สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับน้ำหมักชีวภาพในการปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์หอมมะลิ 105) ในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุญนาคพื้นที่นอกเขตชลประทาน จังหวัดนครราชสีมา
ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับน้ำหมักชีวภาพในการปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์หอมมะลิ 105) ในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุญนาคพื้นที่นอกเขตชลประทาน จังหวัดนครราชสีมา
ชื่อเรื่อง (EN): Study of High Quality Organic Fertilizer and bio-extract in Great group on Organic Rice Field (jasmin rice 105 cultivar) in Irrigation area , soil group No.18 series ,Nakhonratchasima province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย:
  1. โสฬส แซ่ลิ้ม
  2. สิรินภา ชินอ่อน
คำสำคัญ:
  1. น้ำหมักชีวภาพ
  2. ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
  3. ข้าวอินทรีย์
  4. พันธุ์ชัยนาท
  5. พันธุ์หอมมะลิ
  6. การไถกลบตอซังข้าว
  7. จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ (EN):
  1. High Quality Organic Fertilizer
  2. bio-extract
  3. Organic Rice Field
  4. jasmin rice 105 cultivar)
  5. Irrigation area
  6. soil group No.18 series
  7. Nakhonratchasima province
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับน้ำหมักชีวภาพในการปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์ขาวดอก มะลิ 105) ในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุนนาก พื้นที่นอกเขตชลประทาน จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการในพื้นที่เกษตรกรในตำบลหนองระเวียง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2554 - 2556 พิกัต 48 P 0201070 E / 1650303 N มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกวิธีการจัดการที่เหมาะสมด้านการ ใช้ปุยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อสร้างรูปแบบการปลูกข้าวอินทรีย์ในการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิตข้าวและเพิ่ม ความอุดมสมบูรณ์ในดิน ตลอดจนศึกษาผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 3 ซ้ำ จำนวน 7 ตำรับ ประกอบด้วย ตำรับที่ 1 แปลงควบคุม ตำรับที่ 2 ปุ้ยเคมีตาม ค่าวิเคราะห์ดิน ตำรับที่ 3 ปุ้ย 46 - 0 - 0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ และปุ้ยเคมี่สูตร 16 - 8 - 8 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับที่ 4 ปุ้ยอินทรีย์คุณภาพสูงตามผลการวิเคราะห์ดิน และน้ำหมักชีวภาพ ตำรับที่ 5 ปุ้ย อินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ และน้ำหมักชีวภาพ ตำรับที่ 6 ปุ้ยอินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 75 กิโลกรัมต่อไร่ และน้ำหมักชีวภาพ และตำรับที่ 7 ปุ๊ยอินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และน้ำ หมักชีวภาพ ซึ่งมีผลการทดลอง ดังนี้ จากการวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีของปริมาณธาตุอาหารก่อนทำการทตสอบ ซึ่งปุ๊ยอินทรีย์ คุณภาพสูง สูตร 3 กรมพัฒนาที่ดิน มีปริมาณความเป็นกรดเป็นด่างเท่ากับ 7.50 มีอินทรียวัตถุ เท่ากับ 22.80 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ เท่ากับ 1.54 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ปริมาณ โพแทสเขียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 1.28 มิสลิกรัมต่อกิโลกรัม ปริมาณแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 24.65 มิลสิกรัมต่อกิโลกรัม และมีปริมาณแมกนีเชียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 0.77 มิลลิกรัมต่อก็โลกรัม และจากการวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีดินก่อนการทดลองพบว่า ความเป็นกรดในดิน มีค่าเท่ากับ 5.20 และดินมีอินทรียวัตถุอยู่ในระดับสูง เท่ากับ 3.05 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 30.00 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัมซึ่มีอยู่นดินในปริมาณมาก โพแทสเชียม แคลเซียม และแมกนีเชียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 180.00 1780.00 และ 650.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมมีอยู่ในดินในระดับที่สูงมาก หลังจากการทดลองได้มีการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดินของทั้ง 2 ฤดูปลูก พบว่า การวิเคราะห์ สมบัติทางเคมีบางประการในดินหลังจากการจัดการดินวิธีการต่างๆด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับ น้ำหมักชีวภาพ และจากการใช้ปุยเคมีเพียงอย่างเดียวในการปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 พบว่า คุณสมบัติ ทางเคมีดินไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญของทั้งสองฤดูปลูกซึ่งจากการทดลองพบว่า ดินมี ค่าความเป็นกรดมากขึ้นจาก 5.2 โดยในปีที่ 1 อยู่ระหว่าง 5.10 - 5.30 และในปีที่ 2 อยู่ระหว่าง 5.40 - 5.50 มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินลดลงจาก 3.05 เป็น 2.10 - 2.59 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น ประโยชน์ ทั้ง 2 ปี ในการทดลอง ลดลงจาก 30.00 เป็น 3.00 - 5.33 มิลสิกรัมต่อกิโลกรัม และปริมาณ โพแทสเชียมที่แลกเปลี่ยนได้ ของทั้ง 2 ปี ลดลงจาก 180.00 มิลลิกรัมต่อก็โลกรัม เป็น 74.67 - 150.00 มิลสิกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่ 1 ซึ่งมีปริมาณเท่ากับ 1780.00 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และเพิ่มขึ้นเป็น 1661.33 - 1855.33 มิลลิกรัมต่อก็โลกรัม และเพิ่มขึ้นใน ปีที่ 2 เท่ากับ 2260.70 - 2509.30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และปริมาณแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ในปีที่ 1 มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยอยู่ระหว่าง 647.70 - 757.70 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และปีที่ 2 ลดลง ระหว่าง 402.67 - 450.00 มิลสึกรัมต่อกี้โลกรัม จากการจัดการดินในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวขาวดอกมะลิ 105 จากการ ทดลองพบว่า การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวขาวดอกมะลิ 105 จากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ร่วมกับน้ำหมักชีวภาพที่อัตราต่าง ๆ ให้ผลผลิตเฉลี่ยของข้าว เท่ากับ 638.85 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนการใช้ ปุยเคมีให้ผลผลิตเฉลี่ยของข้าว เท่ากับ 668.00 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงจะให้ผลผลิต ต่ำกว่าเล็กน้อยและการใช้ปุยอินทรีย์คุณภาพสูงอัตราต่างๆ มีต้นทุนสูงกว่าการใช้ปุยเคมี โดยคิดกำไรสุทธิ ระหว่างการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวและปุยอินทรีย์คุณภาพสูง แตกต่างกัน 868.32 บาท คิดเป็นร้อยละ 13.76 สำหรับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 100 กิโลกรัม ร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ ให้ผลผลิตมาก ที่สุดในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุญนาก ซึ่งมีผลผลิตโดยเฉลี่เท่ากับ 757.42 กิโลกรัมต่อไร่ และให้ ผลตอบแทนกำไรสุทธิมากที่สุด เท่ากับ 7867.30 บาท คิดเป็นสัดส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนเท่ากับ 2.25
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2553-10-01
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2556-09-30
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา. "ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับน้ำหมักชีวภาพในการปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์หอมมะลิ 105) ในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุญนาคพื้นที่นอกเขตชลประทาน จังหวัดนครราชสีมาStudy of High Quality Organic Fertilizer and bio-extract in Great group on Organic Rice Field (jasmin rice 105 cultivar) in Irrigation area , soil group No.18 series ,Nakhonratchasima province". กรมพัฒนาที่ดิน. 2556

ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา. "ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับน้ำหมักชีวภาพในการปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์หอมมะลิ 105) ในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุญนาคพื้นที่นอกเขตชลประทาน จังหวัดนครราชสีมาStudy of High Quality Organic Fertilizer and bio-extract in Great group on Organic Rice Field (jasmin rice 105 cultivar) in Irrigation area , soil group No.18 series ,Nakhonratchasima province". กรมพัฒนาที่ดิน. 2556. Print.



TARR Wordcloud:
ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับน้ำหมักชีวภาพในการปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์หอมมะลิ 105) ในกลุ่มชุดดินที่ 18 ชุดดินหนองบุญนาคพื้นที่นอกเขตชลประทาน จังหวัดนครราชสีมา
ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2556
การศึกษาวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษวัสดุอินทรีย์ที่ได้จากการตัดแต่งกิ่งไม้ ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง ผลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของถั่วฝักยาวในกลุ่มชุดดินที่35 การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ในชุดดินโคราช (กลุ่มชุดดินที่ 35) การจัดการดินที่เหมาะสมด้วยพืชปุ๋ยสดโสนอัฟริกันร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวพันธุ์สังข์หยดในกลุ่มชุดดินที่ 6 ชุดดินพัทลุง ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีกับผลผลิตข้าวพันธุ์สังข์หยด ในกลุ่มชุดดินที่ 6 จ.พัทลุง ผลของชนิดน้ำหมักชีวภาพที่มีต่อผลผลิต และคุณภาพของชา ในกลุ่มชุดดินที่ 29 การใช้น้ำหมักชีวภาพและน้ำส้มควันไม้ในการเพิ่มคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยพืชสดและปุ๋ยเคมีต่อผลผลิตข้าวพันธุ์สังข์หยด ในกลุ่มชุดดินที่ 6 ชุดดินสตูล จ.สตูล

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair