สืบค้นงานวิจัย
ยางพารากับท้องถิ่น
วิชชุดา วงศ์พานิชย์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
ชื่อเรื่อง: ยางพารากับท้องถิ่น
ชื่อเรื่อง (EN): Rubber Plantation and local community
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิชชุดา วงศ์พานิชย์
บทคัดย่อ: ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของโลก พื้นที่ปลูกยางทั่วโลกร้อยละ 94 อยู่ในเอเชีย ส่วนอีกร้อยละ 4 อยู่ที่แอฟริกา อีกร้อยละ 2 อยู่ที่ละตินอเมริกา ในปี 2552 ปริมาณการผลิตยางของโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 21,770 ล้านตัน เป็นยางธรรมชาติ 9,602 ล้านตัน และยางสังเคราะห์ 12,168 ล่นตันในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 และลดลงในปี 2551-2551 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และฝนตกชุกในแหล่งปลูกยางของประเทศผู้ผลิตยางหลัก เช่นเดียวกับปริมาณการผลิตยางสังเคราะห์ที่ลดลงจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่วนการใช้ยางของโลกมีปริมาณทั้งสิ้น 21,425 ล้านตัน เป็นยางธรรมชาติ 9,547 ล้านตันและยางสังเคราะห์ 11,878 ล้านตัน การใช้ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน คือ ปริมาณใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550 และลดลงในปี 2551-2552 จากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลก นับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ส่งผลต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ก่อนจะฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 (ข้อมูลวิชาการยางพารา,2553) ปริมาณการใช้ยางธรรมชาติของโลกในรอบ 5 ปีตั้งแต่ปี 2548-2552 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2.02 ต่อไป โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2548-2550 และลดลงในปี 2551-2552 กล่าวคือ มีปริมาณการใช้ยางจำนวน 10,154 ล้านตัน ในปี 2551 มาเป็น 9,586 ล้านตันในปี 2552 หรือลดลงร้อยละ 5.59 (ข้อมูลวิชาการยางพารา , 2553) ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อรายได้มวลรวมของประเทศ รองจากข้าวที่สามารถนำเงินตราเข้าประเทศจำนวนมาก จากสภาพการปลูกยางพาราที่มีการปลูกค่อนข้างมากในทางภาคใต้ของประเทศไทย สวนยางพาราในภาคใต้มีอายุค่อนข้างมากจึงได้มีการโค่นยางพาราลงแล้วปรับเปลี่ยนเป็นปาล์มน้ำมันแทน จึงทำให้ปริมาณน้ำยางที่ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การปลูกยางพาราไม่สามารถที่จะผลิตได้ทุกประเทศ จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะขยายพื้นที่ปลูก ปี2552 ประเทศไทยสามารถส่งออกยางพาราออกสู่ตลาดโลกได้ถึง 3,200,000 เมตริกตัน นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันประเทศไทยครองอันดับหนึ่งในการผลิตยางธรรมชาติของโลก มีพื้นที่ปลูกทั้งหมดทั่วประเทศถึง 16.74 ล้านไร่ ซึ่งมากที่สุดในโลก (สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ,2553 )นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ที่ประเทศไทยเริ่มมีการปลูกยางพาราเป็นครั้งแรก และมีการขยายพื้นที่ปลูกอย่างแพร่หลาย จนเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และครองความเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกยางธรรมชาติของโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 ปัจจุบันไทยยังเป็นผู้นำในการผลิต และส่งออกยางธรรมชาติมากที่สุดของโลก ด้วยปริมาณการผลิต 3.16 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 32.91 ของปริมาณการผลิตยางธรรมชาติของโลกซึ่งมีปริมาณ 6.882 ล้านตัน มีพื้นที่ปลูกยางทั้งสิ้น 16.89 ล้านไร่ ภาคใต้มีพื้นที่ปลูกยางมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกรวมภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ(ข้อมูลวิชาการยางพารา,2553) ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกยางธรรมชาติมากที่สุดในโลก ปริมาณการส่งออกยางพาราไทยเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2552 ปริมาณการส่งออกไทยมีทั้งสิ้น 2,726,193 ตันเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีปริมาณส่งออก 2,632,398 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.56 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกยางร้อยละ 36.61 (ข้อมูลวิชาการยางพารา , 2553) แม้ว่าไทยจะเป็นผู้ผลิต และส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ประสิทธิภาพทั้งทางด้านการผลิต และการตลาดยางธรรมชาติของไทย ได้รับการพัฒนามาเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ยังไม่เป็นผู้นำด้านคุณภาพอย่างแท้จริง ดังนั้นการปลูกยางพาราจึงต้องอาศัยเทคนิคหลักวิชาการต่าง ๆ มาช่วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และคุ้มค่าทางเศรษฐกิจการใช้ยางธรรมชาติในประเทศไทยปี 2552 มีจำนวน 399,415 ตันเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ซึ่งมีปริมาณการใช้ 334,649 ตัน ร้อยละ 19.35 เมื่อพิจารณาชนิดของยางที่ใช้ในประเทศปี 2552 พบว่าส่วนใหญ่เป็นยางแผ่นรมควัน รองลงมาเป็นยางน้ำข้น ยางแท่งเอสทีอาร์ และยางแผ่นผึ่งแห้งตามลำดับ โดยอุตสาหกรรมผลิตยางยานพาหนะ เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ยางมากที่สุด รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมผลิตยางยืด ถุงมือยาง ยางรัด สำหรับพื้นที่ปลูกยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีประมาณ 7 แสนไร่ โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีพื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุด คือ 178,331 ไร่ รองลงมาคือ จังหวัดศรีสะเกษ 176,096 ไร่และ อุบลราชธานี 168,523 โดยเป็นพื้นที่ที่เริ่มเปิดกรีดน้ำยางได้แล้ว จำนวน 75,956 ไร่ 40,950 ไร่ และ 32,626 ไร่ ตามลำดับ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงกระเกษตรและสหกรณ์ , 2551) สำหรับพื้นที่การปลูกยางพาราในจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนใหญ่ปลูกอยู่ในอำเภอ กันทรลักษ์ และ อำเภอ ขุนหาญ และพบว่ามีพื้นที่ปลูกยางพาราในปี 2551 จำนวน 176,096 ไร่ และพื้นที่กรีดยางพาราในปี 2551 จำนวน 40,950 ไร่ ซึ่งเป็นลำดับที่ 2 รองมาจากจังหวัดบุรีรัมย์(สารสนเทศส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร,2551) จะเห็นได้ว่าแนวโน้มยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามพื้นที่ปลูกยางใหม่เกษตรกรบางส่วนยังขาดความรู้ ความชำนาญใน การผลิต ด้านการปลูก การบำรุงรักษา การทำยางแผ่นที่มีคุณภาพ ตลอดจนการจำหน่ายยางพารา จึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาถึงแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูป และความต้องการของตลาดการตลาด ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ พร้อมทั้งศึกษาปัญหาอุปสรรคของเกษตรผู้ปลูกยางพาราและผู้ประกอบการค้ายางพารา เข้าใจถึงวิถีการผลิตและความมั่นคงทั้งด้านอาหารผ่านยางพาราในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรรายย่อย แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดทั้งเรื่องงบประมาณและระยะเวลา ในเบื้องต้น ทีมงานนักวิจัยจึงเลือกที่จะศึกษาวิถีความต้องการของตลาดยางพาราและห่วงโซ่อุปทานยางพารา เพื่อที่จะได้ข้อมูลเชิงบูรณาการตอบสนองความต้องการด้านการผลิตที่แท้จริงของทุกขั้นตอนและกระบวนการผู้ตามปัจจัย ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งรวมถึงรายได้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละช่องทางเลือกการจำหน่ายยางพารา ข้อมูลที่ได้จะมากำหนดทิศทางการผลิตแผ่นยางพารา , การผลิตน้ำยางคุณภาพและการดูแลรักษาต้นยางพารา ในบริบทวิถียางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อรายได้มวลรวมของจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขจัดปัญหาที่สำคัญของเชิงการผลิตคือการบริหารจัดการ การผลิตเชิงระบบที่ยังมีปริมาณในการตอบสนองไม่คุมค่ากับต้นทุนโดยองค์รวมและที่สำคัญการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของชุมชนจากวิถีข้าวสู่วิถียางพารายังเกิดความแตกต่างนำไปสู่ความสมดุลและนำไปสู่การคลาดเคลื่อนนำไปสู่ประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
คำสำคัญ: น้ำยางพารา
คำสำคัญ (EN): Para
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ยางพารากับท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
30 กันยายน 2557
อิทธิพลของปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีร่วมกับซีโอไลท์ ต่อผลิตยางพารา ผนังอาคารกันกระสุนปืนจากยางพาราและเส้นใยทะลายปาล์มเปล่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นเมืองในเขตลุ่มน้ำโขงตอนล่าง จังหวัดอุบลราชธานี โครงการวิจัยและพัฒนาการนำใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและเศษเหลือทางการเกษตรเป็นอาหารสัตว์ ลดต้นทุนการผลิตเพื่อเศรษฐกิจพอเพียงแก่เกษตรกร แนวทางการใช้องค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านเกษตรกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศึกษาการผลิตและการเก็บรักษาข้าวคั่วสมุนไพร ในระดับอุตสาหกรรมท้องถิ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น ของชุมชนบ้านแก่งเป้า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการศึกษาการกระจายตัวด้วยข้อมูลพิกัดทางภูมิศาสตร์พันธุกรรมและรวบรวมเชื้อพันธุ์ปทุมมาและกระเจียวท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อการอนุรักษ์ บทบาทและการปรับตัวของกลุ่มเหมืองฝายในการจัดการทรัพยากรน้ำในท้องถิ่นต่อการแทรกแซงขององค์การการปกครองส่วนท้องถิ่น การใช้ไส้เดือนน้ำที่พบท้องถิ่นในระบบการผลิตกุ้งก้ามกรามวัยรุ่นขนาด 5-8 เซนติเมตร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก