สืบค้นงานวิจัย
การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสีน้ำตาลสกุลSargassum C. Agardh (ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี)
วิภูษิต มัณฑะจิตร - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสีน้ำตาลสกุลSargassum C. Agardh (ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี)
ชื่อเรื่อง (EN): Cultivation of the brown algae genus Sargassum C. Agardh (Plant Genetic Conservation Project Under the Royal Initiative of Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิภูษิต มัณฑะจิตร
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: สาหร่ายทะเลสีน้ำตาลสกุล Sargassum ในประเทศไทยนับว่าเป็นสาหร่ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีการแพร่กระจายทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน จึงมีความสาคัญต่อระบบนิเวศชายฝั่ง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสาหร่าย Sargassum oligocystum จากต้นอ่อนเพื่อชักนำให้เกิดยอดจำนวนมาก โดยใช้อาหารเลี้ยงพรรณไม้น้ำ Plant Nutrition+ liquid (Tropica® AQUACARE, www.tropica.com) ที่ความเค็ม 25, 30 และ 35 psu ร่วมกับสารควบคุมการเจริญเติบโต 6-Benzylaminopurine (BA), 2,4- Dichlorophenoxyacetic acid (2,4-D) และ 1-Naphthaleneacetic acid (NAA) ระดับความเข้มข้น 0, 1, 5, 10 และ 15 μM การทดลองละ 4 ซ้ำ ภายใต้สภาวะอุณหภูมิ 25 ºc ความเข้มแสง 85 μmol photons m-2s-1 โดยให้แสง 12 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากเพาะเลี้ยง 10 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ Chi-square test พบว่า ความเค็มและสารควบคุมการเจริญเติบโตมีผลต่อการเกิดยอดอย่างมีนัยสาคัญ (P<0.05) ต้นอ่อนที่เพาะเลี้ยง ในอาหารความเค็ม 35 psu ร่วมกับสารควบคุมการเจริญเติบโต BA 10-15 μM และ 2,4-D 1-5 μM สามารถชักนำให้เกิดยอดได้ดีกว่าความเค็ม 25 และ 30 psu การเพาะเลี้ยงแผ่นใบขนาดกว้าง 3-5 mm เพาะเลี้ยงที่ความเค็ม 35 psu ร่วมกับสารควบคุมการเจริญเติบโต BA, 2,4-D และ NAA ที่ระดับความเข้มข้นต่าง ๆ หลังจากเพาะเลี้ยง 12 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ Two-way ANOVA พบว่าชนิดของสารควบคุมการเจริญเติบโตมีผลต่อการชักนำให้เกิดยอดอย่างมีนัยสาคัญ (P<0.05) BA และ NAA สามารถชักนำให้เกิดยอดได้ดีกว่า 2,4-D สำหรับอาหารเพาะเลี้ยงที่ ประกอบด้วย BA ร่วมกับ NAA สามารถชักนำให้เกิดยอดได้ดีกว่า BA ร่วมกับ 2,4-D การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสกุล Sargassum นอกห้องปฏิบัติการ ต้นอ่อนที่เพาะเลี้ยงด้วยน้ำะเลมีการเจริญเติบโตจำเพาะสูงกว่าต้นอ่อนที่เพาะเลี้ยงด้วยน้ำทะเลร่วมกับปุ๋ยยูเรีย 4 gm-3 มีการเจริญเติบโตจำเพาะ สูงสุด 2.68±0.17 % day-1 ในวันที่ 14 ของการเพาะเลี้ยง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1728?show=full
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: สาหร่าย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพาะเลี้ยงสาหร่ายสีน้ำตาลสกุลSargassum C. Agardh (ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี)
มหาวิทยาลัยบูรพา
30 กันยายน 2559
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สี ผลกระทบของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมต่อชนิดและความหลากหลายของ สาหร่ายซูแซนเทลลี่ (Symbiodinium spp.) ที่อาศัยอยู่ร่วมกับปะการังอ่อนในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชทางทะเล หมู่เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี (สนองพระร ผลกระทบของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมต่อชนิดและความหลากหลายของ สาหร่ายซูแซนเทลลี่ (Symbiodinium spp.) ที่อาศัยอยู่ร่วมกับปะการังอ่อนในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชทางทะเล หมู่เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี (สนองพระร น้ำตาลกับช็อกโกแลต การศึกษาการเจริญและการสะสมน้ำมันของสาหร่ายขนาดเล็กที่คัดแยกได้จากแหล่งน้ำจืดและทะเลสาบในภาคใต้ของประเทศไทยและการศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงในน้ำทิ้งจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อการผลิตไบโอดีเซ ฐานข้อมูลจีโนไทป์ของเชื้อพันธุกรรมพืชตระกูลแตง การเพิ่มผลผลิตไขมันในสาหร่ายน้ำมัน Botryococcus braunii KMITL2 และ Scenedesmus dimorphus KMITL โดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในการเพาะเลี้ยง เพื่อผลิตไบโอดีเซล ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย วว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก