คลังข้อมูลการวิจัยการเกษตรไทย

ผู้แต่ง ผศ.น.สพ.ดร.ณัฐวุฒิ สถิตเมธี

เผยแพร่โดย

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เผยแพร่เมื่อ 28 พฤษภาคม 2559

หน่วยงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

งานวิจัยที่แนะนำ การพัฒนาวัคซีนต้นแบบเพื่อป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก ไซคอฟดี วัคซีน DNA ชนิดไร้เข็ม เพื่อป้องกันโควิด-19 การศึกษาเพื่อหาแอนติเจนเพื่อการพัฒนาวัคซีนป้องกันการติเชื้อ Campyrobactor jejuni ในไก่โดยการใช้เทคนิค immunoproteomics การพัฒนาวัคซีนแบบกินเพื่อป้องกันโรคพอร์ซายน์เดลต้าโคโรน่าไวรัสและโรคพีอีดีในสุกร การทดสอบเพื่อยืนยันการนำโปรตีนวัคซีน PmRab7 ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตัวแดงดวงขาว ในกุ้งในระดับอุตสาหกรรม การพัฒนาวัคซีนแบบกินเพื่อป้องกันโรคพอร์ซายน์เดลต้าโคโรน่าไวรัสและโรคพีอีดีในสุกร การทดสอบประสิทธิภาพของ multimeric VP28 รีคอมบิแนนท์โปรตีนสำหรับเป็นวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตัวแดงดวงขาวโดยการให้กิน การศึกษาเปรียบเทียบผลการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยชนิดโมโนวาเลนท์และชนิดไตรวาเลนท์ในสุกร ความสูญเสียที่น่าจะป้องกันได้ การพัฒนาวิธีตรวจสภาพติดเชื้อ วัคซีน และยาเพื่อป้องกันและรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับสัตว์ Fasciola gigantica

คัดลอก URL

ชื่อเรื่อง:	การพัฒนาวัคซีนต้นแบบเพื่อป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก
ชื่อเรื่อง (EN):	Development of intranasal Hemorrhagic septicemia vaccine prototype
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ:	ผศ.น.สพ.ดร.ณัฐวุฒิ สถิตเมธี
บทคัดย่อ:	สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การพัฒนาวัคซีนต้นแบบเพื่อป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก” แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาและผลิตต้นแบบผลิตภัณฑ์วัคซีนป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก ใน ระดับห้องปฏิบัติการและระดับสัตว์ทดลอง การศึกษาครั้งนี้ทำการผลิตโปรตีนลูกผสมของเชื้อ P. multocida ระหว่าง outer membrane lipoprotein E (PlpE) และ leukotoxin (LKT) เพื่อนำไปเป็นอิมมูโนเจนสำหรับตั้งตำรับวัคซีนป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก โดยใช้สารสื่อวัคซีน สำหรับการหยอดจมูกโดยเฉพาะ คือ CpG-ODN 2007 พบว่า แอนติบอดีของกระต่ายต่อโปรตีนลูกผสม PlpE และ LKT สามารถทำลายเชื้อก่อโรคด้วยวิถีคอมพลีเมนท์ ได้ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติในการลบล้างฤทธิ์ของท็อกซินที่เชื้อผลิตขึ้น รวมทั้งไม่มีความเป็นพิษต่อ เซลล์เพาะเลี้ยงอีกด้วย ทำการตั้งตำรับวัคซีนป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิด หยอดจมูกในหนู พบว่าหนูมีอัตราการรอดชีวิต ในการทดลองในโค ซึ่งโคทุกตัวจะได้รับการตรวจแอนติบอดีต่อโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย ด้วยวิธี indirect ELISA ก่อนและมีระดับแอนติบอดีต่ำ จากการตรวจแอนติบอดีต่อโปรตีนลูกผสม PlpE และ LKT ที่เป็นแอนติเจนที่ใช้ใน การผลิตวัคซีน พบว่าโคมีการผลิตแอนติบอดีต่อโปรตีนลูกผสม PlpE และ LKT ในระดับสูงขึ้นภายหลังที่ โคได้รับวัคซีน ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากผลงานวิจัย ได้ต้นแบบป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก ที่สามารถใช้ทดแทนวัคซีนแบบฉีดที่มีอยู่เดิม มีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้งานในทางคลินิกเพื่อลดอัตราการสูญเสียในอุตสาหกรรม และสัตว์ไม่เกิดอาการแพ้
บทคัดย่อ:	ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN):	th
เผยแพร่โดย:	มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ:	หยอดจมูก
คำสำคัญ (EN):	vaccine
เจ้าของลิขสิทธิ์:	สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
ข้อมูลทรัพยสินทางปัญญา
ประเภทIP	สิทธิบัตรการประดิษฐ์
รายชื่อสิ่งประดิษฐ์	การพัฒนาวัคซีนต้นแบบเพื่อป้องกันโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียชนิดหยอดจมูก
เลขที่คำขอ	1801002783
วันที่ยื่นคำขอ	2018-05-11 12:00:00
เลขที่ประกาศ
วันที่จดทะเบียน
เลขที่จดทะเบียน
วันที่ประกาศ	2020-04-27 12:00:00
สถานะปัจจุบัน	เชิงพาณิชย์