สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ในการควบคุม เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown Planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
จินตนา ไชยวงค์ - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ในการควบคุม เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown Planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
ชื่อเรื่อง (EN): Efficacy of new class insecticides to the Brown Planthopper (Nilaparvata lugens (Stål)) and side effect to the mirid bug (Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จินตนา ไชยวงค์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Jintana Chaiwong
บทคัดย่อ: เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Nilaparvata lugens (Stål)) เป็นแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญในพื้นที่นาชลประทานเขตภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำการศึกษาประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง 9 ชนิด ได้แก่ buprofezin 25% WP, buprofezin 5% + isoprocarb 20% WP, etofenprox 20% EC, ethiprole 10% SC, dinotefuran 10% WP, pymetrozine 50% WG, sulfoxaflor 50% WG, carbosulfan 20% EC และ clothianidin 16% SG ในการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ดำเนินการทดลองในแปลงนาเกษตรกร 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี นครนายก และอุบลราชธานี ผลการทดลองพบว่า sulfoxaflor 50% WG และ pymetrozine 50% WG ที่เป็นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายสำหรับใช้ในนาข้าวเพื่อป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีที่สุด สามารถควบคุมได้ 40-80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงชนิดอื่น ที่เป็นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มเก่า สามารถควบคุมได้เพียง 10 - 50 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อมวนเขียวดูดไข่ กรรมวิธีที่พ่นด้วย buprofezin 25% WP และ pymetrozine 50% WG มีอัตราส่วนต่ำกว่ากรรมวิธีที่พ่นสารชนิดอื่น ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าปลอดภัยต่อมวนเขียวดูดไข่มากกว่าสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงชนิดอื่น นอกจากนั้น เมื่อทดสอบหาระดับความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงต่อมวนเขียวดูดไข่ ด้วยวิธี leaf dipping พบว่า pymetrozine 50% WG มีความเป็นพิษต่อมวนเขียวดูดไข่ต่ำที่สุด เท่ากับ 305.61 และ 60.89 mg a.i. L-1 ที่ 24 และ 48 ชั่วโมง ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Brown planthopper (BPH), Nilaparvatar lugens (Stål) is an important insect pest of irrigated rice cultivation areas in lower north, central and northeast Thailand. The field experiments were conducted to evaluate the efficacy of nine insecticides include buprofezin 25% WP, buprofezin 5% + isoprocarb 20% WP, etofenprox 20% EC, ethiprole 10% SC, dinotefuran 10% WP, pymetrozine 50% WG, sulfoxaflor 50% WG, carbosulfan 20% EC and clothianidin 16% SG to control BPH in farmers’ fields at Suphan Buri, Nakhon Nayok and Ubon Ratchathani provinces. The results showed that the sulfoxaflor 50% WG and pymetrozine 50% WG which are new class insecticides, were the most effective insecticides that showed BPH control efficacy of 40-80% whilst the other insecticides which are old class insecticides showed only 10-50%. The ratios of BPH/mirid bug (MB), Cyrtorhinus lividipennis Reuter in the buprofezin 25% WP and pymetrozine 50% WG fields were lower than those of other fields, which may indicate the less toxicity to MB compared with other insecticides. Moreover, toxicity of each insecticide to MB was investigated using leaf dipping method and the result indicated that pymetrozine 50% WG was the lowest toxicity to MB with the LC50 value of 305.61 and 60.89 mg a.i. L-1 at 24 and 48 h after treated, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://anchan.lib.ku.ac.th/agnet/bitstream/001/5956/1/2558RRDD-OP08-p.104-123.pdf
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
คำสำคัญ: ค่าความเป็นพิษ
คำสำคัญ (EN): LC50
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมการข้าว
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ในการควบคุม เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown Planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter)
กรมการข้าว
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
กรมการข้าว
มุมมองเรื่องชีวชนิดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี อิทธิพลของขนาดเพลี้ยอ่อนถั่ว (Aphis cracciuora) ที่มีผลต่อขนาด ระยะเวลาการพัฒนา อัตราส่วนทางเพศของตัวเบียน และจำนวนตัวเบียน (Aphidius colemani) ที่เกิดจากเพลี้ยอ่อน บทบาทของศัตรูธรรมชาติต่อการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Nilaparvata lugens (Stal) ในนาข้าว) สาเหตุของความต้านทานในข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparuata lugens (Stal) ประสิทธิภาพของสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงกลุ่มใหม่ต่อการควบคุมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Brown planthopper, Nilaparvata lugens (Stål)) และผลกระทบต่อมวนเขียวดูดไข่ (Mirid bug , Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ประสิทธิภาพในการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลของสารสกัดจากบอระเพ็ดในข้าว ผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อความหลากชนิดของศัตรูธรรมชาติในนาข้าวจังหวัดสกลนคร การพัฒนาแบบจำลองประชากรเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Nilaparvata lugens (Stal.) ในนาข้าว แบบจำลองสถานการณ์ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก