สืบค้นงานวิจัย
โครงการวิจัยการศึกษาศักยภาพการรับไนโตรเจนทางชีวภาพ กลุ่มแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนที่สำคัญและปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนกับอ้อยในอ้อยสายพันธุ์ไทย
กัลยกร โปร่งจันทึก - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการวิจัยการศึกษาศักยภาพการรับไนโตรเจนทางชีวภาพ กลุ่มแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนที่สำคัญและปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนกับอ้อยในอ้อยสายพันธุ์ไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Study on nitrogen derived from biological nitrogen fixing ability, N2-fixing bacterial community structure and interaction between sugar cane and N2-fixing bacteria on commercial sugar cane varieties in Thailand
บทคัดย่อ: ในการผลิตอ้อยพบว่าอ้อยมีการตอบสนองต่อไนโตรเจนในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน จนทำให้ไทยต้องมีต้นทุนในการนำเข้าปุ๋ยเคมีไนโตรเจนเพื่อการผลิตเป็นจำนวนมากในอนาคต จากรายงานการผลิตอ้อยในบราซิลหลังทำการวิจัยประมาณ 15 ปี พบว่ามีพันธุ์อ้อยสายพันธุ์บราซิลบางสายพันธุ์ที่สามารถรับไนโตรเจนจากการตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ ทั้งนี้เพราะความสัมพันธ์กันระหว่างสายพันธุ์อ้อยและชนิดจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในต้นอ้อย วัตถุประสงค์ของการทดลองนี้เพื่อให้ได้สายพันธุ์อ้อยที่มีศักยภาพในการรับไนโตรเจนจากการตรึงไนโตรเจนโดยแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนที่อาศัยอยู่กับอ้อย ทำการศึกษาในอ้อยพันธุ์ไทยที่นิยมปลูก 5 สายพันธุ์ คือ ขอนแก่น 3 อู่ทอง 84-12 สอน.92-11 สอน.88-92 และสอน.95-84 เปรียบเทียบกับอ้อยสายพันธุ์บราซิล Sp70-1284 หญ้าเนเปียร์ปากช่อง อ้อยป่า TH99-132 (Saccharum spontaneum) และหญ้ากินนีสีม่วง โดยศึกษาการเจริญเติบโตในสภาพแปลงไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนเป็นเวลา 2 ปี (อ้อยปลูก และอ้อยตอ 1) ผลการทดลองพบว่า อ้อยสายพันธุ์ไทยมีการเจริญเติบโตค่อนข้างดีและใกล้เคียงกัน ส่วนหญ้าเนเปียร์ปากช่อง และอ้อยป่ามีการเจริญเติบโตดีที่สุด ส่วนการศึกษาการใช้ไนโตรเจนที่ตรึงจากอากาศแบบชีววิธี อ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 และพันธุ์อู่ทอง 84-12 สามารถใช้ไนโตรเจนที่ตรึงจากอากาศแบบชีววิธีได้ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับอ้อยสายพันธุ์บราซิล การศึกษาลักษณะกลุ่มและปริมาณประชากรของแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนในอ้อยพันธุ์ไทยโดยเทคนิค Real-Time PCR ทำการศึกษาในอ้อยพันธุ์ไทยที่นิยมปลูก 5 สายพันธุ์ คือ ขอนแก่น 3 อู่ทอง 84-12 สอน.92-11 สอน.88-92 สอน.95-84 อ้อยสายพันธุ์บราซิล (Sp70-1284) หญ้าเนเปียปากช่อง อ้อยป่าTH99-132 (S. spontaneum) และหญ้ากินนีสีม่วง โดยศึกษาการ Colonization ของแบคทีเรีย ผลการทดลองพบว่า มีการโคโลไนซ์ของแบคทีเรียอย่างน้อย 2 ชนิดในใบและลำต้นอ้อย พบ Gluconacetobacter diazotrophicus ในใบของอ้อยพันธุ์บราซิล พบ Azospirillum brasilense ในลำต้นอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 สอน.92-11 สอน.88-92 สอน.95-84 พันธุ์บราซิล และอ้อยป่า และพบ Herbaspirillum seropedicae ในลำต้นอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 สอน.92-11 สอน.88-92 สอน.95-84 พันธุ์บราซิล อ้อยป่าและหญ้ากินนีสีม่วง นอกจากนี้ยังพบ A. brasilense และ H. seropedicae ในบริเวณ rhizosphere ของอ้อยพันธุ์อู่ทอง 84-12 แต่ไม่พบในลำต้น จึงอาจสรุปได้ว่าลำต้นอ้อยสายพันธุ์อู่ทอง 84-12 ไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของแบคทีเรียดังกล่าว แต่อาจมีระบบที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยบริเวณรากและ rhizosphere ยีน SHR5-receptor-like kinase อยู่ในกลุ่ม Receptor protein kinases (RPKs) เป็นส่วนประกอบของระบบการส่งถ่ายสัญญาณระหว่างเซลล์ ทำให้เซลล์สามารถจดจำ เกิดการปฏิสัมพันธ์ และตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมภายนอกระหว่างเซลล์ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเจริญเติบโต ระบบการต้านทานของพืช และการตอบสนองต่อฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต ซึ่งในอ้อยการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพืชกับแบคทีเรีย endophytic ทำให้ยีน SHR5 เกิดการ down-regulated งานวิจัยนี้จึงได้ศึกษาการแสดงออกของยีน SHR5 ในอ้อยสายพันธุ์ไทยทั้งในสภาพโรงเรือนและสภาพแปลงปลูก ในสภาพโรงเรือนใช้อ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 พบว่า การแสดงออกของยีน SHR5 ในกรรมวิธีที่ 2 การเติมเชื้อ G. diazotrophicus มีค่ามากสุดเท่ากับ 1.82 และกรรมวิธีที่ 6 เติม G. diazotrophicus และ Azospirillum spp. มีการแสดงออกน้อยสุดเท่ากับ 0.31 ซึ่งต่ำกว่าชุดควบคุม แต่ทั้ง 8 กรรมวิธี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีน สำหรับการศึกษาในสภาพแปลงปลูกของอ้อย ได้แก่ พันธุ์ขอนแก่น 3 พันธุ์อู่ทอง 84-12 พันธุ์สอน.92-11 พันธุ์สอน.88-92 พันธุ์สอน.95-84 พันธุ์บราซิล Sp70-1284 พันธุ์ป่า Th99-132 (Saccharum Spontaneum) พันธุ์อู่ทองเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ร่วมกับหญ้าเนเปียร์ และหญ้ากินนีสีม่วง โดยมีพันธุ์ขอนแก่น 3 เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเป็นชุดควบคุม พบว่า การแสดงออกของยีน SbSHR5 เกิดการ up-regulated ในอ้อยพันธุ์ สอน.88-92 และอ้อยพันธุ์สอน.95-84 เมื่ออายุ 2 เดือน และในอ้อยพันธุ์ สอน.95-84 เมื่ออายุ 4 เดือน และทุกกรรมวิธีในสภาพแปลงปลูกมีค่าการแสดงออกมากกว่าค่าควบคุม จากผลการทดลองทั้งหมดทำให้สามารถสรุปได้ว่าอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 เป็นอ้อยสายพันธุ์ไทยที่มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจนจากอากาศโดยชีววิธี โดย A. brasilense และ H. seropedicae ที่อาศัยอยู่ในลำต้นอ้อย
บทคัดย่อ (EN): In production of sugarcane, responding of nitrogen was different in each area make the price of import nitrogen chemical fertilizer raise in the future. Reports from Brazil after researched for 15 years found that some Brazilian sugarcane varieties can obtained nitrogen from Biological Nitrogen Fixation because of the relationship between microorganisms that live in the stem of sugarcane. The purpose of this experiment was study on nitrogen derived from biological nitrogen fixing ability in Thai sugarcane varieties. Five sugarcane varieties were planted (KK3, UT84-12, LK92-11, K88-92 and K95-84) and compared with Brazilian sugarcane varieties (Sp70-1284 and TH99-132 (Saccharum spontaneum)) Napeir Pak Chong 1 (Pennisetum purpureum cv. pakchong1) and purple guinea grass. Grown without nitrogen fertilizer for two years, the results showed that all Thai sugarcane varieties are growing quite well and similar. Napeir Pak Chong 1 and TH99-132 are grown the best. For Biological Nitrogen Fixation ability, KK3 and UT84-12 showing high ability when compared with Brazilian sugarcane varieties. A study on N2-fixing bacterial community structure of Thai sugarcane varieties by Real-Time PCR techniques was done with five commercial Thai varieties (KK3, UT84-12, LK92-11, K88-92 and K95-84) and Brazilian sugarcane varieties (Sp70-1284 and TH99-132 (S. spontaneum)) Napeir Pak Chong 1 (Pennisetum purpureum cv. pakchong1) and purple guinea grass. The study on colonization of bacteria showed that at least two genera of bacteria could colonized the leaves and stems of sugarcane. Gluconacetobacter diazotrophicus was found in leaves of Sp70-1284, Azospirillum brasilense in stems of KK3, LK92-11, K88-92, K95-84 and Sp70-1284 and Herbaspirillum seropedicae in stems of LK92-11, K88-92, K95-84, Sp70-1284 and purple guinea grass. Moreover, A. brasilense and H. seropedicae were found in rhizosphere of UT84-12 but not found in stems. It might be concluded that stem of UT84-12 not conducive to the habitat of the bacteria but may have a system that is conducive to living roots and rhizosphere. SHR5-receptor-like kinase gene belongs to Receptor protein kinases (RPKs) group, is a component of a signal transduction pathway. RPKs allow cells to recognize, interact, and respond to their extracellular environment. These proteins control a wide range of processes, including development, plant defend mechanism and hormone perception. The expression level of SHR5 is down-regulated in sugarcane plants which interacted plant-endophytic bacteria. This research aims to study SHR5 gene expression in Thai sugarcane under the greenhouse and field condition. The sugarcane variety for greenhouse condition is KK 3. The expression level showed maximum 1.82 in treatment inoculated with G. diazotrophicus and the minimum 0.31 in treatment inoculated with G. diazotrophicus and Azospirillum spp. However, all treatments showed no change of expression under greenhouse condition. Results of field condition showed up-regulated of SbSHR5 gene in 2 months of LK92-11 and K88-92 variety, and 4 months of K95-84 variety. Moreover, the expression levels in all treatments of field condition are expressed more than that of the control treatment. All result can conclude that KK3 is Thai sugarcane varieties have a capable of biological nitrogen fixing by A. brasilense and H. seropedicae lived within stems.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th//Search/SearchDetail/292795
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: การตรึงไนโตรเจนทางชีวภาพ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการวิจัยการศึกษาศักยภาพการรับไนโตรเจนทางชีวภาพ กลุ่มแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนที่สำคัญและปฏิกิริยาสัมพันธ์ระหว่างแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนกับอ้อยในอ้อยสายพันธุ์ไทย
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2558
ก้าวใหม่ในการวัดการตรึงไนโตรเจน : การใช้ 15 N ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ การคัดเลือกแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนที่มีประสิทธิภาพสูงจากไร่อ้อย เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การดูดใช้ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ และสัดส่วน N:S ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อยผลผลิตสูง โครงการ : การทดสอบผลผลิตอ้อยโคลนก้าวหน้าในระดับภูมิภาค (อ้อยตอปีที่ 1) ความหลากหลายของแบคทีเรียตรึงไนโตรเจนเอนโดไฟต์ในรากอ้อย และศักยภาพในการพัฒนาเป็นชีวภัณฑ์สำหรับการปลูกอ้อย ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาพันธุ์อ้อย การขยายขนาดการผลิตเชื้อจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนเพื่อนำไปใช้ส่งเสริมการเจริญของอ้อยไร่ การคัดเลือกพันธุ์อ้อยเพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยและคุณภาพอ้อยลูกผสม ชุด CSB10 ขั้นที่ 4 เปรียบเทียบพันธุ์มาตรฐาน ในอ้อยปลูก อ้อยตอ 1 และอ้อยตอ 2 การประเมินสายพันธุ์อ้อยดีเด่นที่มีศักยภาพในแหล่งปลูกอ้อยทั่วประเทศ เฟสที่ 3 (ระยะที่ 1)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก