สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบระหว่างการปลูกข้าวแบบเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีย์ ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร
อรกช เก็จพิรุฬห์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบระหว่างการปลูกข้าวแบบเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีย์ ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อรกช เก็จพิรุฬห์
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยนี้อยู่ภายใต้ปรัชญาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย การวิจัยแบบมีส่วนร่วมและการวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสูงใจเกษตรกรให้ตระหนักถึงการใช้อินทรีย์สารในภาคเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนระหว่างการปลูกข้าวแบบเกษตรเคมี และเกษตรอินทรีย์ ในตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายชุมชน และนักพัฒนาชุมชน หลังจากการที่ได้มีการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย และดำเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการด้วยการเปรียบเทียบต้นทุน ผลการตอบแทนการปลูกข้าว 2รูปแบบ และการคัดเลือกเกษตรกรมานำเสนอวิธีการปลุกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ผลการวิจัยแบบมีส่วนร่วม พบว่า ผลตอบแทนที่ได้จากการปลุกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์สูงกว่าแบบเกษตรเคมีในเกือบทุกพื้นที่ และเกษตรที่ได้ผลตอบแทนสูงได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนเกษตรกรอื่นๆ ว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สารกำจัดจากธรรมชาติ และการดูแลเอาใจใสที่น่าสนใจสม่ำเสมอ ทำให้ได้ผลตอบแทนสูงได้ ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณใช้ข้อมูลปฐมภูมิ เริ่มจากการเลือกพื้นที่หมู่บ้านที่มีการปลูกข้าวมาก และเลือกเกษตรกรตัวอย่างอบรมสมัครใจ โดยมีขนาดกลุ่มตัวอย่าง 333 ราย มีการประมาณน้ำหนักเพื่อให้ได้ภาพของตำบล ในส่วนประกอบด้วย 3 วัตถุประสงค์ โดยวัตถุประสงค์ประการที่สอง คือ เพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนและผลตอบแทนการปลุกข้าว ซึ่งพบว่า ค่าเช่าที่ดิน เป็นรายจ่ายที่มีสัดส่วนสูง ในการปลูกข้างทั้งสองรูปแบบ ส่วนการเปรียบเทียบผลตอบแทนการปลุกข้างสองรูปแบบ พบว่า ไม่เพียงแต่ราคาและรายเฉลี่ยที่สูงกว่า แต่ต้นทุนเฉลี่ยต่ำกว่า ทำให้ผลตอบแทนจากการปลุกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์สูงกว่าแบบเกษตรเคมี ประการที่สาม คือ เพื่อนำเสนอรูปแบบการปลูกข้าวแบบเกษตรที่กำหนดปริมาณข้าวที่ปลูกแบบเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีญื โดยใช้ฟังก์ชันการผลิตแบบคอบบ์-ดักลาส ผลการศึกษาพบว่า ขนาดพื้นที่เพาะปลูก จำนวนเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืช แรงงาน และน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ประการที่สี่ คือ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตข้าวทั้งสองรูปแบบ ซึ่งพบว่า โดยเฉลี่ยการเพิ่มปัจจัยการผลิตข้าวอินทรีย์ทุกปัจจัย ยกเว้นขนาดพื้นที่เพาะปลุก จะได้ผลตอบแทนดีกว่าข้าวที่ปลูกแบบเกษตรเคมี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
คำสำคัญ: เพาะปลูก
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
รายละเอียด: โครงการวิจัยนี้อยู่ภายใต้ปรัชญาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย การวิจัยแบบมีส่วนร่วมและการวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสูงใจเกษตรกรให้ตระหนักถึงการใช้อินทรีย์สารในภาคเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนระหว่างการปลูกข้าวแบบเกษตรเคมี และเกษตรอินทรีย์ ในตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายชุมชน และนักพัฒนาชุมชน หลังจากการที่ได้มีการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย และดำเนินการวิจัยเชิงปฏิบัติการด้วยการเปรียบเทียบต้นทุน ผลการตอบแทนการปลูกข้าว 2รูปแบบ และการคัดเลือกเกษตรกรมานำเสนอวิธีการปลุกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ผลการวิจัยแบบมีส่วนร่วม พบว่า ผลตอบแทนที่ได้จากการปลุกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์สูงกว่าแบบเกษตรเคมีในเกือบทุกพื้นที่ และเกษตรที่ได้ผลตอบแทนสูงได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนเกษตรกรอื่นๆ ว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สารกำจัดจากธรรมชาติ และการดูแลเอาใจใสที่น่าสนใจสม่ำเสมอ ทำให้ได้ผลตอบแทนสูงได้ ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณใช้ข้อมูลปฐมภูมิ เริ่มจากการเลือกพื้นที่หมู่บ้านที่มีการปลูกข้าวมาก และเลือกเกษตรกรตัวอย่างอบรมสมัครใจ โดยมีขนาดกลุ่มตัวอย่าง 333 ราย มีการประมาณน้ำหนักเพื่อให้ได้ภาพของตำบล ในส่วนประกอบด้วย 3 วัตถุประสงค์ โดยวัตถุประสงค์ประการที่สอง คือ เพื่อศึกษาโครงสร้างต้นทุนและผลตอบแทนการปลุกข้าว ซึ่งพบว่า ค่าเช่าที่ดิน เป็นรายจ่ายที่มีสัดส่วนสูง ในการปลูกข้างทั้งสองรูปแบบ ส่วนการเปรียบเทียบผลตอบแทนการปลุกข้างสองรูปแบบ พบว่า ไม่เพียงแต่ราคาและรายเฉลี่ยที่สูงกว่า แต่ต้นทุนเฉลี่ยต่ำกว่า ทำให้ผลตอบแทนจากการปลุกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์สูงกว่าแบบเกษตรเคมี ประการที่สาม คือ เพื่อนำเสนอรูปแบบการปลูกข้าวแบบเกษตรที่กำหนดปริมาณข้าวที่ปลูกแบบเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีญื โดยใช้ฟังก์ชันการผลิตแบบคอบบ์-ดักลาส ผลการศึกษาพบว่า ขนาดพื้นที่เพาะปลูก จำนวนเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืช แรงงาน และน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ประการที่สี่ คือ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตข้าวทั้งสองรูปแบบ ซึ่งพบว่า โดยเฉลี่ยการเพิ่มปัจจัยการผลิตข้าวอินทรีย์ทุกปัจจัย ยกเว้นขนาดพื้นที่เพาะปลุก จะได้ผลตอบแทนดีกว่าข้าวที่ปลูกแบบเกษตรเคมี
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบระหว่างการปลูกข้าวแบบเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีย์ ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
2554
การวิเคราะห์ต้นทุน-ผลตอบแทนเงินทุนของสหกรณ์การเกษตร กรณีศึกษา สหกรณ์การเกษตรทับคล้อ จำกัด การศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพจากการทำการเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีย์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : การทบทวนวรรณกรรม เกษตรอินทรีย์ : ข้อจำกัดของการมีตลาดรองรับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์อย่างเพียงพอในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน กระบวนการจัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของเกษตรกรในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และการบูรณาการสร้างและพัฒนาระบบตลาดเกษตรอินทรีย์ เทคนิคการบริหารการตลาดสมัยใหม่สาหรับข้าวเกษตรอินทรีย์ กรณีศึกษา กลุ่มข้าวเกษตรอินทรีย์ ตาบลดินจี่ อาเภอคาม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ การศึกษาเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตกล้วยไม้แบบเกษตรดีที่เหมาะสมกับแบบทั่วไป การเปรียบเทียบผลผลิตข้าวสาลีของสถาบันและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง การวิเคราะห์ระบบตลาดผักที่ผ่านมาตรฐานการรับรองตามระบบปฏิบัติการเกษตรที่ดี (GAP) สู่เกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือตอนบน การวิจัยเรื่อง การสร้างบทเรียนบนเว็บ เคมีวิเคราะห์สำหรับอุตสาหกรรมการเกษตร วิเคราะห์ต้นทุน ผลตอบแทนและความคุ้มค่าของธุรกิจโฮมสเตย์แบบยั่งยืน ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก