สืบค้นงานวิจัย
การบำบัดแคดเมียมในพืชตระกูลฝักที่คัดเลือกภายใต้การเลี้ยงโดยใช้สารละลายอาหาร
Daungrat Suekhum - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การบำบัดแคดเมียมในพืชตระกูลฝักที่คัดเลือกภายใต้การเลี้ยงโดยใช้สารละลายอาหาร
ชื่อเรื่อง (EN): Phytoremediation of cadmium by selected leguminous plants from hydroponic culture
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Daungrat Suekhum
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้ได้ศึกษาการบำบัดแคดเมียมโดยใช้พืชตระกูลฝัก 3 ชนิด (กระถินเทพา ประดู่กิ่งอ่อน และราชพฤกษ์) โดย ทำการทดลองหาการสะสมแคดเมียม อัตราการเติบโต ผลผลิตมวลชีวภาพ ค่าไบโอคอนเซนเทรชันแฟคเตอร์ (Bioconcentration factor) และอาการเกิดพิษในพืช ซึ่งพืชที่ใช้ในการวิจัยนี้เป็นกล้าไม้ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์ เพาะชำกล้าไม้เศรษฐกิจที่ 4 จ.ราชบุรี กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการเลี้ยงโดยใช้สารละลายอาหาร 10% Hoagland (สูตร ปรับปรุง) ที่เติมแคดเมียมความเข้มข้นต่าง ๆ ภายใต้การทดลองในห้องปฏิบัติการ ผลการศึกษาพบว่าในประดู่กิ่งอ่อน ที่ความเข้มข้นของแคดเมียม 8 มิลลิกรัมต่อลิตร มีการสะสมสูงสุด (522.91 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) อัตราการเติบโตและผลผลิตมวลชีวภาพของพืชทั้ง 3 ชนิด ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อความเข้มข้นของแคดเมียมเพิ่มขึ้น โดยพบว่าอัตราการเติบโตและผลผลิตมวลชีวภาพของประดู่กิ่งอ่อนสูงสุด รองลงมาคือกระถินเทพา และต่ำสุดในราชพฤกษ์ ค่าไบโอคอนเซนเทรชันแฟคเตอร์ (Bioconcentration factor) พบสูงสุดใน ประดู่กิ่งอ่อนที่ความเข้มข้นของแคดเมียม 8 มิลลิกรัมต่อลิตรและพบว่าพืชมีการสะสมของแคดเมียมในรากมากกว่าส่วนลำต้น จากผลการศึกษาพบว่าปริมาณการสะสมของแคดเมียมในส่วนต่าง ๆ ของพืชเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อ ระยะเวลาทดลองเพิ่มขึ้น โดยมีการสะสมสูงสุดในราก (470.00 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) รองลงมาคือลำต้น (121.47 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) และต่ำสุดในใบ (58.11 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) การสะสมแคดเมียมในใบพืชลดลงใน วันที่ 45 ซึ่งพบว่าใบพืชค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง น้ำตาล และร่วงในที่สุด ส่วนอัตราการเติบโตของพืชเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (P<0.05) เมื่อระยะเวลาทดลองเพิ่มขึ้นในวันที่ 0-45 แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่มควบคุม และลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ในวันที่ 60 ส่วนผลผลิตมวลชีวภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) เมื่อระยะเวลาทดลองเพิ่มขึ้น โดยเทียบ กับกลุ่มควบคุม และพบว่าค่าค่าไบโอคอนเซนเทรชันแฟคเตอร์ (Bioconcentration factor) ส่วนของใบ ลำต้นและราก เพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) เมื่อระยะเวลาทดลองเพิ่มขึ้น และลดลงในใบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ในวันที่ 60 ส่วนผลของความเป็นพิษของแคดเมียมต่อพืชทั้ง 3 ชนิด พบว่าพืชทั้ง 3 ชนิดเริ่มปรากฏอาการเมื่อเพิ่มความเข้มข้นแคดเมียม เป็น 4 และ 8 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยมีการเติบโตช้าลงเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ผลของความเป็นพิษของแคดเมียมต่อประดู่กิ่ง อ่อนเริ่มพบในวันที่ 45 โดยพืชมีอาการเติบโตช้าลงและเกิดอาการคลอโรซิส ผลการศึกษาเสนอแนะได้ว่า ประดู่กิ่งอ่อน มีความสามารถนำไปประยุกต์ใช้บำบัดแคดเมียมในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ได้รับ การปนเปื้อน อีกทั้งควรทำการศึกษากลไกทางชีวเคมีที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการดูดซับ สะสมโลหะหนัก และความ คงทนต่อสภาพแวดล้อมของพืชเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
บทคัดย่อ (EN): g/g dry wt). However, the cadmium accumulations significantly decreased (p<0.05) in leaves after 45 days of exposure. Color of plant leaves slightly changed to yellow, brown and subsequently fell off. The relative growth of tested plants was also significantly increased (p<0.05) after exposure times of 15, 30 and 45 days but remained lower than the control, whereas it was significantly decreased (p<0.05) on day 60. The biomass productivity of treated plants was significantly decreased (p<0.05) overtime as compared to the control. The BCF of cadmium in leaf, stem and root of P. indicus also significantly increased (p<0.05) as exposure time increased. However, the BCF significantly decreased (p<0.05) in leaves after 60 days of exposure time. The first sign of toxicity symptoms in the three leguminous plants was observed when exposed to 4 to 8 mg/L cadmium: slowness and stunted growth of plants appeared, as compared with the control. The toxic effects of cadmium accumulation in P. indicus were stunted growth and chlorosis and were noted after 45 days. The results suggest that P. indicus is capable for application as the phytoremediation in cadmium polluted sites. However, the biochemical processes involving heavy metal uptake, accumulation and resistance in plants still requires additional study for future use.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=376&obj_id=244
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Cadmium
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การวิจัยนี้ได้ศึกษาการบำบัดแคดเมียมโดยใช้พืชตระกูลฝัก 3 ชนิด (กระถินเทพา ประดู่กิ่งอ่อน และราชพฤกษ์) โดย ทำการทดลองหาการสะสมแคดเมียม อัตราการเติบโต ผลผลิตมวลชีวภาพ ค่าไบโอคอนเซนเทรชันแฟคเตอร์ (Bioconcentration factor) และอาการเกิดพิษในพืช ซึ่งพืชที่ใช้ในการวิจัยนี้เป็นกล้าไม้ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์ เพาะชำกล้าไม้เศรษฐกิจที่ 4 จ.ราชบุรี กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการเลี้ยงโดยใช้สารละลายอาหาร 10% Hoagland (สูตร ปรับปรุง) ที่เติมแคดเมียมความเข้มข้นต่าง ๆ ภายใต้การทดลองในห้องปฏิบัติการ ผลการศึกษาพบว่าในประดู่กิ่งอ่อน ที่ความเข้มข้นของแคดเมียม 8 มิลลิกรัมต่อลิตร มีการสะสมสูงสุด (522.91 ไมโครกรัมต่อกรัมน้ำหนักแห้ง) อัตราการเติบโตและผลผลิตมวลชีวภาพของพืชทั้ง 3 ชนิด ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การบำบัดแคดเมียมในพืชตระกูลฝักที่คัดเลือกภายใต้การเลี้ยงโดยใช้สารละลายอาหาร
Daungrat Suekhum
มหาวิทยาลัยมหิดล
24 กรกฎาคม 2552
การกำจัดแคดเมียมจากสารละลายโดยใช้ exopolymersที่ผลิตจากแบคที่เรียต้านทานแคดเมียม การบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ปนเปื้อนแคดเมียมโดยใช้พืช การศึกษาคุณสมบัติของแครอทปรุงสุกภายใต้สภาวะเหนือจุดเดือดเพื่อใช้สำหรับอาหารเหลว แผนการผลิตพืชที่เหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงในพื้นที่ที่มีอ้อยเป็นพืชหลัก อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ การสกัดใยอาหารจากส่วนเหลือทิ้งจากตะไคร้และการนำไปใช้ในอาหาร ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับมาตรการอนุรักษ์ดิน โดยใช้วัสดุอินทรีย์ในระบบพืชที่มีพืชน้ำมันเ การใช้โมโนโคลนอลแอนติบอดีคอมเพททิทีฟอิไลซาเพื่อวัดระดับโปรเจสเตอโรนในน้ำนมของโคนมที่เลี้ยงภายใต้ฤดูร้อนและหนาว ผลของวิธีการปรุงอาหารต่อปริมาณสารไฟโตสเตอรอล กรดไขมัน และปริมาณไขมันในพืชเมล็ดเปลือกแข็ง พืชเมล็ดและพืชตระกูลถั่ว การผลิตข้าวหักอบแห้งเสริมสารอาหารเพื่อใช้เป็นอาหารทารก การใช้สาหร่ายทะเลบำบัดคุณภาพน้ำในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก