สืบค้นงานวิจัย
ผลของอัตราความหนาแน่นต่อการติดเชื้อ Streptococcus iniae ในปลากะพงขาว, Lates calcarifer (Bloch)
จำเริญศรี ถาวรสุวรรณ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ผลของอัตราความหนาแน่นต่อการติดเชื้อ Streptococcus iniae ในปลากะพงขาว, Lates calcarifer (Bloch)
ชื่อเรื่อง (EN): The Effect of Stocking Densities on Streptococcus iniae Infection in Sea bass, Lates calcarifer (Bloch)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จำเริญศรี ถาวรสุวรรณ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jumroensri Thawonsuwan
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมประมง
บทคัดย่อ: ศึกษาผลของการเลี้ยงปลากะพงขาวในอัตราความหนาแน่นที่แตกต่างกันในระบบน้ำหมุนเวียนต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus iniaeโดยเลี้ยงปลาในอัตราความหนาแน่นต่ำ(Low; L) กลาง (Medium ; M) สูง (High; H) ที่7, 14 และ 21กรัมต่อลิตรตามลำดับ หลังเลี้ยง 15 วัน เก็บตัวอย่างน้ำเลือด (serum) ตรวจวัดปริมาณกลูโคสและไลไซไซม์ และตรวจสอบการรอดตายหลังการติดเชื้อโดยแบ่งปลาแต่ละอัตราความหนาแน่นเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่แช่เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus iniaeความเข้มข้น 105 CFU/mlนาน 30 นาที แล้วเลี้ยงต่อนาน 14วันและกลุ่มที่ไม่แช่เชื้อแบคทีเรียเป็นกลุ่มควบคุมผลการศึกษาพบว่าปริมาณกลูโคสในน้ำเลือดของปลาที่เลี้ยงในอัตราความหนาแน่นต่ำ มีค่าสูงสุด 69.9?22.2 ?g/dLสูงกว่าปลาที่เลี้ยงที่ความหนาแน่นสูง ที่มีค่ากลูโคส50.8?15.4 ?g/dLอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับปลาที่เลี้ยงที่ระดับความหนาแน่นปานกลางที่มีค่ากลูโคส61.1?15.8 ?g/dLปริมาณไลโซไซม์ในน้ำเลือดปลาที่เลี้ยงในอัตราหนาแน่นต่างกันก่อนการแช่เชื้อไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างไรก็ตามหลังการแช่เชื้อแบคทีเรียStreptococcus iniaeพบว่าปลาชุดที่เลี้ยงที่อัตราความหนาแน่นสูง และระดับกลางมีค่าสูงกว่าความหนาแน่นระดับต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) สำหรับอัตรารอดตายหลังแช่เชื้อ 14 วัน พบว่าปลาชุดที่เลี้ยงที่อัตราความหนาแน่นต่ำ มีอัตรารอดตาย 66.7 % สูงกว่าชุดที่เลี้ยงที่อัตราความหนาแน่นสูง มีอัตรารอดตาย 18.5 %และชุดที่เลี้ยงที่อัตราความหนาแน่นระดับกลางซึ่งมีอัตรารอดตาย 38.3 % แสดงให้เห็นว่าอัตราความหนาแน่นของการเลี้ยงปลาที่กะพงขาวที่ระดับต่ำทำให้การรอดตายของปลาหลังติดเชื้อเพิ่มขึ้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพิจารณาความหนาแน่นที่เหมาะสมของการเลี้ยงปลากะพงขาวในระบบน้ำหมุนเวียนต่อไป
บทคัดย่อ (EN): Effects of seabass culture at different stockingdensityof 7, 14 and 21 g/L defined as low (L), medium (M) and high (H), respectively,in recirculation system on Streptococcus iniae infection were studied. At 15 days post cultured, serum samples were separated from blood of fish for glucose and lysozyme measurements. In addition, fish from each density level were divided into two groups; one groupwas exposed to Streptococcus iniaeby immersionat 105 CFU/mlfor30 minand continued to be cultured for 14daysto investigate the survival rate, and anothergroup was not exposed to the bacteria serving as a control. The highest glucose levelfound in fish cultured at low density was69.9?22.2 ?g/dL which significantly higher than thoseraised at high density withthe glucose level of50.8?15.4 ?g/dL(p< 0.05), while there was no significant difference from fish grown at medium density with glucose level of61.1?15.8 ?g/dL. The lysozyme content in fish serum cultured at different density rates before exposed to pathogen was not different.However, post Streptococcus iniae immersion, the lysozyme level of fish cultured at high and medium densities were significantly higher than at low density (p<0.05). The accumulation survival rate of fish cultured at low density was 66.7% which is higher than fish cultured at high and medium densities showing the survival rate at 18.5% and 38.3% respectively.Fishculture at the low density showed increase in survival after infection compared to the medium and high density. The resultsfrom this study encourages that appropriate density in the culture of sea bass in a recirculation system should be considered.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: สเตรปโตคอคคัสอินิเอ
คำสำคัญ (EN): Streptococcus iniae
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

จำเริญศรี ถาวรสุวรรณ. "ผลของอัตราความหนาแน่นต่อการติดเชื้อ Streptococcus iniae ในปลากะพงขาว, Lates calcarifer (Bloch)The Effect of Stocking Densities on Streptococcus iniae Infection in Sea bass, Lates calcarifer (Bloch)". กรมประมง. 2554

จำเริญศรี ถาวรสุวรรณ. "ผลของอัตราความหนาแน่นต่อการติดเชื้อ Streptococcus iniae ในปลากะพงขาว, Lates calcarifer (Bloch)The Effect of Stocking Densities on Streptococcus iniae Infection in Sea bass, Lates calcarifer (Bloch)". กรมประมง. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของอัตราความหนาแน่นต่อการติดเชื้อ Streptococcus iniae ในปลากะพงขาว, Lates calcarifer (Bloch)
จำเริญศรี ถาวรสุวรรณ
กรมประมง
31 มีนาคม 2554
กรมประมง
ผลของความเค็มที่ลดลงต่อองค์ประกอบเลือดภูมิคุมกัน และการติดเชื้อ Streptococcus iniae ในปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) การยอมรับเชื้อ Streptococcus agalactiae ที่แยกจากปลากะพงขาว(Lates calcarifer Bloch,1790) ในปลาเศรษฐกิจบางชนิด การเลี้ยงลูกปลาช่อนด้วยอัตราความหนาแน่นต่างกัน การแทนที่ปลาป่นด้วยแพลงก์ตอนสัตว์ในอาหารปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) พิษเฉียบพลันของแอมโมเนียต่อลูกปลากะพงขาว ( Lates calcarifer ) ดุลไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของการเลี้ยงปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1970) ในบ่อดิน ผลของอัตราการใช้ยาและระดับความเค็มต่อระยะเวลาการตกค้างของออกซี่เตตร้าซัยคลีนในปลากะพงขาว(Lates calcarifer Bloch, 1790) การใช้โปรตีนเข้มข้นทดแทนปลาป่นในอาหารสำหรับปลากะพงขาว (Lates calcarifer) เปรียบเทียบรูปแบบการใส่ปุ๋ยในการอนุบาลลูกปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1790) ในบ่อดิน ผลของระยะเวลาและการเสริมเบต้ากลูแคน ( ß - Glucan) ที่ระดับต่างกันในปลากะพงขาว ( Lates calcarifer, Bloch 1790)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair