สืบค้นงานวิจัย
การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมของต้นทุเรียน และการใช้ สารพาโคลบิวทราโซล เพื่อการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล
สมพร ณ นคร - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมของต้นทุเรียน และการใช้ สารพาโคลบิวทราโซล เพื่อการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล
ชื่อเรื่อง (EN): The Optimum of Fertilizer Use for Preparing the Vegetative Growth of Durian Tree and Paclobutrazol Application for Off-Season of Durian Production
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมพร ณ นคร
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย:
คำสำคัญ:
คำสำคัญ (EN):
บทคัดย่อ: การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมของต้นทุเรียน และการใช้สารพาโคลบิวทราโซลเพื่อการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล ได้ทำการทดลอง ดังนี้ การทดลองที่ 1 การทดลองการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมโดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15, สูตร 15-0-0 และใช้ปุ๋ยคอก(มูลวัวและมูลไก่) ทำการทดลองกับทุเรียนอายุ 10 ปี ณ แปลงปลูกทุเรียนของนายประพันธ์ แดงพรหม หมู่ที่ 9 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสวนทุเรียนที่ผ่านการบังคับให้ออกนอกฤดูมาแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาลต่อไป ดำเนินการทดลองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และสิ้นสุดการทดลองเดือนมิถุนายน 2557 วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) ทำการทดลอง 5 ซ้ำ (ใช้ต้นทุเรียนหนึ่งต้นเป็นจำนวนหนึ่งซ้ำ) รวมใช้ต้นทุเรียนสำหรับการทดลอง จำนวน 45 ต้น กำหนดให้มี 9 กรรมวิธี (Treatments) มีดังนี้ คือ กรรมวิธีที่ 1 ชุดควบคุม (ใช้ปุ๋ย อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น) กรรมวิธีที่ 2 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 4 กิโลกรัมต่อต้น กรรมวิธีที่ 3 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-0-0 อัตรา 4 กิโลกรัมต่อต้น กรรมวิธีที่ 4 ใช้ปุ๋ยคอก(มูลวัว) อัตรา 50 กิโลกรัมต่อต้น กรรมวิธีที่ 5 ใช้ปุ๋ยคอก-มูลไก่ อัตรา 30 กิโลกรัมต่อต้น กรรมวิธีที่ 6 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลวัว อัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้น กรรมวิธีที่ 7 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลไก่ อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น กรรมวิธีที่ 8 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลวัว อัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้น และกรรมวิธีที่ 9 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลไก่ อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น ผลการทดลอง พบว่า การใช้ปุ๋ยทั้ง 9 กรรมวิธี มีผลต่อจำนวนวันที่ชักนำให้ต้นทุเรียนแตกใบใหม่ไม่แตกต่างกันทางสถิติ เปอร์เซ็นต์การแตกใบใหม่ของต้นทุเรียนมีความแตกต่างกันทางสถิติ พบว่า กรรมวิธีที่ 7 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลไก่ อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น ทำให้ต้นทุเรียนแตกใบอ่อนได้มากที่สุด คือ 85.80 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือ กรรมวิธีที่ 6 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลวัว อัตรา 25 กิโลกรัมต่อต้น ทำให้ต้นทุเรียนแตกใบอ่อนได้ 83.00 เปอร์เซ็นต์ และกรรมวิธีที่ 1 ชุดควบคุม (ใช้ปุ๋ย อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น) ทำให้ต้นทุเรียนแตกใบอ่อนได้ 33.40 เปอร์เซ็นต์ จำนวนวันในการพัฒนาของใบใหม่จนกระทั่งเป็นใบเพสลาดมีความแตกต่างกันทางสถิติ พบว่า กรรมวิธีที่ 7 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลไก่ อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น และกรรมวิธีที่ 9 ใช้ปุ๋ยสูตร 15-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น + ปุ๋ยคอก-มูลไก่ อัตรา 15 กิโลกรัมต่อต้น มีผลทำให้การพัฒนาของใบใหม่จนกระทั่งเป็นใบเพสลาดเร็วที่สุด คือ 40.40 และ 41.00 วัน ตามลำดับ และกรรมวิธีที่ 1 ชุดควบคุม (ใช้ปุ๋ย อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น) มีผลทำให้การพัฒนาของใบใหม่จนกระทั่งเป็นใบเพสลาดมากที่สุด 45.40 วัน จำนวนชุดใบที่แตกใหม่ไม่แตกต่างกันทางสถิติ คือ ทั้ง 9 กรรมวิธีทำให้ทุเรียนแตกใบใหม่ได้ 2-3 ชุด การทดลองที่ 2 การใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้นต่างกันต่อการชักนำการออกดอกของทุเรียนนอกฤดู ทำการทดลองกับทุเรียนอายุ 10 ปี ณ แปลงปลูกทุเรียนของนายประพันธ์ แดงพรหม หมู่ที่ 9 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสวนทุเรียนที่ผ่านการบังคับให้ออกนอกฤดูมาแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาลต่อไป ดำเนินการทดลองเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 และสิ้นสุดการทดลองเดือนสิงหาคม 2557 วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) ทำการทดลอง 5 ซ้ำ (ใช้ต้นทุเรียนหนึ่งต้นเป็นจำนวนหนึ่งซ้ำ) รวมใช้ต้นทุเรียนสำหรับการทดลอง จำนวน 25 ต้น กำหนดให้มี 5 สิ่งทดลอง (Treatments) มีดังนี้ คือ 1) ชุดควบคุม (ไม่ใช้สาร) 2) การใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้น 1000 ppm 3) การใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้น 15000 ppm 4) การใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้น 2000 ppm และ 5) การใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้น 2500 ppm ผลของการใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้นต่างกันต่อจำนวนวันที่ออกดอกหลังการฉีดพ่นสาร พบว่า การใช้สารพาโคลบิวทราโซลที่ระดับความเข้มข้นแตกต่างกันมีผลต่อจำนวนวันที่ออกดอกหลังการฉีดพ่นสารแตกต่างกันทางสถิติ การใช้สารพาโคลบิวทราโซลความเข้มข้น 2500 และ 2000 ppm สามารถชักนำให้ทุเรียนออกดอกได้เร็วที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 24.00 และ 24.40 วัน ตามลำดับ และต้นทุเรียนที่ไม่ใช้สารพาโคลบิวทราโซลออกดอกช้าที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ยการออกดอก 42.60 วัน เปอร์เซ็นต์การออกดอกหลังการฉีดพ่นสารสารพาโคลบิวทราโซลมีผลแตกต่างกันทางสถิติ พบว่า การใช้สารพาโคลบิวทราโซลความเข้มข้น 2000 และ 2500 ppm สามารถชักนำให้ทุเรียนออกดอกได้มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 72.80 และ 72.00 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และต้นทุเรียนที่ไม่ใช้สารพาโคลบิวทราโซล มีเปอร์เซ็นต์การออกดอกน้อยที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ยการออกดอก 22.20 เปอร์เซ็นต์ ผลของการใช้สารพาโคลบิวทราโซลต่อความยาวของดอกทุเรียนมีแตกต่างกันทางสถิติ พบว่า การใช้สารพาโคลบิวทราโซลความเข้มข้น 2500 ppm ทำให้ความยาวของดอกทุเรียนสั้นลงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.80 เซนติเมตร และต้นทุเรียนที่ไม่ใช้สารพาโคลบิวทราโซลมีความยาวของดอกมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 18.00 เซนติเมตร ผลของการใช้สารพาโคลบิวทราโซลต่อความกว้างของดอกทุเรียนมีแตกต่างกันทางสถิติ พบว่า การใช้สารพาโคลบิวทราโซลความเข้มข้น 2500 ppm ทำให้ความกว้างของดอกทุเรียนน้อยมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.20 เซนติเมตร และต้นทุเรียนที่ไม่ใช้สารพาโคลบิว ทราโซล มีความกว้างของดอกมากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.60 เซนติเมตร
บทคัดย่อ (EN): The optimum of fertilizer use for preparing the vegetative growth of Durian tree and paclobutrazol application for off-Season of Durian production was divided to two experiments. Experiment 1 The experiment of optimum fertilizer use for preparing the vegetative growth of durian tree. The fertilizer use for this study was combined the chemical fertilizer and organic manure (chicken manure and cow manure), the experiment was conducted in the durain orchard of Mr. Prapan Dangphom, located at Noppitum District, Nakhon Si Thammarat province. Ten-year–old field-grown durain trees were used in this study. The experiment was started from January , 2014 to June, 2014. A completely randomised design(CRD) with single tree plots replicated five times, a total of 45 durain trees were used as experimental units where one tree represent a replicate of the different treatments. The treatments included of 9 treatments : 1) untreated trees 2) chemical fertilizer 15-15-15 at the rate 4 kg 3) chemical fertilizer 15-0-0 at the rate 4 kg 4) cow manure at the rate 50 kg 5) chicken manure at the rate 30 kg 6) chemical fertilizer 15-15-15 at the rate 2 kg+ cow manure at the rate 25 kg 7) chemical fertilizer 15-15-15 at the rate 2 kg+ chicken manure at the rate 15 kg 8) chemical fertilizer 15-0-0 at the rate 2 kg +cow manure at the rate 25 kg and 9) chemical fertilizer 15-0-0 at the rate 2 kg+Chicken manure at the rate 15 kg The results showed that the number of days after fertilizer used to leaf flushing were not significant difference, the percentage of leaf flushing after fertilizer used were significant difference, the treatment 7 : chemical fertilizer 15-15-15 at the rate 2 kg + chicken manure at the rate 15 kg was showed the highest percentage of leaf flushing 85.80 percent and follow by treatment 6: chemical fertilizer 15-15-15 at the rate 2 kg+ cow manure at the rate 25 kg got the percentage of leaf flushing 83.00 percent, the untreated tree had the percentage of leaf flushing is lowest 33.40 percent. The number of day from leaf flushing to leaf maturing, treatment 7: chemical fertilizer 15-15-15 at the rate 2 kg + chicken manure at the rate 15 kg and treatment 9 : chemical fertilizer 15-0-0 at the rate 2 kg+Chicken manure at the rate 15 kg was showed the least number of day from leaf flushing to leaf maturing average 40.40 and 41.00 days, respectively. The treatment 1: untreated trees was showed the leaf flushing to leaf maturing is the longest number of day average 45.40 days. The number of time of leaf flushing of every treatments are not significant difference was showed average 2-3 times. Experiment 2 The experiment of paclobutrazol at the difference concentrations use for flower induction of off-season of durian production. The experiment was conducted in the durain orchard of Mr. Prapan Dangphom, located at Noppitum District, Nakhon Si Thammarat province. Ten-year–old field-grown durain trees were used in this study. The experiment was started from June, 2014 to September, 2014. A completely randomised design (CRD) with single tree plots replicated five times, a total of 25 durain trees were used as experimental units where one tree represent a replicate of the different treatments. The treatments included of 5 treatments : 1) untreated trees 2) paclobutrazol at the rate 1000 ppm 3) paclobutrazol at the rate 1500 ppm 4) paclobutrazol at the rate 2000 ppm and 5) paclobutrazol at the rate 2500 ppm The results showed that the number of days after paclobutrazol spraying to started to first time to flowering was significant difference of number of days, paclobutrazol at the concentration 2000 and 2500 ppm could induced flowering is earlier than other treatments, the average the number of days 24.00 and 24.40 days, respectively, and the untreated tree it is longest of number of days 42.60 days. The effect of paclobutrazol to percent of flowering was showed significant difference of percent flowering, the treatments was applied with paclobutrazol at 2000 and 2500 ppm could induced flowering is the highest 72.80 and 72.00 percent, respectively. Untreated tree there is lowest of percent flowering average 22.20 percent. The effect of paclobutrazol to the length and the width of durain flower, data of the length was shortest when applied paclobutrazol at 2500 ppm average is 13.80 centimeters, and otherwise untreated tree had the length of flower average is 18.00 centimeters. Also the width of durain flower was effected by paclobutrazol , at the rate of 2500 ppm is shortest average is 13.20 centimeters, and untreated tree is widest average 16.60 centimeters.
วิธีการจ้างทำงานวิจัย: ได้รับทุนวิจัย
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2555-10-01
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2557-09-30
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมของต้นทุเรียน และการใช้ สารพาโคลบิวทราโซล เพื่อการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล
สมพร ณ นคร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
30 กันยายน 2557
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การใช้สารพาโคลบิวทราโซลเพื่อผลิตดาหลา (Etlingera elatior L.) เป็นไม้ดอกกระถาง ผลของสารพาโคลบิวทราโซลต่อการใช้น้ำและการเติบโตของดาวเรืองกระถาง การสร้างเครือข่ายและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล ในจังหวัดนครศรีธรรมราช การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การใช้เทคโนโลยีการผลิตทุเรียนของสมาชิกกลุ่มปรับปรุงคุณภาพทุเรียน จังหวัดระยอง ผลของสารพาโคลบิวทราโซลต่อการสะสมคาร์โบไฮเดรตในใบของต้นชมจันทร์ การเปลี่ยนแปลงลักษณะทางสัณฐานวิทยา และการตอบสนองทางสรีรวิทยาของดาวเรืองกระถางต่อการใช้สารพาโคลบิวทราโซล การตอบสนองต่อสารพาโคลบิวทราโซลของแก่นตะวันเพื่อการผลิตเป็นไม้กระถาง การเปรียบเทียบเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตามภูมิปัญญาชาวบ้านกับการใช้ปุ๋ยตามหลักวิชาการเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของทุเรียนในตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก