สืบค้นงานวิจัย
การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างมีประสิทธิภาพ
รุ่งทิพย์ ชวนชื่น - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างมีประสิทธิภาพ
ชื่อเรื่อง (EN): Risk assessment and development of guideline for risk management of antimicrobial resistance from pork consumption
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รุ่งทิพย์ ชวนชื่น
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Dr. Rungtip Chuanchuen
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บทคัดย่อ: รายงานฉบับนี้เป็นการรายงานผลการวิจัยของโครงการในปีที่ 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลความ ชุกและพันธุกรรมของ Salmonella ดื้อยาต้านจุลชีพกลุ่มทางเลือกสุดท้าย fluoroquinolone และ new generation cephalosporins โดยวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยโดยรวม คือ เพื่อประเมินความเสี่ยงของ ผู้บริโภคในการรับ Salmonella ดื้อยากลุ่ม fluoroquinolone และกลุ่ม new generation cephalosporins จากเนื้อสุกรที่จะนำมาบริโภค และเพื่อจัดทำข้อมูลและแนวทางสำหรับการจัดการความเสี่ยงเชื้อดื้อยา อย่างมีประสิทธิภาพ เก็บตัวอย่างเนื้อสุกรจำนวน 793 ตัวอย่างจากตลาดสด (n=404) และ Hypermarkets (n=389) ใน กรุงเทพมหานครจำนวน 19 เขต ทำการประมาณจำนวน แยกและยืนยัน Salmonella ตามวิธีมาตรฐาน ISO/TS6579-2 ตรวจสอบ serovars และ ทดสอบความไวต่อยาต้านจุลชีพในกลุ่ม cephalosporins (cefoxitin, cefepime, ceftriaxone, cefotaxime และ ceftazidime) และ fluoroquinolones (levofloxacin และ ciprofloxacin) พบการอัตราการปนเปื้อน Salmonella โดยรวมคิดเป็น 42.75% เนื้อสุกรจากตลาดสด (75.5%, 305/404) มีอัตราการปนเปื้อนสูงกว่าเนื้อสุกรจาก Hypermarkets (8.74%, 34/389) เขตที่พบการ ปนเปื้อนสูงสุดคือ เขตวัฒนา (65.38%, 17/26) และภาษีเจริญ (62.50%, 15/24) จากการตรวจหาการปนเปื้อนเชิงปริมาณ (n=339) พบค่าเฉลี่ย MPN เท่ากับ 18.88/g (1.3-180 /g, n=315) โดยมีเนื้อสุกรจำนวน 24 ตัวอย่างที่มีค่าสูงเกินนับปริมาณได้ค่าเฉลี่ย MPN ของ Salmonella ใน เนื้อสุกรจากตลาดสดและ Hypermarkets เท่ากับ 19.59 /g (1.3-180 MPN/g) สูงกว่าตัวอย่างจาก Hypermarkets (13.04/g, 1.3-140 /g) เนื้อสุกรที่มีค่าเฉลี่ย MPN สูงสุดมาจากเขตคลองสาน (58.86/g) ตาม ด้วย บางกอกใหญ่ (44.01/g) เก็บ Salmonella 1 isolate ต่อ 1 serovar ต่อตัวอย่างที่ให้ผลบวก ได้เชื้อ ทั้งหมด 531 isolates ที่ประกอบด้วย 34 serovars โดย serovars ที่พบสูงสุดคือ S. Rissen (22.6%) และ S. Sinstorf (16.57%) ไม่พบ serovar Enteritridis แต่พบ serovars Typhimurium คิดเป็น 5.58% อัตราการดื้อยาสูงสุด คือ cefotaxime (31.45%) และ ceftriaxone (31.26%) พบเชื้อดื้อยา ciprofloxacin และ levofloxacin คิดเป็น 5.27% 3.01% ตามลำดับ เชื้อจำนวน 338 isolates (63.65%) ไม่ดื้อยาต้านจุลชีพที่ทดสอบ จัดรูปแบบการดื้อยาได้ 24 รูปแบบ โดยรูปแบบการดื้อยาที่พบบ่อยที่สุดคือ CRO-FOT-TAZ (9.98%) และ FEP-CRO-FOT-TAZ (9.42%) จากการวิเคราะห์ทางสถิติการดื้อยาในกลุ่ม cephalosporin พบความสัมพันธ์ของการดื้อยา cefoxitin กับการดื้อยา ceftazidime (p<0.05) Salmonella ที่ดื้อยา cefoxitin มีโอกาสที่จะดื้อยา ceftazidime 4.459 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Salmonella ที่ไม่มีการดื้อยา cefoxitin ส่วนการดื้อยาในกลุ่ม fluoroquinolones พบว่าการดื้อยา ciprofloxacin สัมพันธ์กับการดื้อยา levofloxacin อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ Salmonella ที่ดื้อยา ciprofloxacin มีโอกาสที่จะดื้อยา Levofloxacin 144.44 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Salmonella ที่ไม่มีการ ดื้อยา ciprofloxacin ข้อมูลที่ได้จากโครงการวิจัยนี้จัดเป็นข้อมูลความปลอดภัยอาหารด้านเชื้อจุลินทรีย์ที่มีโอกาสดื้อยาใน เนื้อสัตว์ และสามารถนำไปใช้ประกอบกระบวนจัดการความเสี่ยงเชื้อดื้อยาที่มีอาหารเป็นสื่อ ผลการวิจัยจะ นำไปศึกษาเพิ่มเติมและดำเนินกิจกรรมเพื่อประเมินความเสี่ยงของผู้บริโภคในการได้รับ Salmonella ดื้อยา กลุ่ม fluoroquinolone และ new generation cephalosporins จากเนื้อสุกรที่จะนำมาบริโภค และเพื่อ จัดทำข้อมูลและแนวทางสำหรับการจัดการความเสี่ยงเชื้อดื้อยาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
บทคัดย่อ (EN): This is the first year report with the aim to determine prevalence and antimicrobial resistance in Salmonella from pork. The objectives of the main project are perform antimicrobial resistance (AMR) risk assessment of fluoroquinolones and new generation cephalosporins in pork and develop guideline for AMR risk assessment and management. A total of 793 pork sample were collected from retailed markets (n=404) and hypermarkets (n=389) in 19 districts in Bangkok. Salmonella were enumerated, isolated and confirmed according to ISO/TS6579-2 and determined for serovars. Susceptibilities to cephalosporins (i.e. cefoxitin, cefepime, ceftriaxone, cefotaxime and ceftazidime) and fluoroquinolones (i.e. levofloxacin and ciprofloxacin) were examined. The overall contamination rate of Salmonella was 42. 75% and those for pork from retail markets and hypermarkets were 75.5% (305/404) and 8.74% (34/389), respectively. The highest prevalence was observed in Wattana (65.38%, 17/26) and Phasi Charoen (62.50%, 15/24). Based on the quantitative measurement (n=339), the average MPN was 18.88/g (1.3-180 /g), of which 24 samples were too numerous to count. The MPN for pork from retail markets (19.59/g, 1.3-180 MPN/g) was higher than that from hypermarkets (13.04/g, 1.3-140 /g). The highest average MPN was observed in Klong San (58.86/g), followed by Bangkok Yai (44.01/g). Five hundred and thirty-one Salmonella isolates were collected. Thirty-four serovars were identified, of which serovars Rissen (22.6%) and Sinstorf (16.57%) were most common. None of the isolates were serovar Enteritridis. Serovars Typhimurium was found in 5.58% of the isolates. The highest resistance rates were observed for resistance to cefotaxime (31.45%), and ceftriaxone(31.26%). Resistance rates to ciprofloxacin and levofloxacin were 5.27% and 3.01%, respectively. Up to 338 isolates (63.65%) were susceptible to the antimicrobials tested. Twenty-four resistance patterns were identified, of which the most common patterns were CRO-FOT-TAZ (9.98%) and FEP-CRO-FOT-TAZ (9.42%). The significant correlation (p<0.05) for cefoxitin and ceftazidime resistance was observed. The cefoxitin-resistant Salmonella had higher opportunity (4.459 times) to become ceftazidime resistant than those susceptible ones. Resistance to ciprofloxacin and levofloxacin was significantly correlated (p<0.05). The ciprofloxacin-resistant Salmonella had higher chance (144.44 times) to become levofloxacin resistant than the susceptible isolates. The data obtained were of AMR food safety importance in meat and can be applied for AMR risk assessment associated with food. The results will be expanded and later used for assessing risk for consumers to receive fluoroquinolone and cephalosporin-resistant Salmonella from pork and developing guideline for AMR risk assessment and management.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: สุกร
เจ้าของลิขสิทธิ์: คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

รุ่งทิพย์ ชวนชื่น . "การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างมีประสิทธิภาพRisk assessment and development of guideline for risk management of antimicrobial resistance from pork consumption". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน). 2563

รุ่งทิพย์ ชวนชื่น . "การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างมีประสิทธิภาพRisk assessment and development of guideline for risk management of antimicrobial resistance from pork consumption". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน). 2563. Print.



TARR Wordcloud:
การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรอย่างมีประสิทธิภาพ
รุ่งทิพย์ ชวนชื่น
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2563
การประเมินและพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงการรับสัมผัสเชื้อดื้อยาจากการบริโภคเนื้อสุกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ปีที่ 2) ฐานข้อมูลความเสี่ยงต่อการแพ้แมลงเศรษฐกิจจากการบริโภค โครงการ การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง ปี 2559 โครงการย่อยที่ 5 การพัฒนากระบวนการทําพองข้าวเกรียบกุ้งและแคบหมูด้วยไมโครเวฟและอินฟราเรดเพื่อทดแทนการทอด การพัฒนาสารฆ่าพยาธิจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร โครงการ การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง ปี 2559 โครงการย่อยที่ 4 การศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจของการแปรรูปเเละใช้ประโยชน์จากปลาสวาย โครงการ การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง ปี 2559 โครงการย่อยที่ 2 การสกัดสารแอสตาแซนทินจากเศษเหลือของอุตสาหกรรมแปรรูปกุ้ง โครงการ การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง ปี 2559 โครงการย่อยที่ 1 ผลิตภัณฑ์ปรุงรสความเค็มต่ําที่ได้จากการย่อยโปรตีนของอวัยวะภายในปลาทูน่า โครงการ การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา Food Valley ภาคกลาง ปี 2559 โครงการย่อยที่ 3 การพัฒนาการผลิตสารให้กลิ่นรสวาซาบิผงสําหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารบรรจุกระป๋อง การบริหารจัดการขยะอาหารเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนเกาะสมุยและเป็นชุมชนต้นแบบด้านความมั่นคงด้านอาหาร การพัฒนาสูตรสำเร็จสารเคลือบเมล็ด ที่ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากเชื้อ Streptomyces philanthi RL-1-178 เพื่อควบคุมเชื้อราที่สร้างสารพิษอะฟลาทอกซินในระหว่างการเก็บรักษาเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (โครง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair