สืบค้นงานวิจัย
ความแปรปรวนและศักยภาพของดินที่ใช้ปลูกข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุษา นรสิงห์ - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: ความแปรปรวนและศักยภาพของดินที่ใช้ปลูกข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อเรื่อง (EN): Variability and potential of jasmine rice growing soils in northeast Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อุษา นรสิงห์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Usa Norasing
บทคัดย่อ: การศึกษาความแปรปรวนและศักยภาพทางการเกษตรของชุดดินพิมาย ร้อยเอ็ด ท่าตูม กุลาร้องไห้ อุบล โคราช อ้น เรณู น้ำพอง และศรีสงครามที่ใช้ปลูกข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่า สมบัติดินในแต่ละชุดดินมีความแปรปรวนโดยดินเป็นกรดรุนแรงถึงด่างปานกลาง (pH4.6-7.9) เนื้อดินเป็นทรายจนถึงดินเหนียว ปริมาณอินทรียวัตถุ (0.4-22.0 ก./กก.) ฟอสฟอรัส (0.01-16.35 มก./กก.) และโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (2.9-132 มก./กก.) และความจุแลกเปลี่ยนแคตไอออน (0.5-34.4 เซนติโมล/กก.) อยู่ในเกณฑ์ต่ำมากถึงสูงมาก ดินส่วนใหญ่ไม่พบปัญหาความเค็มยกเว้นชุดดินกุลาร้องไห้ ร้อยเอ็ด และพิมายบางบริเวณ ดินที่ทำการศึกษามีความเหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวเจ้าทั่วไปอยู่ในระดับเหมาะสมปานกลาง (S2) จนถึงไม่ค่อยเหมาะสม (N1) โดยข้อจำกัดที่พบได้แก่ ความเค็ม (x) ลักษณะของเนื้อดินบนที่ค่อนข้างหยาบ (s) และความอุดมสมบรูณ์ต่ำ (n) โดยชุดดินพิมายที่ไม่มีปัญหาความเค็มจะมีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวมากที่สุด แต่ยังคงมีธาตุอาหารไม่เพียงพอ (S2n) ในกรณีของข้าวหอมมะลิพบว่าชั้นความเหมาะสมในแต่ละชุดดินจะเปลี่ยนไปอยู่ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้นแต่ยังคงข้อจำกัดเดิม แต่มีความรุนแรงของปัญหาน้อยกว่า อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถลดความเข้มข้นของเกลือในเขตรากพืชในชุดดินกุลาร้องไห้ และร้อยเอ็ดบางบริเวณไม่สามารถปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตในระดับที่พึงพอใจได้ เช่นเดียวกันกับในชุดดินอุบลที่บางบริเวณมีเนื้อดินบนเป็นทราย การปลูกข้าวหอมมะลิในดินนี้ จึงมีความเสี่ยงต่อการขาดน้ำเช่นกันหากมีฝนทิ้งช่วง การจัดการดินจึงควรให้ความสำคัญด้านการเพิ่มความสามารถในการกักเก็บความชื้นของดินโดยการเพิ่มวัสดุอินทรีย์ และลดปัญหาความเค็ม และโซเดียมในบางดินโดยการใช้ยิปซัม การใส่ปุ๋ยหมัก และการไถกลบพืชปุ๋ยสดหรือตอซังพืช
บทคัดย่อ (EN): A study on variability and agricultural potential of jasmine rice growing soils in the Northeast was carried out on ten soils series, namely Phimai, Roiet, Tha Tum, Kula Ronghai, Ubon, Khorat, On, Renu, Nam Phong and Si Song Khram soil series. Results reveal that properties of these soils were varied. Soil pH is strongly acid to moderately alkaline (pH 4.6-7.9). Soil texture is sandy to clayey with very low to very high levels of organic matter (0.4-22.0 g/kg), available phosphorus (0.01-16.35 mg/kg) and potassium (2.9-132 mg/kg), and cation exchange capacity (0.5-34.4 cmolc/kg). Most soils have no salinity problem for plant growth except for some areas of Phimai, Roiet and Kula Ronghai soil series. Soil suitability classification for paddy rice production of studied soils varies from moderately suitable (S2) to actually unsuitable but potentially suitable (N1), which the limitations are salinity (x), rather coarse-textured nature of topsoil (s) and low fertility level (n). Phimai soil series with no salinity problems is the most suitable for growing rice but with insufficient plant nutrients (S2n). Considering these soils studied for planting jasmine rice, the suitability class of each soil series is shifted to be in more suitable level. However, the same limitations as in the case of rice in general still remain but with less serious problem. However, Kula Ronghai and Roiet soil series in some areas cannot be used for growing jasmine rice to obtain satisfactory yield due to the severity of salinity and high sodicity that adversely affect jasmine rice. Similarly, growing jasmine rice in Ubon soil series in some areas that has sandy-textured topsoil, can experience water deficit if there is a long drought period during growing season. Therefore, soil management approach should pay more attention on increasing the ability of the soils to store soil moisture by adding some organic materials to the soils and reducing salinity problem and high content of sodium found in the soils by using gypsum, as well as incorporating some compost, green manuring plants or crop residues.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 12
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/agkasetkaj/article/view/252358/172645
คำสำคัญ: แนวทางการจัดการดิน
คำสำคัญ (EN): soil management approach
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความแปรปรวนและศักยภาพของดินที่ใช้ปลูกข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2560
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดขนาดพื้นที่เพาะปลูกข้าวหอมมะลิของเกษตรกรในจังหวัดร้อยเอ็ดและบุรีรัมย์ การศึกษาอัตราและระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ การแบ่งเขตการผลิตร่วมกับการถอดบทเรียนเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิ กรณีศึกษา จังหวัดนครพนม ผลกระทบของความร้อนที่มีต่อคุณภาพข้าวหอมไทย เรณูวิทยาของพืชวงศ์ผักขม (Amaranthaceae) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การพัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์การปลอมปนในข้าวหอมมะลิเปลือกและข้าวหอมมะลิขาวอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคเนียร์อินฟราเรด ศักยภาพการผลิต การตลาดปลาสวยงามในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ศักยภาพพืชน้ำในบึงบอระเพ็ดที่ใช้ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม การเพาะพันธ์ปูแสมเพื่อการอนุรักษ์ และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงคุณภาพดินในพื้นที่ป่าชายเลน จังหวัดสมุทรสงคราม การยอมรับเทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิตามการปฏิบัติเกษตรดีที่เหมาะสมของเกษตรกรในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก