สืบค้นงานวิจัย
การปรับปรุงกลิ่นหลังการหุงต้มของข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และพันธุ์พิษณุโลก 2 ให้ใกล้เคียงข้าวขาวดอกมะลิ 105
เหรียญทอง สิงห์จานุสงค์ - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่อง: การปรับปรุงกลิ่นหลังการหุงต้มของข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และพันธุ์พิษณุโลก 2 ให้ใกล้เคียงข้าวขาวดอกมะลิ 105
ชื่อเรื่อง (EN): Improvement of odour after cooking of Chai Nat 1 and Phitsanulok 2 rice to be similar to Khao Dawk Mali 105 rice
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เหรียญทอง สิงห์จานุสงค์
บทคัดย่อ: ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ105 เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากเหนียวนุ่มและ มีกลิ่นหอมของ 2-acety-1-pyrroline (2AP) ในขณะที่ข้าวพันธุ์ชัยนาท1 และพันธุ์พิษณุโลก2 เป็นข้าวไม่มีกลิ่นและปลูกกันมากในภาคเหนือตอนล่าง ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุง กลิ่นหลังการหุงต้มของข้าวพันธุ์ชัยนาท1 และพันธุ์พิษณุโลก2 ให้ใกล้เคียงข้าวขาวดอกมะลิ105 โดยสกัดสาร 2AP จากใบเตย ซึ่งใช้ใบเตยใบที่แก่จัด โดยเก็บใบที่ 4 นับจากยอดลงมา นำมาหั่น เป็นฝอยจำนวน 20 กรัม ผสมกับน้ำ 200 มิลลิลิตร กลั่นนาน 1 ชั่วโมง ซึ่งได้สารสกัดจากใบเตย 120 มิลลิลิตร จากนั้นนำสารสกัดที่ได้ประยุกต์ใช้กับข้วพันธุ์ชัยนาท1และพิษณุโลก2 พบว่า ข้าวพันธุ์ชัยนาท1 ใช้ระยะเวลาในการหุงสุกนาน 24 นาที โดยเติมสารสกัดจากใบเตยปริมาณ 105 มิลลิลิตร เมื่อทำการหุงข้าวผ่านไป 15 นาที และข้าวพันธุ์พิษณุโลก2 ใช้ระยะเวลาในการหุงสุก นาน 19 นาที โดยเดิมสารสกัดจากใบเตยปริมาณ 50 มิลลิลิตร เมื่อทำการหุงข้าวผ่านไป 10 นาที จากนั้นศึกษาสมบัติทางกายภาพ เคมี และเคมีกายภาพของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ105 ชัยนาท1 และพิษณุโลก2 ก่อนการหุงต้ม พบว่ ข้าวทั้งสามพันธุ์มีความยาวเมล็ด 7.08, 7.23 และ 7.69 มิลลิเมตร ตามลำดับ ปริมาณอะไมโลสร้อยละ 15.15, 27.28 และ 26.22 ตามลำดับ ปริมาณ โปรตีนร้อยละ 6.63, 7.83 และ 7.80 ตามลำตับ ความคงตัวของแป้งสุก 94, 41 และ 37 มิลลิเมตร ตามลำดับ จากนั้นศึกษาสมบัติทางกายภาพและเคมี ของข้าวทั้งสามพันธุ์หลังการหุงต้ม พบว่า ข้าวทั้งสามพันธุ์มีความยาวเมล็ด 13.28, 12.78 และ 12.43 มิลิเมตร ตามลำดับ ระยะเวลาการ หุงสุก 15, 24 และ 19 นาที ตามลำดับ ปริมาณโปรตีนร้อยละ 3.07, 3.68 และ 3.71 ตามลำดับ โดยหลังการหุงต้มของข้าวสามพันธุ์ก่อนการเติมสารสกัดจากใบเตยตรวจพบสาร 2AP เฉพาะใน ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ105 แต่ไม่พบในข้าวพันธุ์ชัยนาท1 และพิษณุโลก2 และหลังการเดิมสารสกัด จากใบเตย มีการตรวจพบสาร 2AP ในข้าวทั้งสามพัน จากนั้นศึกษาความเข้มของกลิ่นสารสกัด จากใบเตยนาน 12 ชั่วโมง โดยเก็บข้าวหุงสุกในบรจุภัณฑ์สามชนิดคือ 1) หม้อหุงข้าวโดยเก็บ รักษาที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 30-32 องศาเชลเชียส) 2) ถุงพลาสติกชนิดทนร้อน (PP) โดยเก็บ รักษาที่อุณหภูมิตู้เย็น (ประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส) และ 3) กล่องพลาสติกชนิดเข้าไมโครเวฟ (PET) โดยเก็บรักษาที่อุณหภูมิตู้เย็น (ประมาณ 46 องศาเซลเซียส) พบว่าเมื่อเวลาผ่านไป 12 ชั่วโมง การเก็บรักษาข้าวในหม้อหุงข้าวสามารถช่วยรักษากลิ่นใบเตยที่เหลือในข้าวพันธุ์ ขาวดอกมะลิ105 พิษณุโลก2 และชัยนาท1 คือ ร้อยละ 41.28, 48.61 และ 45.63 ตามลำดับ การเก็บรักษาข้าวในถุงพลาสติกสามารถช่วยรักษากลิ่นใบเตยที่เหลือในข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ105 พิษณุโลก2 และชัยนาท1 คือ ร้อยละ 40.34 , 39.12 และ 44.47 ตามลำดับ และการเก็บรักษาข้าว ในกล่องพลาสติกสามารถช่วยรักษากลิ่นใบเตยที่เหลือในข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ105 พิษณุโลก2 และชัยนาท1 คือ ร้อยละ 42.71, 43.28 และ 41.78 ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Khao Dawk Mali105 was popular rice because its properties after cooking were sticky and soft texture and has aromatic odor from 2-acetyl-1-pyrroline (2AP) while Chai Nat 1 and Phitsanulok2 rice were non aromatic rice and mostly cultivated in the lower part of the north of Thailand. Therefore, the objective of this study was to improve odor after cooking of Chai Nat1 and Phitsanulok2 rice to be similar to Khao Dawk Mali105 rice by utilization of 2AP from pandan leave extract. The leaves were collected from the fourth leaves from the top downward, washed by tap water and cross sectional cut to about 1-2 ml. The 20 g of cut leaves were ground and placed in the round flask. Distilled water of 200 ml was added and the extraction unit was switched on for 1 h. The extract was kept in 120 ml brown vials at room temperature before further analysis. The extract was then applied to Phitsanulok2 and Chai Nat1 rice. In Chai Nat1 rice, cooking time was 24 min. The suitable time and amount of extract adding were 19 min and 105 ml, respectively. In Phitsanulok2 rice, cooking time was 19 min. The suitable time and amount of extract adding were 10 min and 50 ml, respectively. The properties of rice were investigated. The properties before cooking of Khao Dawk Mali105 Phitsanulok2 and Chai Nat1 rice including grain length were 7.08, 7.23 and 7.69 ml, respectively. Amylose contents were 15.15, 27.28 and 26.22%, respectively. Protein contents were 6.63, 7.83 and 7.80%, respectively. Gel consistency were 94, 41 and 37 ml, respectively. The properties after cooking of Khao Dawk Mali105, Philsanulok2 and Chai Nat1 rice consisting of grain length were 13.28, 12.78 and 12.43 ml, respectively. Cooking time were 15, 24 and 19 min, respectively. Protein contents were 3.07, 3.68 and 3.71%, respectively. After cooking of three varieties of rice (non adding extract), 2AP was detected in only Khao Dawk Mali105 but Phitsanulok2 and Chai Nat1. After cooking of three varieties of rice (adding extract) 2AP was detected. The intensity of 2AP was studied for 12 h by storage of cooked rice in three types of package, 1) rice cooker kept at room temperature (30-32 C) 2) plastic bag (PP) kept at refrigerator (0-4*C) 3) microwavable box (PET) kept at refrigerator (04 C). It was found that after 12 h of storage, the cooked rice that kept in rice cooker had pandan odor remained 41.28, 48.61 and 45.63 % for Khao Dawk Mali105, Phitsanulok2 and Chai Nat1 rice, respectively. The cooked rice that kept in plastic bag (PP) had pandan odor remained 40.34, 39.12 and 44.47 % for Khao Dawk Mali105, Phitsanulok2 and Chai Nat1 rice, respectively. The cooked nice that kept in microwavable box (PET) had pandan odor remained 42.71, 43.28 and 41.78 % for Khao Dawk Mali105, Phitsanulok2 and Chai Nat1 rice, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยนเรศวร
คำสำคัญ: ไพโรลีน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปรับปรุงกลิ่นหลังการหุงต้มของข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และพันธุ์พิษณุโลก 2 ให้ใกล้เคียงข้าวขาวดอกมะลิ 105
มหาวิทยาลัยนเรศวร
30 กันยายน 2552
การปรับปรุงเนื้อสัมผัสหลังการหุงต้มของข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และ พันธุ์พิษณุโลก 2 ให้ใกล้เคียงข้าวขาวดอกมะลิ 105 การรวบรวมข้อมูลข้าวขาวดอกมะลิ 105 พันธุ์กลายเพื่อการขอรับรองพันธุ์ เปรียบเทียบวิธีการตรวจสอบข้าวชนิดอื่นปนในข้าวหอมมะลิโดยวิธีการย้อมสีและวิธีการย้อมด้วยทิงเจอร์ไอโอดีนเพื่อจำแนกเมล็ดพันธุ์ข้าวระหว่างข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105และพันธุ์พิษณุโลก 2 การรวบรวมข้อมูลข้าวขาวดอกมะลิ 105 พันธุ์กลายเพื่อการขอรับรองพันธุ์ (ปีที่ 3) การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวปรับปรุง ราตูฮีเนติ/ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ชัยนาท 1 รุ่น BC4F1 ที่มียีนต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลแบบ Bph3 โดยเทคนิคการคัดเลือกด้วยดีเอ็นเอเครื่องหมาย การรวบยอดยีนต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล 3 ชนิด จากข้าวสายพันธุ์ผสมกลับ BC4F3-4 [(ราตูฮีเนติ/ขาวดอกมะลิ 105) X ชัยนาท 1] และ [(อาบาญ่า/ขาวดอกมะลิ 105) X ชัยนาท 1] การผลิตและการกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ปฏิกิริยาของข้าวสายพันธุ์ลูกผสมกลับ BC4F3-4 ((อาบาญ่า/ขาวดอกมะลิ 105) x ชัยนาท 1) กับแมลงบั่ว ในภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย ปฏิกิริยาของข้าวสายพันธุ์ลูกผสมกลับ BC4F3-4 (ราตูฮีเนติ/ขาวดอกมะลิ 105 X ชัยนาท 1) ต่อเพลี้ยกระโดดหลังขาวในภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย คุณภาพข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในเขตภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก