สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการปรับปรุงดินเค็มที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยวิธีการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดิน
ชาคริต มัลละพุทธิรินทร์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการปรับปรุงดินเค็มที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยวิธีการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดิน
ชื่อเรื่อง (EN): Study on reclamation of saline soil in Kasetsart University Kamphaengsaen Campus by leaching with water
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ชาคริต มัลละพุทธิรินทร์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Chacrit Mullabhuttirin
บทคัดย่อ: การศึกษาปรับปรุงดินเค็ม โดยการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดิน ที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นการศึกษาเบื้องต้นในการนำไปประยุกต์หรือปรับปรุงปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ที่เกิดปัญหาดินเค็ม การศึกษานี้เป็นการให้ปริมาณความลึกของน้ำต่างๆ กัน และแบบวิธีการให้น้ำที่ต่างวิธีกันและเปรียบเทียบว่า แต่ละชั้นดินมีการชะล้างความเค็มออกจากดินตัวอย่างแตกต่างกันอย่างไรแบ่งวิธีการให้น้ำเป็น 3 แบบ คือ 1. แบบท่วมขังตลอดเวลา 2. แบบท่วมขังเว้นช่วงเวลา 7 วันครั้ง 3. แบบให้น้ำน้อยกว่าอัตราการซึมของน้ำผ่านดิน โดยมีปริมาณน้ำที่ใช้ชะล้างดิน 8 ค่า คือ 25, 50, 75, 100, 125, 150, 175 และ 200 เซนติเมตร ตามลำดับ โดยทำการชะล้างผ่านแท่งดินตัวอย่างลึก 1.00 ม. ทำการวัดหาค่า ECe, pH, Na+, Mg++, Ca++, HCO-3, Cl-, SO--4 และ SAR ที่มีอยูในดิน ที่ระดับความลึกดิน 0-20, 20-40, 40-60, 60-80 และ 80-100 เซนติเมตร ตามลำดับ โดยพิจารณาที่ค่า ECe เป็นหลักผลการศึกษาการใช้ปริมาณน้ำชะล้างเท่าๆ กัน ของแต่ละวิธีการให้น้ำพบว่า วิธีการให้น้ำน้อยกว่าอัตราการซึมของน้ำผ่านดิน สามารถชะล้างดินได้ดีกว่า วิธีการให้น้ำแบบท่วมขังเว้นช่วงเวลา และวิธีการให้น้ำแบบท่วมขังตลอดเวลาผลการศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณความลึกของน้ำที่ใช้ชะล้าง และปริมาณเกลือที่ถูกชะล้างออกไป ตามความลึกของชั้นดิน พบว่ามีความสัมพันธ์กันและยอมรับในทางสถิติ คือ เมื่อให้ปริมาณน้ำมากก็สามารถชะล้างเกลือ ที่สะสมอยู่ในแต่ละชั้นดินออกมาได้มาก โดยปริมาณเกลือที่ถูกชะล้างออกไปจากชั้นดินด้านบนจะถูกชะล้างออกไปได้มากกว่าชั้นดินด้านล่างThe purpse of the Study on the Reclamation of Saline Soil in Kasesart University Kamphaengsaen Campus by Leaching with Water is to determine the amount of water used for reclamation of the saline soil which can be applied to the field of problems area.The experiment used 3 methods of water application for leaching
บทคัดย่อ (EN): 25, 50, 75, 100, 125, 150, 175 and 200 cm. respectively by leaching the saline soil sample 1.00 m. in depth. Chemical properties, ie Ece, pH, Na+, Mg++, Ca++, HCO3, Cl-, SO--4 and SAR were analized in the soil depth of 0-20, 20-40, 40-60, 60-80 and 80-100 cm. considering Ece as the main indicator.The result of the study on the amount of optimum water at equal amount of water shown that the Infiltrability was the best method of water application.The result of the study on the relationship between the amount of leaching water and the amount of salt leached in each depth of soil was related and acceptable in statistical significant with the ratio of initial electrical conductivity (Ecei) and final electrical conductivity (ECef), the amount of salt leached decreases as the soil depth increases.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.lib.ku.ac.th/KUthesis/ChacritMul/index.html
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: การปรับปรุง
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รายละเอียด: 25, 50, 75, 100, 125, 150, 175 and 200 cm. respectively by leaching the saline soil sample 1.00 m. in depth. Chemical properties, ie Ece, pH, Na+, Mg++, Ca++, HCO3, Cl-, SO--4 and SAR were analized in the soil depth of 0-20, 20-40, 40-60, 60-80 and 80-100 cm. considering Ece as the main indicator.The result of the study on the amount of optimum water at equal amount of water shown that the Infiltrability was the best method of water application.The result of the study on the relationship between the amount of leaching water and the amount of salt leached in each depth of soil was related and acceptable in statistical significant with the ratio of initial electrical conductivity (Ecei) and final electrical conductivity (ECef), the amount of salt leached decreases as the soil depth increases.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ชาคริต มัลละพุทธิรินทร์. "การศึกษาการปรับปรุงดินเค็มที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยวิธีการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดินStudy on reclamation of saline soil in Kasetsart University Kamphaengsaen Campus by leaching with water". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2544

ชาคริต มัลละพุทธิรินทร์. "การศึกษาการปรับปรุงดินเค็มที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยวิธีการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดินStudy on reclamation of saline soil in Kasetsart University Kamphaengsaen Campus by leaching with water". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2544. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาการปรับปรุงดินเค็มที่พบในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยวิธีการใช้น้ำชะล้างเกลือออกจากดิน
ชาคริต มัลละพุทธิรินทร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2544
การใช้เกลือแกงเพื่อลดความเข้มข้นของฟอร์มาลินในการรักษาซากสุนัข การวิเคราะห์การจัดสรรน้ำและการจัดการน้ำในลุ่มน้ำแม่วาง การจัดการน้ำของโครงการห้วยองคต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ การปรับปรุงคุณภาพดินเพื่อใช้ในงานฐานรากตื้นด้วยวิธีดินผสมซีเมนต์ การใช้วัสดุปรับปรุงดินของเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตข้าวในเขตพื้นที่ดินเปรี้ยว ศักยภาพการสร้างกรดและการชะละลายโลหะจากดินและถ่านหินของเหมืองแร่ลิกไนต์ การใช้วิธีการระบุความพอใจภายใต้สถานการณ์สมมติในการปรับปรุงประสิทธิภาพของสายการเดินเรือ การประยุกต์ใช้เทคนิค FMEA ในการปรับปรุงกระบวนการออกแบบและพัฒนาแม่พิมพ์ขึ้นรูปแก้วที่ใช้บนโต๊ะอาหาร การเปลี่ยนแปลงของแมงกานีส และเหล็กในดิน จากระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองเพชรบุรี โดยการซึมผ่านแปลงหญ้าต่างชนิด ศึกษาและออกแบบระบบบำบัดฟลูออไรด์ในน้ำใต้ดินแบบทีละเท โดยวิธีการดูดซับด้วยดินเบนโทไนต์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair