สืบค้นงานวิจัย
การอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุด Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) โดยใช้วิธีการต่างกัน
สุพัฒน์ กำลังเกื้อ - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุด Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) โดยใช้วิธีการต่างกัน
ชื่อเรื่อง (EN): Nursing of Young Silver Mantis Shrimp Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) by Using Different Methods
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุพัฒน์ กำลังเกื้อ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Supat Gumlunggua
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาอัตราการรอดตายและการเจริญเติบโตของลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดจากระยะ nauplii II ถึงระยะ post larva X (10 วันหลังจากเข้าระยะ post larva ) ด้วยวิธีการใช้วัสดุรองพื้นและวัสดุหลบซ่อนต่างกันโดยจัดเป็น 3 การทดลองๆ ละ 3 ชุดการทดลองๆ ละ 3 ซ้ำ การทดลองที่ 1 ไม่ใช้วัสดุรองพื้นตลอดการทดลองแต่ใช้วัสดุหลบซ่อนต่างกันในถังทดลองอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดจากระยะ nauplii II ถึงระยะ post larva X พบว่าลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดระยะ post larva X ของชุดการทดลองที่ไม่ใช้วัสดุหลบซ่อน ชุดการทดลองที่ใช้สาหร่ายเทียมเป็นวัสดุหลบซ่อนและชุดการทดลองที่ใช้อวนไนลอนทำเป็นก้อนเป็นวัสดุหลบซ่อนมีอัตราการรอดตายเท่ากับ 8.98?0.16, 12.40?1.48 และ 2.48?0.43 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำหนักเฉลี่ยเท่ากับ 0.12?0.02, 0.12?0.02 และ 0.12?0.02 กรัม และความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 1.75?0.18, 1.80?0.16 และ 1.77?0.18 เซนติเมตร ตามลำดับ โดยอัตราการรอดตายของทั้ง 3 ชุดการทดลองมีความแตกต่างกันทางสถิติ (p 0.05) การทดลองที่ 2 ใช้วัสดุรองพื้น (ดินร่วนเหนียวปนทราย) และใช้วัสดุหลบซ่อนต่างกันในถังทดลองอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดจากระยะ nauplii II ถึงระยะ post larva X พบว่าลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดระยะ post larva X ของชุดการทดลองที่ไม่ใช้วัสดุหลบซ่อน ชุดการทดลองที่ใช้สาหร่ายเทียมเป็นวัสดุหลบซ่อนและชุดการทดลองที่ใช้อวนไนลอนทำเป็นก้อนเป็นวัสดุหลบซ่อนมีอัตราการรอดตายเท่ากับ 2.47?0.21, 2.27?0.43 และ 1.67?1.53 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำหนักเฉลี่ยเท่ากับ 0.12?0.02, 0.12?0.02 และ 0.12?0.02 กรัม และความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 1.75?0.16, 1.78?0.17 และ 1.79?0.18 เซนติเมตร ตามลำดับ โดยอัตราการรอดตายของการทดลองที่ไม่ใช้วัสดุหลบซ่อนไม่แตกต่างทางสถิติ (p > 0.05) กับชุดการทดลองที่ใช้สาหร่ายเทียม แต่ทั้ง 2 ชุดการทดลองมีความแตกต่างทางสถิติ (p 0.05) การทดลองที่ 3 ใช้วัสดุหลบซ่อนต่างกันในถังทดลองอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดจากระยะ nauplii II ถึงระยะ post larva X แต่ใช้วัสดุรองพื้น (ดินร่วนเหนียวปนทราย) เมื่อลูกกั้งตั๊กแตนหางจุด ระยะ pseudozoea ระยะหลัง (อายุ 25 วัน) ถึงระยะ post larva X พบว่าลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดระยะ post larva X ของชุดการทดลองที่ไม่ใช้วัสดุหลบซ่อน ชุดการทดลองที่ใช้สาหร่ายเทียมเป็นวัสดุหลบซ่อนและชุดการทดลองที่ใช้อวนไนลอนทำเป็นก้อนเป็นวัสดุหลบซ่อนมีอัตราการรอดตายเท่ากับ 9.30?0.34, 10.22?0.58 และ 7.66?0.41 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำหนักเฉลี่ยเท่ากับ 0.12?0.02, 0.12?0.02 และ 0.12?0.02 กรัม และความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 1.84?0.16, 1.83?0.18 และ 1.80?0.16 เซนติเมตร ตามลำดับ โดยอัตราการรอดตายของทั้ง 3 ชุดการทดลองมีความแตกต่างกันทางสถิติ (p 0.05) ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการใช้สาหร่ายเทียมเป็นวัสดุหลบซ่อนทำให้ลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดมีอัตราการรอดตายสูงขึ้นเนื่องจากสาหร่ายเทียมมีลักษณะคล้ายกับที่หลบซ่อนในธรรมชาติและภายในพวงสาหร่ายเทียมมีช่องว่างพอเหมาะโดยลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดสามารถว่ายน้ำผ่านเข้าออกได้อย่างปลอดภัย การใช้อวนไนลอนที่ทำเป็นก้อนกลมทำให้อัตราการรอดตายต่ำเนื่องจากลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดเข้าไปติดในก้อนอวนและตายในที่สุด การใช้วัสดุรองพื้นในการอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุดจากระยะ nauplii II ถึงระยะ post larva X ไม่ทำให้อัตราการรอดตายเพิ่มขึ้น
บทคัดย่อ (EN): A study on the survival rate and growth of silver mantis shrimp nursed from nauplii II to post larva X stage (10 days after the post larva) has been carried out via using different types of shelters and substrates. The experiments were classified into three categories. Each of them was conducted with three treatments, each of which in three replications. In the first experiment, without using substrates but diverse shelters when nursed from nauplii II to post larva X, it has been found that the silver mantis shrimps from experimental treatments without a shelter , using artificial seaweeds and a ball of nylon net as shelters showed the same survival rates which were 8.98?0.16, 12.40?1.48 and 2.48?0.45 percent. The average weight valued 0.12?0.02, 0.12?0.02 and 0.12?0.02 grams. The average length was 1.75?0.18, 1.80?0.16and 1.77?0.18 centimeter, respectively. The survival rate of all treatments was significantly different (p0.05). The second experiment was conducted by means of using a substrate (Sandy clay loam) and a shelter when nursed from nauplii II to post larva X stage, the result of a treatment without a shelter, an artificial seaweed treatment and a treatment using a ball of nylon net as a shelter showed a percentage of survival rates which were 2.47?0.21, 2.27?0.43 and 1.67?1.53. The average weight values were 0.12?0.02, 0.12?0.02 and 0.12?0.02 grams. The average length was 1.75?0.16, 1.78?0.17 and 1.79?0.18 centimeter, respectively. The survival rate of the without shelter treatment had no significant difference (p>0.05) from the artificial seaweed treatment. However, both of them were significantly different (p0.05). The third experiment, using different type of shelters when nursed from nauplii II to post larva X stage but provided sandy clay loam as a substrates after the silver mantis shrimp larva was in late pseudozoea (25 days from nauplii II stage.) to post larva X stage, the result of the without shelter treatment, the artificial seaweed treatment and the treatment used a ball of nylon net showed survival rates of 9.30?0.34, 10.22?0.58 and 7.66?0.41 percent. The average weight values were 0.12?0.02, 0.12?0.02 and 0.12?0.02 grams. The average length was 1.84?0.16, 1.83?0.18 and 1.80?0.16 centimeter, respectively. The survival rate of all treatments had significant difference (p0.05). The results of the study indicated that artificial seaweed was a shelter for silver mantis shrimp larva, which can increase a survival rate. Since artificial seaweed is similar to a natural shelter and to that where silver mantis shrimp larva could safely swim though. The treatment in which a ball of nylon net was used showed a low survival rate of silver mantis shrimp larvae in the post larva X stage because the larva always dies in the ball. Using the substrate in all experiments from nauplii II to post larva X stage does not increase the survival rate of silver mantis shrimp larva.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: การเจริญเติบโต
คำสำคัญ (EN): growth
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การอนุบาลลูกกั้งตั๊กแตนหางจุด Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) โดยใช้วิธีการต่างกัน
กรมประมง
30 กันยายน 2554
กรมประมง
การอนุบาลกั้งตั๊กแตนหางจุด Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) การเพาะเลี้ยงกั้งตั๊กแตน Harpiosquilla raphidea, Fabricius,1798 ชีววิทยาการสืบพันธุ์ของกั้งตั๊กแตน Harpiosquilla raphidea, Fabricius 1798 ในจังหวัดพังงา การเลี้ยงกั้งตั๊กแตน (Harpiosquilla raphidea Fabricus, 1798) ด้วยอาหารชนิดต่างๆ ผลของอาร์ทีเมียต่อผลผลิต อัตราการรอดตาย และเวลาการพัฒนาเข้าระยะโพสท์ลาร์วาของกั้งตั๊กแตน (Harpiosquilla raphidea Fabricius, 1798) ผลของความเข้มแสงต่อ ผลผลิต อัตราการรอดตาย และ ระยะเวลาการพัฒนาเข้าระยะ Post larva ของกั้งตั๊กแตน (Harpiosquilla raphidea Fabricius, 1798) ผลของความเค็มต่อการเจริญเติบโตและการรอดตายของของกั้งตั๊กแตนหางจุด ( Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) ผลของความเค็มต่อการเจริญเติบโตและการรอดตายของของกั้งตั๊กแตนหางจุด ( Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798) ค่าพารามิเตอร์การเติบโตของกั้งตั๊กแตนชนิด Harpiosquilla raphidea (Fabricus, 1798) บริเวณจังหวัดสตูล ผลของความเป็นด่างและความเค็มของน้ำทะเลต่อการเจริญเติบโตและอัตราการรอดตายของลูกกั้งตั๊กแตนหางจุด Harpiosquilla raphidea (Fabricius, 1798)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก