สืบค้นงานวิจัย
การหลั่งสารคาร์นิทีนจากท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นของหนูพุกขาวที่ถูก Perfused ในหลอดทดลอง
Kanokporn Poungpong - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การหลั่งสารคาร์นิทีนจากท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นของหนูพุกขาวที่ถูก Perfused ในหลอดทดลอง
ชื่อเรื่อง (EN): Secretion of carnitine by the perfused rat caput epididymidis in vitro
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kanokporn Poungpong
บทคัดย่อ: กลไกการขนส่งคาร์นิทีนในระบบสืบพันธ์เพศชาย ยังเป็นที่ไม่เข้าใจแน่ชัด ทั้งที่คาร์นิทีน มีส่วนสำคัญในการควบคุมความสามารถในการสืบพันธุ์ของเพศชาย การศึกษาครั้งนี้มีการหา คุณสมบัติ (กลไก) การหลั่งคาร์นิทีนผ่านเซลล์บุท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นของหนูพุกขาวที่แยกออก จากตัวสัตว์ทดลอง วัดการหลั่งคาร์นิทีนโดยการวัดอัตราการขนส่งแอล-คาร์นิทีนที่ติดฉลากด้วยตรี เตรียมด้านนอกท่อเข้าในรูท่อพักเชื้ออสุจิ พบว่าอัตราการคัดหลั่งคาร์นิทีนแปรผันกับอัตราการไหล ของของเหลวผ่านรูท่อระหว่าง 0.25 ไมโครลิตรต่อนาทีถึง 1.35 ไมโครลิตรต่อนาที แบบ curvilinear เมื่ออัตราการไหลผ่านของของเหลวอยู่ที่ 0.78+0.03 ไมโครลิตรต่อนาที อัตราการคัด หลั่งคาร์นิทีนมีค่าค่อนข้างคงที่อยู่ที่ 4.00+0.63 พิโคโมลต่อนาทีต่อเซนติเมตร ตลอดช่วงการ ทดลองนาน 3 ชั่วโมง เมื่อเพิ่มความเข้มข้นของคาร์นิทีนภายในรูท่อพักเชื้ออสุจิให้มากกว่าความ เข้มข้นของคาร์นิทีนในของเหลวนอกท่อ 10 เท่า พบว่าอัตราการหลั่งคาร์นิทีนไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นมีความสามารถหลั่งคาร์นิทีนต้านความลาดเชิงความเข้มข้น เมื่อ แทนที่โซเดียมภายในรูท่อพักเชื้ออสุจิด้วยเอ็น-เมทิลดีกลูคาร์มีนหรือโคลีน พบว่า การหลั่งคาร์นิ ทีนไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น เมื่อใส่อะซีทิล แอล-คาร์นิทีนที่มีความเข้มข้น 250 ไมโครโมล่าร์ใน ของเหลวนอกท่อ พบว่าไม่มีผลต่อการหลั่งคาร์นิทีน ในทางกลับกันการเพิ่มความเข้มข้นของแอล- คาร์นิทีนในของเหลวนอกท่อพักเชื้ออสุจิจาก 30 ไมโครโมล่าร์เป็น 500 ไมโครโมล่าร์ สามารถ กระตุ้นอัตราการหลั่งคาร์นิทีนเพิ่มขึ้น 10 เท่า ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการขนส่งคาร์นิทีนผ่าน เซลล์บุท่อพักเชื้ออสุจิต้องการตัวพา ซึ่งคาร์นิทีนเข้าเซลล์ด้วยตัวพาที่มีความชอบจับมากและขนส่ง คาร์นิทีนด้วยอัตราความเร็วสูง ซึ่งอาจเป็นตัวพาซีที 1 (โอซีทีเอ็น 2) และคาร์นิทีนออกจากเซลล์เข้า สู่รูท่อพักเชื้ออสุจิได้อย่างน้อย 3 ทางคือ 1) อาศัยตัวพาซีที 2 ซึ่งในเส้นทางหลัก 2) อาศัยตัวพาที่มี ความชอบจับน้อย แต่ขนส่งคาร์นิทีนด้วยความเร็วสูง และ 3) อาศัยตัวแลกเปลี่ยนคาร์นิทีนกับคาร์นิ ทีน
บทคัดย่อ (EN): M markedly enhanced the rate of carnitine secretion up to 10 fold. The results suggest that transepithelial transport of carnitine occurs by carrier mediated transport systems. Uptake into the epididymal cells is achieved by a high affinity and fast rate of transporter, presumedly CT1 (OCTN2). Efflux of carnitine into the luminal fluid occurs via at least three pathways including 1) CT2, which is probably the main pathway, 2) a transporter with low affinity but high transport rate, and 3) a carnitinecarnitine exchanger.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2284&obj_id=1306
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Transportation
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: กลไกการขนส่งคาร์นิทีนในระบบสืบพันธ์เพศชาย ยังเป็นที่ไม่เข้าใจแน่ชัด ทั้งที่คาร์นิทีน มีส่วนสำคัญในการควบคุมความสามารถในการสืบพันธุ์ของเพศชาย การศึกษาครั้งนี้มีการหา คุณสมบัติ (กลไก) การหลั่งคาร์นิทีนผ่านเซลล์บุท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นของหนูพุกขาวที่แยกออก จากตัวสัตว์ทดลอง วัดการหลั่งคาร์นิทีนโดยการวัดอัตราการขนส่งแอล-คาร์นิทีนที่ติดฉลากด้วยตรี เตรียมด้านนอกท่อเข้าในรูท่อพักเชื้ออสุจิ พบว่าอัตราการคัดหลั่งคาร์นิทีนแปรผันกับอัตราการไหล ของของเหลวผ่านรูท่อระหว่าง 0.25 ไมโครลิตรต่อนาทีถึง 1.35 ไมโครลิตรต่อนาที แบบ curvilinear เมื่ออัตราการไหลผ่านของของเหลวอยู่ที่ 0.78+0.03 ไมโครลิตรต่อนาที อัตราการคัด หลั่งคาร์นิทีนมีค่าค่อนข้างคงที่อยู่ที่ 4.00+0.63 พิโคโมลต่อนาทีต่อเซนติเมตร ตลอดช่วงการ ทดลองนาน 3 ชั่วโมง เมื่อเพิ่มความเข้มข้นของคาร์นิทีนภายในรูท่อพักเชื้ออสุจิให้มากกว่าความ เข้มข้นของคาร์นิทีนในของเหลวนอกท่อ 10 เท่า พบว่าอัตราการหลั่งคาร์นิทีนไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นมีความสามารถหลั่งคาร์นิทีนต้านความลาดเชิงความเข้มข้น เมื่อ แทนที่โซเดียมภายในรูท่อพักเชื้ออสุจิด้วยเอ็น-เมทิลดีกลูคาร์มีนหรือโคลีน พบว่า การหลั่งคาร์นิ ทีนไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น เมื่อใส่อะซีทิล แอล-คาร์นิทีนที่มีความเข้มข้น 250 ไมโครโมล่าร์ใน ของเหลวนอกท่อ พบว่าไม่มีผลต่อการหลั่งคาร์นิทีน ในทางกลับกันการเพิ่มความเข้มข้นของแอล- คาร์นิทีนในของเหลวนอกท่อพักเชื้ออสุจิจาก 30 ไมโครโมล่าร์เป็น 500 ไมโครโมล่าร์ สามารถ กระตุ้นอัตราการหลั่งคาร์นิทีนเพิ่มขึ้น 10 เท่า ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการขนส่งคาร์นิทีนผ่าน เซลล์บุท่อพักเชื้ออสุจิต้องการตัวพา ซึ่งคาร์นิทีนเข้าเซลล์ด้วยตัวพาที่มีความชอบจับมากและขนส่ง คาร์นิทีนด้วยอัตราความเร็วสูง ซึ่งอาจเป็นตัวพาซีที 1 (โอซีทีเอ็น 2) และคาร์นิทีนออกจากเซลล์เข้า สู่รูท่อพักเชื้ออสุจิได้อย่างน้อย 3 ทางคือ 1) อาศัยตัวพาซีที 2 ซึ่งในเส้นทางหลัก 2) อาศัยตัวพาที่มี ความชอบจับน้อย แต่ขนส่งคาร์นิทีนด้วยความเร็วสูง และ 3) อาศัยตัวแลกเปลี่ยนคาร์นิทีนกับคาร์นิ ทีน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การหลั่งสารคาร์นิทีนจากท่อพักเชื้ออสุจิส่วนต้นของหนูพุกขาวที่ถูก Perfused ในหลอดทดลอง
Kanokporn Poungpong
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ผลของสารสกัดจากสมุนไพรโมกหลวงต่อเชื้อ entamoeba histolytica ในหลอดทดลอง ผลของน้ำคั้นใบบัวบกสดต่อการหลั่งสารในกระเพาะอาหารหนูขาว ความเป็นพิษต่อเซลล์ในหลอดทดลองและหลไกยับยั้งการเกิดมะเร็งในหนูทดลองของสารสกัดจากเมล็ดมะเกี๋ยง ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดมะเกี๋ยง และผลต่อการเกิดมะเร็งตับหลายขั้นตอนที่เหนี่ยวนำด้วยสารเคมีในหนูขาว ผลของสารสกัดใบรางจืดต่อความเป็นพิษต่อตับและไตที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยแคดเมียมในหนูขาว การศึกษาหน้าที่และการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของโปรตีนสังเคราะห์ส่วนเปลือกของเชื้อ HIV-1 CRF01_AE จากตัวอย่างชนิดเลื่อดและสารคัดหลั่ง ผลของสารสกัดข้าวก่ำต่อระยะเริ่มต้นของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูขาว ผลของสารไพเพอรีนที่มีต่อสารก่อการกลายพันธุ์ที่ขักนำให้เกิดความเสียหายต่อโครโมโซมในเซลล์ไขกระดูกของหนูแรทขาว การขจัดพิษแคดเมียมที่เหนี่ยวนำให้ไตและตับหนูขาวบาดเจ็บด้วยสารสกัดใบรางจืด การยับยั้งการทำงานของเชื้อไวรัสก่อโรคเริมในหลอดทดลองโดยสารสกัดสมุนไพรบางชนิด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก