดไขมันอิสระ (Free fatty acid, FFA) และทำให้ค่าความเป็นกรด (acid value) ของน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งค่า FFA ที่เหมาะสมสำหรับการสกัดน้ำมันควรมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 5 ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการยับยั้งหรือทำลายเอนไซม์ดังกล่าวในรำข้าวให้เร็วที่สุดภายหลังกระบวนการขัดสี วัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยนี้คือการพัฒนากระบวนการคงสภาพรำข้าวหลังกระบวนการสีข้าวเพื่อให้ได้รำข้าวคงสภาพ (stabilized rice bran) ที่มีอายุการเก็บนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับรำข้าวสด รำข้าวที่ได้จะมีความคงตัวทั้งทางจุลินทรีย์และทางเคมี โดยเฉพาะค่า FFA ที่ควรมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 5 ระหว่างกระบวนการเก็บรักษาหรือก่อนเข้าสู่กระบวนการสกัดน้ำมัน การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นการศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการคงสภาพรำข้าวด้วยการให้ความร้อนด้วยอินฟราเรด (Infrared heating) ขนาดการผลิตระดับ Pilot scale กำลังการผลิตอย่างน้อย 100 กิโลกรัมรำข้าวต่อวัน เครื่องคงสภาพรำข้าวต้นแบบที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถผลิตรำข้าวคงสภาพได้ในปริมาณ 50 กิโลกรัมต่อชั่วโมงแบบต่อเนื่องและประกอบด้วยสายพานลำเลี่ยงวัตถุดิบเข้าแบบต่อเนื่อง เมื่อผ่านกระบวนการให้ความร้อนด้วยระบบอินฟราเรดแล้วจะถูกลำเลียงผ่านท่อเข้าสู่ถังไซโคลนและมีลมหมุนเวียนเพื่อทำให้รำข้าวเย็นตัวลง และลำเลียงสู่ถังเก็บขนาด 1500 ลิตร และมีการออกแบบตู้ควบคุมความชื้นรำข้าวเพื่อให้เหมาะสมต่อการนำไปสกัดน้ำมันต่อไป ผลลัพท์ของงานวิจัยนี้นำปสู่การพัฒนาเครื่องต้นแบบสำหรับผู้ประกอบการระดับวิสาหกิจชุมชนและโรงสีข้าวขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มมูลค่ารำข้าวสำหรับการนำไปสกัดน้ำมันโดยวิธีบีบเย็นที่มีประสิทธิภาพการสกัดและเพิ่มผลผลิตน้ำมัน และให้ได้น้ำมันรำข้าวที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานซึ่งเป็นปัญหาหลักของผู้ประกอบการ ณ ขณะนี้ โดยงานวิจัยในปีที่ 2 จะเป็นการศึกษาความคงตัวของรำข้าวขณะเก็บรักษาและคุณภาพของน้ำมันรำข้าวที่ได้จากกระบวนการคงสภาพและสกัดด้วยวิธีการใช้สกรูบีบอัด
บทคัดย่อ (EN): Rice bran is a by-product from a rice milling process and it is high in oil content (12-23%). It has been utilized as an important ingredient for feedstock and has the potential to be used as a food ingredient due to its high value oil source. Rice bran oil is enriched with various beneficial compounds such as vitamin A, D, E (?1,000 mg/kg oil) and K and antioxidants as tocopherols (19-40%), tocotrienols (51-81%) and ?-oyzanol. At small scale-industry and community levels, rice bran oil is normally extracted using a screw press technique since it is low investment and maintenance. However, the major drawback of rice bran utilization is the drastic quality reduction after milling process due to the inherent enzyme activities including lipase and lipoxygenase. The presence of lipase, an enzyme that rapidly hydrolyzes oil to free fatty acids (FFA) and glycerol causes the rapid quality reduction in rice bran and extracted rice bran oil. The content of FFA in rice bran suitable for oil extraction should not exceed 5%. Therefore, it must be stabilized as quickly as possible after milling process to inhibit lipase activity as well as microbial growth. This project aimed at developing the new process for rice bran stabilization using continuous heat treatment process by means of infrared (IR) heating with the minimum production capacity of 100 kilograms per day (8 working hours). The rice bran stabilization machine prototype configured with continuous process was successfully developed with the maximum loading capacity of 50 kg rice bran/hr. After stabilization process, the stabilized rice bran was then conveyed through the pipeline to the cyclone unit while cooling process was performed and then transferred to the 1500 L storage tank. The moisture cabinet was also designed to optimize the moisture content of the stabilized bran for oil extraction unit. Infrared power and process time (through belt speed monitoring) were the main factors for process optimization. The results indicated that our stabilization process and machine prototype using IR as the heat source successfully reduced the FFA of rice bran to less than 5 % FFA which was suitable for oil extraction. The production capacity of the machine was suitable for the small and medium scale entrepreneurs as well as the community enterprises. It is expected that rice bran oil by cold-press method will meet the quality standard according to the Codex guideline and enhance the quality of rice bran oil during long term storage. The second phase of this study will focus on the shelf-life and stability of stabilized rice bran and rice bran oil extracted by screw press method.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยนเรศวร
คำสำคัญ: โรงสีขนาดเล็ก
คำสำคัญ (EN): small rice milling plant
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาการคงสภาพและการเพิ่มมูลค่ารำข้าวสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและโรงสีขนาดเล็ก
มหาวิทยาลัยนเรศวร
30 กันยายน 2561
การพัฒนาการคงสภาพและการเพิ่มมูลค่ารำข้าวสำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและโรงสีขนาดเล็ก การมีส่วนร่วมของสมาชิกในการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชน : กรณีโรงสีชุมชนครบวงจรตำบลไก่คำ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ การประยุกต์พระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงกับวิสาหกิจชุมชน : กรณีศึกษา กลุ่มตีเหล็กบ้านร่องฟอง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ แนวทางพัฒนาวิสาหกิจชุมชนบ้านหนองยางไคล ตำบลทาทุ่งหลวง อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน การศึกษาแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาแอปพลิเคชันบัญชีบนโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาระบบบัญชีของวิสาหกิจชุมชนในเขตอำเภอบางเลน การดำเนินงานวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดชุมพร การจัดการความรู้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวฮางในจังหวัดสกลนคร การบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรในจังหวัดเชียงใหม่ การดำเนินงานของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสู่วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เขตที่ 1
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก