สืบค้นงานวิจัย
ความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอดและครอบครัว
ปิยฉัตร ปธานราษฎร์ - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: ความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอดและครอบครัว
ชื่อเรื่อง (EN): Women and families needs of support during labor
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปิยฉัตร ปธานราษฎร์
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอดและครอบครัว 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอด 3) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอดและครอบครัว กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้คลอดและครอบครัวที่คลอดในโรงพยาบาลของรัฐบาล ในจังหวัดระยอง จำนวน 400 คู่ แบ่งเป็นโรงพยาบาลที่อนุญาตให้ครอบครัวเข้ามาดูแลผู้คลอดในระยะเจ็บครรภ์ และโรงพยาบาลทที่ไม่อนุญาตให้ครอบครัวเข้ามาดูแลผู้คลอดในระยะเจ็บครรภ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอด มีค่าความเชื่อมั่น .91 และแบบสอบถามความต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนผู้คลอดของครอบครัว มีค่าความเชื่อมั่น .93 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพรรณนา การทดสอบค่าที และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันผลการวิจัยพบว่า1. ผุ้คลอดส่วนใหญ่ (ร้อยละ 81.75) มีความต้องการให้ครอบครัวเข้ามาสนับสนุนในระยะคลอด2. ผู้คลอดมีความต้องการให้ครอบครัวเข้ามาสนับสนุนในระยะคลอดทางด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ระดับสูง ด้านคำแนะนำ ระดับปานกลาง3. ผู้คลอดที่ไม่มีครอบครัวเข้ามาสนับสนุนในระยะคลอดมีความต้องการการสนับสนุนจากครอบครัว แตกต่างจากผู้คลอดที่มีครอบครัวเข้ามาสนับสนุนในระยะคลอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .054. อายุ จำนวนครั้งของการคลอด ไม่มีความสัมพันธ์กับความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .055. ครอบครัวส่วนใหญ่ (ร้อยละ 67.75) มีความต้องการเข้ามาสนับสนุนผู้คลอดในระยะคลอด6. ครอบครัวมีความต้องการเข้ามาสนับสนุนผู้คลอดในระยะคลอดทางด้านร่างกาย ด้านอารมร์-จิตใจ ระดับสูง ด้านคำแนะนำ ระดับปานกลาง7. ครอบครัวที่เข้ามาสนับสนุนในระยะเจ็บครรภ์ มีความต้องการเข้ามาสนับสนุนผู้คลอดในระยะคลอด แตกต่างจากครอบครัวที่ไม่ได้เข้ามาสนับสนุนผู้คลอดในระยะเจ็บครรภ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
บทคัดย่อ (EN): The purposes of this research were to 1) examine needs family support during labor. 2) Identify factor effecting needs of support during labors. 3) To compare the difference of needs of support during labor of women and their families. The sample consisted of 400 pairs of women and their families member, recruited from goverment hospitals in Rayong province. The hospitals were categorized into 2 categories : that allowed family member attending during labor and that did not. The questionnaires about needs of labor support and desires of families support during labor with .91 and .93 reliability level were used. Data were analyzed by Idependent-test and Pearson's Product Moment Correlation Coefficient.The results indicated that1. Eighty-one percents (81.75%) of women needed family support during labor.2. Physical, emotional and psychic needs were at the high level. Where as the information needs was at the moderated level.3. There was a statistically significant (p<.05) differences in the needs of labor support between women with and without family member presented in the delivery room.4. There was no relationship between age of women and numbers of parity and needs for labor support (p<.05)5. Sixty-seven persent (67.75%) of families wanted to support during the labor.6. Family wanted to support in physical, emotion and psychialic at the high level. Where as only want to support in information at the moderate level.7. There was a statistically significant (p<.05) difference in the needs of families attended the labor and did not.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=95&RecId=11489&obj_id=90888
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: การคลอด
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยบูรพา
รายละเอียด: The purposes of this research were to 1) examine needs family support during labor. 2) Identify factor effecting needs of support during labors. 3) To compare the difference of needs of support during labor of women and their families. The sample consisted of 400 pairs of women and their families member, recruited from goverment hospitals in Rayong province. The hospitals were categorized into 2 categories : that allowed family member attending during labor and that did not. The questionnaires about needs of labor support and desires of families support during labor with .91 and .93 reliability level were used. Data were analyzed by Idependent-test and Pearson's Product Moment Correlation Coefficient.The results indicated that1. Eighty-one percents (81.75%) of women needed family support during labor.2. Physical, emotional and psychic needs were at the high level. Where as the information needs was at the moderated level.3. There was a statistically significant (p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความต้องการการสนับสนุนในระยะคลอดของผู้คลอดและครอบครัว
มหาวิทยาลัยบูรพา
2549
ผลของการพยาบาลแบบสนับสนุนประคับประคองในระยะคลอดต่อพฤติกรรม ผลของโปรแกรมการจัดการกับความเจ็บปวดแบบผสมผสานต่อความเจ็บปวดในระยะคลอดระยะเวลาในระยะที่หนึ่งของการคลอดและปร ผลของวิธีเบ่งแบบควบคุมกับวิธีเบ่งแบบธรรมชาติต่อความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดฝีเย็บในระยะหลังคลอดและความพึงพอใจต่อการคลอด ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อตลาดกลางสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ในจังหวัดสมุทรสาคร ปัญหาและความต้องการด้านการผลิตและการตลาดของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ความต้องการในการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นวิชาชีพเกษตรกรรม โครงการศูนย์ศิลาชีพบางไทร ของเยาวชนเกษตรกร ปัจจัยที่มีผลต่อการเป็นสัดหลังคลอดลูกตัวแรกของโคนมลูกผสมพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียนในอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ความสามารถของเทคนิคการสำรวจระยะไกลในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของแนวปะการังในระยะยาวบริเวณเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ความต้องการซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปชนิดเม็ดของผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์พื้นเมืองในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ผลของสารพิโนเซมบรินต่อระยะก่อตัวและระยะส่งเสริมของการเกิดมะเร็งตับในหนูขา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก