สืบค้นงานวิจัย
การมีส่วนร่วมของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลน เขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
วิลาศ พร้อมเพรียง - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: การมีส่วนร่วมของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลน เขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิลาศ พร้อมเพรียง
บทคัดย่อ: การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วม ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม และศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลนเขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด การศึกษาค้นคว้าเป็นการศึกษาเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามที่สร้างขึ้นเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างของกาศึกษาค้นคว้า คือ ผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงกุ้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด จำนวนประชากรตัวอย่างทั้งหมด 73 ราย สถิติที่ใช้คือค่าร้อยละและหาความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยใช้ค่าไคส์แควร์ ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า ผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 78.1 มีอายุอยู่ในช่วง 41 - 50 ปี ร้อยละ 50.7 มีอาชีพอื่นนอกเหนือจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ คือ เกษตรกรรมร้อยละ 35.6 ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาคือจบชั้นประถมศึกษา ร้อยละ 61.6 รายได้จากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ระหว่าง 10,001 - 20,000 บาท ร้อยละ 61.6 ระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ระหว่าง 11 - 20 ปี ร้อยละ 37.0 ส่วนการได้รับข่าวสารเกี่ยวกับความรู้และกิจกรรมการอนุรักษ์ป่าชายเลนเช่นการปลูกป่า การดูแลรักษาป่าชายเลนเช่นการปลูกป่า การดูแลรักษาป่า การซ่อมบำรุงป่า และอื่นๆ พบว่า ส่วนใหญ่ได้รับข่าวสารร้อยละ 95.6 แหล่งที่ได้รับข่าวสารเกี่ยวกับความรู้ และกิจกรรมการอนุรักษ์ป่าชายเลน ได้แก่การได้รับข่าวสารจากวิทยุ ร้อยละ 95.9 และการมีส่วนร่วมของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลน พบว่า ผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำมีส่วนร่วมในการปลูกซ่อมบำรุง ชายเลนร้อยละ 32.9 การดูแลรักษาป่าชายเลน ร้อยละ 27.4 และการปลูกป่าชายเลนชุมชน ร้อยละ 24.7 ตามลำดับ ปัญหา อุปสรรคที่พบคือขาดความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่าที่ควรในการประชาสัมพันธ์หรือขอความร่วมมือจากผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าชายเลน ผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำส่วนมากไม่ทราบถึงโทษและมหันต์ภัยของการบุกรุกที่ป่าชายเลน หน่วยงานของรัฐควรปรับปรุงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยให้ความร่วมมือกับประชาชนอย่างจริงจัง ในการศึกษามีการทดสอบสมมติฐาน โดยมีเกณฑ์ในการทดสอบที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 พบว่า เพศ อายุ ระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำ การได้รับข่าวสาร และรายได้ ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าชายเลนต่อการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ส่วนอาชีพอื่นที่นอกจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ระดับการศึกษา และแหล่งที่ได้รับข่าวสาร มีความสัมพันธ์กับกามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าชายเลนต่อการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
บทคัดย่อ (EN): This research aimed at studying the behavior of black shrimp feeders in Trad and their efforts to preserve the coastal forest, the factors that have influenced their behavior, and the process of feeding the black shrimp. The study also sought to share the results of the research with the shrimp feeders. We collected information from seventy-three feeders through questionnaires. The research found that all of the black shrimp feeders in the coastal forests were males between the ages of forty-one and fifty years who had finished primary school. More than 35.6% of them were agriculturists, 35.9% were merchants, 15.1% were fishermen, 9.6% were employees and 6.9% had other careers. More than 50% had a profit from their business between 10,001-20,000 baht, and 37% had lived in the area for approximately eleven to twenty years. Twenty-three point three percent were between the ages of twenty-one thirty or younger, 11% were between thirty-one and forty years of age and 5.5% were older than forty. Ninety-five point six percent had received information about the preservation of the coastal forest such as forest planting, preservation, and forest support from other shrimp feeders (is this who you mean?) , 52.1% received the information from television, 13.7% read the newspaper and 9.6% followed the advice of the authorities. The feeders had the responsibility to preserve the environment, which included supporting the coastal forest, gathering information on how to preserve the area, coordinating with government offices and keeping seeds to plant. The researchers held a conference to plan a coastal forest project that included the participation of the feeders to promote the project with their children of other family members. Currently, the feeders take care of the coastal forest area in several ways. They plant on the King,s birthday, Khaopansa Day and other special days. They participate in the services provided by the government offices to preserve the coastal forest. The support the coastal forest project and inform other people about the penalties of destroying this environment, and they serve on committees t preserve it. The also encourage their children and other family members to keep seeds and join the committees. They work together to solve the environmental problems faced in the coastal forest and examine the best areas for planting. They have meetings to plan projects in the village area where they can offer their opinions and reach a group consensus on solutions for preservation techniques. They conduct follow-up, evaluate the project and report trespassers who are damaging the forest to government officers working in the field. We found that at a .05 level, the relationship between gender, level of education, and officers as a source of information was different from the relationship of participation in preserving the coastal forest.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=95&RecId=14697&obj_id=114496
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: ตราด
คำสำคัญ (EN): 369
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยบูรพา
รายละเอียด: This research aimed at studying the behavior of black shrimp feeders in Trad and their efforts to preserve the coastal forest, the factors that have influenced their behavior, and the process of feeding the black shrimp. The study also sought to share the results of the research with the shrimp feeders. We collected information from seventy-three feeders through questionnaires. The research found that all of the black shrimp feeders in the coastal forests were males between the ages of forty-one and fifty years who had finished primary school. More than 35.6% of them were agriculturists, 35.9% were merchants, 15.1% were fishermen, 9.6% were employees and 6.9% had other careers. More than 50% had a profit from their business between 10,001-20,000 baht, and 37% had lived in the area for approximately eleven to twenty years. Twenty-three point three percent were between the ages of twenty-one thirty or younger, 11% were between thirty-one and forty years of age and 5.5% were older than forty. Ninety-five point six percent had received information about the preservation of the coastal forest such as forest planting, preservation, and forest support from other shrimp feeders (is this who you mean?) , 52.1% received the information from television, 13.7% read the newspaper and 9.6% followed the advice of the authorities. The feeders had the responsibility to preserve the environment, which included supporting the coastal forest, gathering information on how to preserve the area, coordinating with government offices and keeping seeds to plant. The researchers held a conference to plan a coastal forest project that included the participation of the feeders to promote the project with their children of other family members. Currently, the feeders take care of the coastal forest area in several ways. They plant on the King,s birthday, Khaopansa Day and other special days. They participate in the services provided by the government offices to preserve the coastal forest. The support the coastal forest project and inform other people about the penalties of destroying this environment, and they serve on committees t preserve it. The also encourage their children and other family members to keep seeds and join the committees. They work together to solve the environmental problems faced in the coastal forest and examine the best areas for planting. They have meetings to plan projects in the village area where they can offer their opinions and reach a group consensus on solutions for preservation techniques. They conduct follow-up, evaluate the project and report trespassers who are damaging the forest to government officers working in the field. We found that at a .05 level, the relationship between gender, level of education, and officers as a source of information was different from the relationship of participation in preserving the coastal forest.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วิลาศ พร้อมเพรียง. "การมีส่วนร่วมของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลน เขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด". มหาวิทยาลัยบูรพา. 2544

วิลาศ พร้อมเพรียง. "การมีส่วนร่วมของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลน เขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด". มหาวิทยาลัยบูรพา. 2544. Print.



TARR Wordcloud:
การมีส่วนร่วมของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในการอนุรักษ์ป่าชายเลน เขตพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
วิลาศ พร้อมเพรียง
มหาวิทยาลัยบูรพา
2544
ความหลากหลายของทรอสโทไคตริดส์ที่คัดแยกจากใบไม้ป่าชายเลนบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร การศึกษาแนวทางการเลี้ยงกุ้งกุลาดำที่ประสบความสำเร็จของเษตรกร จังหวัดฉะเชิงเทรา การประยุกต์ใช้โพรไบโอติกในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) วิธีการหาความรู้ด้วยตนเองและการนำความรู้ไปใช้ในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) ของเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ผลของปริมาณฟอสฟอรัสในอาหารต่อการเจริญเติบโตของกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) ที่เลี้ยงในบ่อดินระบบความเค็มต่ำ การพัฒนาระบบหมุนเวียนน้ำแบบปิดด้วยการใช้สาหร่ายและตัวกรองชีวภาพในการบำบัดในบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแบบพัฒนา การประเมินผลในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ : ศึกษากรณีโครงการอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ผลของคลอเรลลาและออสซิลาตอเรียต่อ วิบริโอ ฮาวีอาย 1526 ในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ประสิทธิผลของ bronopol ในการยับยั้งเชื้อวิบริโอและความเป็นพิษต่อกุ้งกุลาดำ (Penaeus Mondon) วัยอ่อน การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการเลี้ยงกุ้งกุลาดำด้วยวิธีการใช้สารเคมีและไม่ใช้สารเคมีในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ (ระยะโพสลาวา-ตัวเต็มวัย)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair