สืบค้นงานวิจัย
ผลของการปลูกหญ้าแฝกในแบบต่างๆ ต่อความชื้นดินในพื้นที่ปลูกมะม่วง
ประภา ธารเนตร - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ผลของการปลูกหญ้าแฝกในแบบต่างๆ ต่อความชื้นดินในพื้นที่ปลูกมะม่วง
ชื่อเรื่อง (EN): The effect of cultivation in different ways. Soil moisture in mango growing areas.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ประภา ธารเนตร
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ระบบการใช้หญ้าแฝกในพื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่น ลดการชะล้างพังทลายของหน้าดินแต่จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาเสนอแนะว่าหญ้าแฝกสามารถเพิ่มความชื้นในดินได้โดยเฉพาะการปลูกในพืนที่ไม้ผลที่มีต้องการใช้น้ำสูงการศึกษาในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของความชื้นในดินที่ปลูกหญ้าแฝกด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกันเปรียบเทียบกับแปลงที่ไม่ปลูกหญ้าแฝกในแปลงปลูกมะม่วงอายุ 7 ปี โดยใช้เครื่องวัดความชื้น TDR การศึกษาครั้งนี้ หญ้าแฝกพันธุ์ประจวบคีรีขันธ์ถูกปลูกโดยรอบต้นมะม่วง ซึ่งมีวิธีการทดลอง 5 วิธีการปลูกคือ 1. แปลงควบคุมที่ไม่ปลูกหญ้าแฝก 2. ปลูกหญ้าแฝกเป็นแถวโดยรอบต้นมะม่วง ระยะระหว่างต้น 50ซม 3. ปลูกหญ้าแฝกเป็นครึ่งวงกลมในพื้นที่ปลูกมะม่วง รัศมีห่างทรงพุ่ม 30 เซนติเมตร จำนวน 1 แถว 4. ปลูกหญ้าแฝกเป็นวงกลมในพื้นที่ปลูกมะม่วง รัศมีห่างทรงพุ่ม 30 เซนติเมตร จำนวน 1 วง และ 5. ปลูกหญ้าแฝกเป็นวงกลมจำนวน 2 วง ในพื้นที่ปลูกมะม่วง โดยวงแรกรัศมีห่างทรงพุ่ม 30 เซนติเมตร และวงที่สองรัศมีห่างจากวงแรก 30 เซนติเมตรจากการศึกษาในครั้งนี้ วิธีการปลูกที่แตกต่างกันทำให้ความชื้นดินต่างกัน โดยที่ความชื้น 10 ซม จากผิวดิน ถึงไม่ในช่วงแรกความชื้นดินจะแปรปรวนสลับกันสูงต่ำในแต่ละวิธีการทดลอง แต่ช่วงครึ่งหลัง (ตั้งแต่มกราคน 2555 โดยประมาณ) การปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลม 1 หรือ 2 วง มีผลทำให้ความชื้นของดินสูงกว่าแปลงควบคุมที่ไม่ปลูกหญ้าแฝกอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติความชื้นดินที่ระดับ 20 ซม จากผิวหน้าดิน ความชื้นดินในวิธีการทดลองที่ปลูกหญ้าแฝกสูงกว่าแปลงควบคุมที่ไม่ปลูกหญ้าแฝกอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติตลอดระยะการศึกษา ที่ระดับความลึกดิน 30 ซม การปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลม 1 หรือ 2 วง มีผลทำให้ความชื้นของดินสูงกว่าแปลงควบคุมที่ไม่ปลูกหญ้าแฝกอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติส่วนที่ระดับ 40 และ 60 ซม ความชื้นในดินที่วิธีการทดลองแบบปลูกหญ้าแฝกครึ่งวงกลมมีแนวโน้มสูงที่สุด ในขณะที่วิธีอื่นๆ เช่น การปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลม 1 วงและแปลงควบคุม (ที่ความชื้น 40 ซม) และการปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลม 2 วง(ที่ความชื้น 60 ซม) มีแนวโน้มของความชื้นต่ำสุด ที่ความลึก 100 ซม โดยทั่วไป แปลงที่มีวิธีการปลูกหญ้าแฝก ความชื้นในดินมีแนวโน้มสูงกว่าแปลงควบคุมที่ไม่ปลูกหญ้าแฝกการศึกษาในครั้งนี้ เห็นได้ว่าถึงแม้ความชื้นดินในแต่ละความลึกมีความแปรปรวนไม่สม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาที่ศึกษา แต่แปลงทดลองที่มีวิธีการปลูกหญ้าแฝกร่วมกับมะม่วงมีศักยภาพที่สามารถเพิ่มความชื้นในดินได้
บทคัดย่อ (EN): The use of vetiver grass for soil and water conservation in agricultural lands focus mostly on erosion control. However, previous study suggested that vetiver grass could potentially increase soil moisture in those area and thus supply to crops to uptake. This study aimed to investigate and monitor changes of soil moisture in the Mango plantation where vetiver grass (Prachuabkirikhan ecotype) was planted around the tree in 4 different methods; 1. No vetiver grass applied to the Mango tree 2. Vetiver grass was planted in a row (as rectangular shape) around Mango tree with 50 cm between plants; 3. Vetiver grass was planted in a semi-circular planting style around Mango treewith 50 cm between plants 4. Vetiver grass was planted in a circular planting style around Mango treewith 50 cm between plants 5. Vetiver grass was planted in two lines of circular planting style around Mango treewith 50 cm between plants and 30 cm between vetiver grass’s line.The results showed that applying vetiver grass into the plantation significantly affected soil moisture. At 10 cm soil depth, although during the first half of study soil moisture varied considerably, at later stage treatment with 1 and/or 2 lines of vetiver grassshowed significant greater than that in control plotwithout vetiver grass. At 20 cm soil depth, all treatments applied vetiver grass had greater soil moisture than control plot without vetiver grass. At soil depth of 30, soil moisture was greater in treatments with semi-circular and circular style with 1 line of vetiver grass than that incontrol plant without vetiver grass. At 40 and 60 cm soil depth, treatments with semi-circular had the greatest soil moisture, while other treatments i.e. circular style with 1 line of vetiver grass and control plot (at 40 cm soil depth) and 2 lines of vetiver grass (at 60 cm soil depth) had the lowest soil moisture. At 100 cm soil depth, all treatments applied vetiver grass had greater soil moisture than control plot without vetiver grass. In this study, although soil moisture varied significantly and was inconsistent in each depth, treatments applied vetiver grass had potentially increased soil moisture during the period of study.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: มะม่วง
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการปลูกหญ้าแฝกในแบบต่างๆ ต่อความชื้นดินในพื้นที่ปลูกมะม่วง
กรมพัฒนาที่ดิน
31 ธันวาคม 2555
ปริมาณธาตุอาหารในดิน ใบและผลผลิตมะม่วงจากแหล่งปลูกต่างๆ ในประเทศไทย ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับการปลูกแถบหญ้าแฝกในพื้นที่ปลูกยางพาราที่ลาดชัน ผลของพารามิเตอร์บางประการต่อการคายน้ำของมะม่วงพันธุ์ แก้ว การศึกษาคัดเลือกพันธุ์มะม่วงบนพื้นที่สูงสำหรับการแปรรูป การสำรวจหญ้าแฝกที่ปลูกในดินที่มีปัญหา และจัดทำเป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 การปลูกหญ้าแฝกด้วยวัสดุอินทรีย์ชนิดต่างๆที่มีผลต่อการเจริญเติบโตไม้ผล ในพื้นที่ดินเค็มจังหวัดอำนาจเจริญ คุณค่าทางโภชนะของหญ้าแฝกหมักที่เติมสารชนิดต่างๆ ผลของวิธีการอนุรักษ์ความชื้นดินต่อผลผลิตสบู่ดำ โครงการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์มะม่วง การศึกษาโรคเปลือกแตกยางไหลของมะม่วง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก