สืบค้นงานวิจัย
การผลิตก๊าซชีวภาพอย่างต่อเนื่องโดยการตรึงกลุ่มเซลของแบคทีเรียไว้ในเครื่องปฎิกรณ์แบบชั้นกรอง
ทรัพย์ วิถีธรรม - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การผลิตก๊าซชีวภาพอย่างต่อเนื่องโดยการตรึงกลุ่มเซลของแบคทีเรียไว้ในเครื่องปฎิกรณ์แบบชั้นกรอง
ชื่อเรื่อง (EN): A Study of Continuous Production in a Filter Bed Reactor
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ทรัพย์ วิถีธรรม
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำคั้นจากเปลือกสับปะรดอย่างต่อเนื่องโดยการตรึงกลุ่มเซลล์ของแบคทีเรียไว้บนตัวกลางที่หยุดนิ่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางและความสูงเท่ากับ 1/2" * 1/2" ถังหมักที่ใช้ทดลองมี 2 ถังขนาดปริมาตรใช้งาน (working volume) 24 ลิตรเท่ากัน แต่อัตราส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางต่อความสูงของถัง ต่างกันเป็น 1:1 (ถังสั้น) และ1: 4 (ถังยาว) ตามลำดับ จุดประสงค์เพื่อศึกษาผลของเส้นผ่านศูนย์กลางต่อความสูงที่มีอิทธิพลต่อการหมัก และหาสภาวะที่ทำให้ได้ก๊าซชีวภาพสูงสุดโดยที่สามารถลด hydiaulic retention time (HRT) ได้ต่ำสุด การทดลองจะทำการเพิ่มภาระสารอินทรีย์พร้อมกับลด HRT ไปด้วยกัน และลด HRT โดยที่ภาระสารอินทรีย์คงที่ ถังหมักทั้งสองจะให้มีอัตรากวนเท่ากันคือ 1 ลิตรต่อนาทีโดยกวนนาน 1 นาทีในทุกๆ 20 นาที ผลการทดลองพบว่า อัตราการผลิตก๊าซชีวภาพเท่ากันทั้งสองถังคือ 0.5 -0.6 ม.3 /กิโลกรัม COD ที่ป้อน/วัน หรือ1.0 ม3 / ม.3 ของปริมาตรที่ใช้งานของถังหมัก/วัน โดยที่ถังยาวสามารถลด HRT ได้ต่ำสุดเพียง 27.8 วัน ในขณะที่ถังสั้นลด HRT ได้ต่ำสุด 15.9 วัน จากผลการทดลองทั้งหมดพบว่านอกจากถังหมักทั้งจะให้อัตราการผลิตก๊สซชีวภาพเท่ากันแล้ว อัตราการใช้สารอินทรีย์ยังมีค่าใกล้เคียงกันคือ 86 -90% และนอกจากนี้ปริมาณของแบคทีเรียที่เกาะอยู่บนตัวกลางที่วิเคราะห์หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองแล้ว ก็มีปริมาณใกล้เคียงกันอีกด้วย แต่จะแตกต่างกันเฉพาะค่า COD ภายในถังหมัก ซึ่งค่า COD ในถังยาวจะมีค่ามากกว่าในถังสั้นเล็กน้อยผลการทดลองที่ได้นี้แสดงว่า อิทธิพลของเส้นผ่านศูนย์กลางต่อความสูงเมื่อใช้อัตรากวน1ลิตรต่อนาที โดยกวนนาน 1 นาทีในทุกๆ20 นาที มีผลต่อการหมักไม่มากนัก แต่ถ้าพิจารณาถึงเสถียรภาพของระบบแล้ว ถังสั้สามารถลดHRT ได้ต่ำกว่าถังยาว แสดงว่าผลที่แตกต่างกันนี้ อาจจะเนื่องมาจากความว่องไว (active) และชนิดของแบคทีเรียมากกว่าสาเหตุอื่น อย่างไรก็ตามอิทธิพลต่อเส้นผ่านศูนย์กลางต่อความสูงที่มีความเร็วเมื่อใช้อัตรากวนเท่ากันนี้ ข้อมูลยังไม่มากพอที่จะสรุปได้อย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะต้องทำการทดลองเพิ่มเติมอีก แต่สำหรับในเบื้องต้นนี้ถังสั้นน่าที่จะเหมะสมในการนำไปใช้งานต่อไป จากการเปรียบเทียบผลของการทดลองการลด HRT ที่ได้กับระบบหมักแบบครั้งคราวโดยใช้น้ำคั้นจากเปลือกสับปะรดที่ป้อนด้วยอัตราภาระสารอินทรีย์ใกล้เคียงกัน พบว่าอัตราการผลิตก๊าซชีวภาพ/กิโลกรัม COD ที่ป้อน /วัน และอัตราการผลิตก๊าซชีวภาพ/ปริมาตรที่ใช้งานของถังหมัก/วันมีค่าใกล้เคียงกันแต่สามารถ HRT ได้ต่ำกว่าในกรณีของถังหมักแบบครั้งคราว ซึ่งลด HRT ได้เพียง 100 วันเท่านั้นแสดงว่าถังหมักแบบ anaerobic filter ที่ทำการทดลองมีประสิทธิภาพสูงกว่าถังหมักแบบครั้งคราวมาก สำหรับการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น โดยการขยายขนาดถังหมักเป็น1,000 , 4,000 , 7,000 , 10,000 , 15,000 ม.3 ซึ่งถ้าเพิ่มขนาดของถังหมักมากไปกว่านี้ ราคาของกาซชีวภาพที่จุดคุ้มทุนก็ต่ำลงอีกไม่มาก และเมื่อวิเคราะห์รายได้เบื้องต้นของการผลิตกาซชีวภาพโดยใช้น้ำมันดีเซลเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบกับขนาดของถังหมัก พบว่าให้ผลตอบแทนน้ำมันดีเซลในหม้อกำเนิดไอน้ำ น่าที่จะมีความเป็นไปได้สูงและยังสามารถกำจัดของเสียจากโรงงานได้อีกด้วย
บทคัดย่อ (EN): The produc t Lcn of bLogas f'rom liquid squeezed froal pineapple cannery solid waste weze studied utilizing continuous filter bioreactor. The packing material of the bioreactor was 1/2" *1/2" inches rasching ringe .Two reactors of equal volume ( 24 litres ) but of different diameter to length ratios ( 1:1 and 1:4 ) were used in the study. The aims were to investigate the effect of the diameter to length ratio on the biogas productivity and tg. study the effect of the hydraulic retention time ( HRT ) on the stability of the system3 In the initial state of the experiments, the organic ,loading was increased along with the r-educ t Lon of the hydraulic retention time. The fluid inside both bioreactors were cir-culated at the same flow rate ( 1 litre/min. ) for one minute at the intervals of twenty minutes. The biogas production rate of the twc reactors were not signific~ntly differen~ and was. found to fluctuate around 0.5-0.6 o3/ kg COD of feed /day ( apploximately 1 m3/m3 of reactor volume/day). The rate of COD reduction~ wele nearly the same at the values of 86-9C . The only noticeatle different appeared to be the COD values in the reactor fOl which the long reactor showed a somewhut highe~ value. However, the longer reactor was found to be leEs stable. The longer reactor was stable down to the HRT of 27.8 days, while the sborter reactor was stable down to the HRT of 15.9 days. this difference was possibly due to the diffex-ence in types and distibutions of bacteria trapped in the filtered bed. The stability of both reactors wer-e much better than conventional CSTR reactor for which to remain stable HRT at the 8ama loading wal!! greater than 100 days. Preliminary economic analysis fer reactor sizes ranging from i,OOO to 15,000 m3 , were carried out. It was found that for a 7,000 m3 r-eactor the cost of biogas would be 0.86 baht per cubic meter which would be benificial to replace biogas for- fuel oil or die5el fuel in a boiler.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=11782&obj_id=34344
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: เครื่องปฎิกรณ์แบบชั้นกรอง
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: The produc t Lcn of bLogas f'rom liquid squeezed froal pineapple cannery solid waste weze studied utilizing continuous filter bioreactor. The packing material of the bioreactor was 1/2" *1/2" inches rasching ringe .Two reactors of equal volume ( 24 litres ) but of different diameter to length ratios ( 1:1 and 1:4 ) were used in the study. The aims were to investigate the effect of the diameter to length ratio on the biogas productivity and tg. study the effect of the hydraulic retention time ( HRT ) on the stability of the system3 In the initial state of the experiments, the organic ,loading was increased along with the r-educ t Lon of the hydraulic retention time. The fluid inside both bioreactors were cir-culated at the same flow rate ( 1 litre/min. ) for one minute at the intervals of twenty minutes. The biogas production rate of the twc reactors were not signific~ntly differen~ and was. found to fluctuate around 0.5-0.6 o3/ kg COD of feed /day ( apploximately 1 m3/m3 of reactor volume/day). The rate of COD reduction~ wele nearly the same at the values of 86-9C . The only noticeatle different appeared to be the COD values in the reactor fOl which the long reactor showed a somewhut highe~ value. However, the longer reactor was found to be leEs stable. The longer reactor was stable down to the HRT of 27.8 days, while the sborter reactor was stable down to the HRT of 15.9 days. this difference was possibly due to the diffex-ence in types and distibutions of bacteria trapped in the filtered bed. The stability of both reactors wer-e much better than conventional CSTR reactor for which to remain stable HRT at the 8ama loading wal!! greater than 100 days. Preliminary economic analysis fer reactor sizes ranging from i,OOO to 15,000 m3 , were carried out. It was found that for a 7,000 m3 r-eactor the cost of biogas would be 0.86 baht per cubic meter which would be benificial to replace biogas for- fuel oil or die5el fuel in a boiler.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตก๊าซชีวภาพอย่างต่อเนื่องโดยการตรึงกลุ่มเซลของแบคทีเรียไว้ในเครื่องปฎิกรณ์แบบชั้นกรอง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2528
ผลของเวลาเก็บกักต่อการผลิตก๊าซชีวภาพจากต้นข้าวโพดหมัก โดยกระบวนการไร้ออกซิเจนแบบสองขั้นตอน การแยกและการคัดกรองแบคทีเรียที่สามารถผลิตก๊าซไฮโดรเจน การหมักร่วมของขยะเศษอาหารกับกากตะกอนน้ำเสียชุมชนโดยใช้ถังหมักไร้อากาศแบบสองขั้นตอนสำหรับผลิตก๊าซชีวภาพ การย่อยสลายสารไกลโฟเสททางชีวภาพของแบคทีเรียที่แยกได้จากดินในพื้นที่เพาะปลูก การแยกและการคัดกรองจุลินทรีย์เพื่อการผลิตน้ำส้มสายชูจากน้าผึ้ง ศักยภาพในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียผลไม้โดยระบบย่อยสลายทางชีวภาพแบบไร้อากาศ ผลของสารสกัดจากพืชสมุนไพรบางชนิดต่อการเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค แอโรบิคแบคทีเรียที่มีความสัมพันธ์กับทางเดินอาหารส่วนกลางของผึ้งมิ้มและผึ้งหลวง ความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติน้ำเสียอุตสาหกรรมกับระบบการผลิตก๊าซชีวภาพ การปรับปรุงการผลิตก๊าซชีวภาพจากเศษผลไม้โดยการหมักร่วมกับมูลไก่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก