สืบค้นงานวิจัย
การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อพัฒนาแหล่งอาหารของชุมชนในพื้นที่สะลวง อำเภอแม่แตง และอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
วัชรี หาญเมืองใจ - มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อพัฒนาแหล่งอาหารของชุมชนในพื้นที่สะลวง อำเภอแม่แตง และอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Conservation and Sustainnable Use of Biodiversity for Food Bank Development at Saloung Area Mae Tang and Mae Rim District, Chiang Mai Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วัชรี หาญเมืองใจ
บทคัดย่อ: จากการแยกเส้นใขเชื้อราเอคโตไมคอร์ไรซาที่บริโภคได้ให้บริสุทธิ์ของเห็ดป้าทั้ง 13 ชนิด เพื่อศึกษาสภาวะที่หมาะสมต่อการเจริญ ได้แก่ สูตรอาหาร (PDA, MEA, MMN, Hagem และ Gamborg อุณหภูมิ (25, 30 และ 35*C) และความเป็นกรด-ด่าง (pH 5, 6, 7 และ 8) พบว่าสามารถ แขกเส้นใขบริสุทธิ์ของเห็ดตับเต่า Philebopus portentosus LEL-CMRU 004 เห็ดเผาะ Astreaus hygrometricus LEL-CMRU 00S และเห็ดตะไคลขาว Russula delica MIC-CMRU 013 ได้ โดย สภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเส้นใเชื้อราเอคโตไมคอร์ไรซาจากเห็คตับเด่า ได้แก่ อาหารเพาะลี้ยงสูตร PDA อุณหภูมิ 30 และ 35"C ระดับ pH 5 และ 6 ส่วนเส้นใขเชื้อราเอคโต- ไมคอร์ไรซาจากเห็ดเผาะ อาหารเพาะเลี้ยงสูตร MMN และ MEA ที่อุณหภูมิ 25 และ 30*C ระดับ pH 5 และ 6 เหมาะสมต่อการเจริญของเส้นใข และอาหารเพาะเลี้ยงสูตร MEA เหมาะสมต่อการ เจริญของเสั่นใยของเชื้อราเอคไตไมคอร์ไรซาจากเห็ดตะไคลขาว อุณหภูมิ 3S"C ระดับ pH 8 การเจริญบนอาหารแข็งจากเมล็ดธัญพืช ร ชนิด ได้แก่ เมล็ดข้าวฟาง เมล็ดข้าวโพดเลี้ยง สัตว์เมล็ดข้าวโพดข้าวเหนียว เมล็ดข้าวไร่ และเมล็ดข้าวบาเล่ข์ เพื่อผลิตหัวเชื้อ พบว่าเมล็ดธัญพืช ที่เหมาะสมต่อการผลิตหัวเชื้อมากที่สุด คือ เมล็ดข้าวฟ้าง โคขเส้นใขเชื้อราเอคโตไมคอร์ไรซาจาก เห็ดตับเต่า สามารถเจริญได้บนอาหารแข็งเมล็ดธัญพืชทุกชนิด การเจริญบนเมล็ดข้าวฟ้างเส้นใย เจริญเต็มหลอดทดลองเร็วที่สุด ใช้ระยะเวลา 29 วัน เส้นใขเชื้อราเอก โตไมคอร์ไรซาจากเห็ดเผาะ สามารถเจริญได้บนอาหารแข็งจากเมล็ดข้าวฟ้าง และเมล็ดข้าวไร่ ใช้ระยะเวลา 33 และ 42 วัน ตามลำคับ ส่วนเมล็ดข้าวฟ้างเหมาะสมต่อการเจริญของเส้นใขเชื้อราเอคโตไมคอร์ไร ซาจากเห็ด ตะไคลขาว มากที่สุด ใช้ระยะเวลา 31 วัน และไม่สามารถชักนำให้สร้างดอกเห็ดได้ โดยพบลักษณะ ของเส้นใขที่อัดตัวกันแน่นเป็นตุ่มเล็กๆ ของเชื้อราเอคโตไมคอร์ไรซาจากเห็ดตับเต่าเท่านั้น จากการศึกษาการเข้ารากของเชื้อราเอคโตไมคอร์ไรซาในต้นกล้ำก่อแป้น (Castanopsis diversifolia King.) ในสภาพโรงเรื่อน โดยวิธีการใส่หัวเชื้อจากเมล็ดข้าวฟ้าง พบว่าภายหลังจากการ ใส่หัวเชื้อราเอค โตไมคอร์ไรซาให้กับดันกล้ำก่อแป้นเชื้อราเอก โตไมคอร์ไรซาจากเห็ดตับเต่า เห็ด ผาะ และเห็ดตะไคลขาว สามารถเจริญเข้ารากของต้นกล้ำาก่อแป้นได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) โดยมีเปอร์เซ็นต์การเข้ารากเฉลี่ย 95.49, 97.78 และ 85.68 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การศึกษาการใช้ประโยชน์จากพันธุ์พืชในด้านอาหาร และสมุนไพร ในพื้นที่หมู่บ้านพระ บาท สี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม และบ้านเอียก ตำบลสันป้ายาง อำเภอแม่แตง จังหวัด เชียงใหม่ โดยการจัดเวที่ชาวบ้านเพื่อระดมความคิดในการเสวนา โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) พบว่ามีการใช้ประโยชน์จากพันธุ์พืช จำนวน 235 ชนิด สามารถจำแนก ได้ 92 วงศ์ โดยพบวงศ์ Euphorbiaccac มากที่สุด จำนวน 17 ชนิด รองลงมาเป็น Asteraccae I5 ชนิด และ Papilionaceae จำนวน 14 ชนิด ได้ทำการสรุปพันธุกรรมพืชที่ทั้งสองหมู่บ้านมีการใช้ ประ โยชน์โดยภายในปีที่สอง ไดขนำพืชที่ใช้ประ โยชน์ค้ำานพืชอาหาร และพืชสมุนไพร มาทำการ ราบรามพันธุกรรมพืชที่มีการใช้ประ โยชน์ ในค้านอาหาร สมุนไพร ทำการปลูกเลี้ยง เพื่อปลูกเสริม ในพื้นที่ โดยทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพันธุกรรมพืช ในวงศ์ ขิงข่า (Zingiberaceae) ได้แก่ ไพลเหลือง ไพลดำ และว่านสาวหลง พืชในวงศ์ Asteraceae ได้แก่ หญ้าหวาน และ พืชในวงศ์ Lauraceae ได้แก่ พืชในตระกูลอบเชย (Cimamomum) โดยทำการปลูกเลี้ยงในโรงเรือนเพาะชำ และการใช้เทคนิค การเพาะเลี้ยงเนื้อเชื่อ (plant isue culhure) เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรพืชในพื้นที่ พบว่า ผลของ BA ต่อการเจริญเติบ โตของไพลเหลือง (Zingiber montanun) ไพลคำ (Zingiber ottensi) และขิง (Zingiber officinde) ในสภาพปลอดเชื้อ โดขนำส่วนหน่ออ่อนของไพลเหลือง ไพลดำ และขิงมา ทำการเพาะเลี้ยงบนอาหารสูตร Murashige and Skoog, 1962 ดัดแปลง โดยเดิม BA อัตราส่วน 0, 2.5, 3.0 3.5, และ 4.0 มิลลิกรัมต่อลิตร พบว่าในไพลเหลือง อาหารสูตร Mร ที่เดิม BA ความ เข้มข้น 3.5 และ 30 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถชักนำให้ขึ้นส่วนเนื้อเยื่อไพลเหลืองมีการพัฒนาไป เป็นขอด และมีการเจริญเติบโตสูงสุด คือ 1.50 ยอด ต่อขึ้นส่วนเนื้อเชื่อ และความสูง 4.61 และ 3.43 เซนติเมตรต่อยอด ตามลำดับ ไพลดำพบว่าในอาหารสูตร MS ที่เติม BA ความเข้มข้น 4.0 มิลลิกรัม ต่อลิตร สามารถชักนำให้เกิดจำนวนยอดเฉลี่ยสูงสุดคือ 1.97 ยอดต่อชิ้นส่วนเนื้อเยื่อ และในอาหาร ที่เดิม BA ความเข้มข้น 3.5 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถชักนำให้เกิดความสูงสูงสุด คือ 3.63 เซนติเมตรต่อยอด และในขิงพบว่าในอาหารสูตร MS ที่เดิม BA ความเข้มข้น 3.0 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถชักนำให้เกิดจำนวนยอดเฉลี่ยสูงสุด 1.64 ยอดต่อชิ้นส่วนเนื้อเยื่อ และความสูงเฉลี่ยสูงสุด 3.43 เซนติเมตรต่อยอด การศึกษาเปรียบเทียบผลของ NAA และ BA ต่อการเจริญของแคลลัส โดยนำใบหญ้า หวานมาดัดเนื้อเชื่อเลี้ยงบนอาหารวุ้นสูตร MS ที่เดิมสารควบคุมการเจริญ NAA ร่วมกับ BA ที่ อัตราส่วนความเข้มข้นต่างกัน คือ 0:0, 0:1, 1:0, 1:1, 1:2, 2:1 และ 2:2 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ รวมทั้งหมด 7 ชุดการทคลอง โดยยเลี้ยงทุก 4 สัปดาห์ ตั้งแต่เริ่มเกิดแคลลัส เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เมื่อนำไปวิเคราะห์ผลทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 952 พบว่าทุกชุคการทคลองมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าอาหารวุ้นสูตร MS ที่เดิม NAA 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ BA 2 มิลลิกรัมต่อลิตร สามารถชักนำการเจริญของแคลลัสสูงสุด คือ มีความกว้าง ความยาว และ น้ำหนักของแคลัสสูงสุดเท่ากับ 1.2, 1.5 เซนติเมตร และ 0.035 กรัม ตามลำดับ จากการศึกษา ความหลากหลายของแมลงน้ำในพื้นที่บ้านเอียก ตำบลสันป้ายาง อำเภอ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 5 จุด ระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือน กันยายน พ.ศ. 2552 พบ แมลงน้ำทั้งหมด จำนวน 930 ตัว 37 วงค์ 8 อันดับ และแมลงน้ำที่พบมากที่สุด คือจุดจุด BE 2 พบ 25 วงศ์ 8 อันดับ พบวงส์ Odontoceridae อันคับ Tichopiera (พวกแมลงหนอนปลอกน้ำ)มาก ที่สุด รองลงมาคือ จุด BE 1 พบ 20 วงศ์ 7 อันดับ พบวงศ์ Simulidae (หนอนริ้นดำ) อันดับ Diptera มากที่สุด,จุด BE 3 พบ 10 วงศ์ 5 อันดับ พบวงศ์ Caenidae อันดับ Ephemeroptera (กลุ่ม แมลงชีปะขาว) จุด BE 4 พบ 15 วงศ์ 6 อันดับ พบวงศ์ Odontoceridae อันดับ Trichoptera (แมลง หนอนปลอกน้ำ) และ จุด BE 5 พบ 10 วงศ์ 5 อันดับ พบวงศ์ Baetidae อันดับ Ephemeroptera (กลุ่มแมลงชีปะขาว) มากที่สุด ตามลำดับ ความหลากหลายของแมลงน้ำเพื่อประเมินคุณภาพของน้ำ ทางชีวภาพ ในพื้นที่บ้นสะลวงทั้ง ร จุด โดยใช้การคำนวณค่ ASPT สามารถสรุปได้ว่าคุณภาพ น้ำมีคุณภาพน้ำปานกลาง และปานกลางถึงค่อนข้างดี และค่าดัชนีความหลากหลาย(diversity index) ของแมลงน้ำในพื้นที่บ้านเอียก ทั้ง 5 จุดศึกษา พบว่า จุดที่มีค่คัชนีความหลากหลายสูงสุด คือ จุด BE 4 บริเวณน้ำตกสายหมอก มีค่าเท่ากับ 2..9 รองลงมาคือ จุด BE I, BE 2, BE 3, และ BE 5 ซึ่งมีคำคัชนีความหลากหลายเท่ากับ 2.15, 02, 1.90 และ 1.47 ตามลำดับ จากการศึกษาและการเก็บตัวอย่างผีเสื้อและแมลงปอในพื้นที่ป่าบ้านเอียก ตำบลสันป้ายาง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงเดือนเดือนตุลาคม 2553 เป็นการเก็บแบบสุ่ม ใน 2 ฤดู คือ ฤดูฝน (wet scason)กับฤดูแล้ง (dry season) และช่วงรอยต่อของฤดูฝนและฤดูหนาว เพื่อศึกษาปริมาณและชนิดของแมลง พบผีเสื้อและแมลงปอทั้งหมคทั้งหมด 15 วงศ์ (Family) 109 จีนัส (Genus) และ 141 สปีซีส์ (spcies) ซึ่งในอันดับ Lepidoptera พบว่ามี 3 สกุล 97 ชนิด เป็น ผีเสื้อในวงศ์ ด่าง ๆ 5 วงศ์ คือ ผีเสื้อในวงส์Nymphalidac, L ycaenidae , Hesperidae, Pietidae และ Papilionidae พบได้ว่า ผีเสื้อในวงศ์ Nymphalidae มีการปรากฎฏมากที่สุด รองลงมา คือผีเสื้อใน วงศ์ Lycanidae และมีการปรากฎน้อยที่สุด คือผีเสื้อวงศ์ Hesperidae ในอันดับ Odonata พบ ทั้งหมด 36 สกุล 44 ชนิด เป็นแมลงปอในวงศ์ต่ง 1 10 วงศ์ คือแมลงปอวงศ์ Calopterygidae Chlorocyphidae , Euphaeidae , Coenagrionidae , Platystictidae , Libellulidae , Gomphidae , Aeshnidae , Cordulidae , Platycnemididae พบได้ว่าแมลงปอวงศ์ Libellulidae มีการปรากฎ มากที่สุด รองลงมา คือแมลงปอวงศ์ Cocnagrionidae และมีการปรากฏน้อยที่สุด คือแมลงปอวงศ์ Aeshnidae และแมลงปอวงศ์ Platynemididae ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า จำนวนชนิคของผีเสื้อมากกว่า แมลงปอ ทั้งในฤดูฝนและแล้ง ผีเสื้อและแมลงปอถือเป็นส่วนสำคัญในระบบป่ไม้ ซึ่งมีความสำคัญ มากน้อยแตกต่างกันไปตามชนิคและความถี่ที่พบแต่ละ ชนิคที่แตกต่างกัน ในอันดับ Lepidoptera ฤดูฝนชนิด (spccies) ที่พบมากที่สุด คือ G. harina bumana คือ ผีเสื้อเณรยอดไม้ ชนิดที่พบมาก ได้แก่ x. rbecula คือ ผีเสื้อกาดแสดแถบสั้น ในช่งฤดูแล้งชนิคที่พบมากที่สุด คือ E. hecabe conubemais คือ ผีเสื้อเณรธรรมดา ชนิดที่พบมาก ได้แก่ G. /arina bumana คือผีเสื้อเณรขอดไม้ ในอันดับ Odonata ช่วงฤคูฝนชนิด (specie) ที่พบมากที่สุด "ได้iแก่ B,. comtaminate A. fenestrella คือ แมลงปอบ้านผู้ปีกเปื้อนส้ม แมลงปอเข็มน้ำตกสั้นผู้ดำ ชนิดที่พบมาก ได้แก่ . bjoraia คือ แมลงปอเข็มน้ำตกสั้นวงม่วง ในช่วงฤดูแล้งชนิดที่พบมากที่สุด ได้แก่ B. comtaminata คือ แมลงปอ บ้านผู้ปีกเปื้อนสัม ชนิดที่พบมาก ได้แก่ A. fenesrella และ 4. acira คือ แมลงปอเข็มน้ำตกสั้นผู้ดำ และแมลงปอบ้านขอดฟ้า จากการสำรวจพบผีเสื้อคุ้มครอง 1 ชนิด เป็นการบ่งชี้ถึงความอุคม สมบูรณ์ของพื้นที่ได้เป็นอย่างดื คือพบผีเสื้อถุงทองธรรมดา การเก็บตัวอย่างนก โดยทำการสำรวจตลอดเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อ ระหว่างการเข้าสู่ฤดูหนาว และหมดฤดูฝน โดยในพื้นที่สำรวจจะเป็นป้าหลังหมู่บ้านพระบาท จาก ทุกครั้ง การสำรวจอาทิตย์ละละ 1 ครั้ง พบนกทั้งหมด 107 ชนิด โดยยังพบนกถึง 33 ชนิดที่พบในการสำรวจ การใช้ประโยชน์จากนกและแมลงในการสร้างเป็นเสนทางศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยว เชิงนิเวศ เป็นการส่งเสริมและศึกษาเส้นทางดูนกและแมลง และการ ใช้แมลงเพื่อการติดตาม ตรวจสอบสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไดขแมลงบางชนิด และนกจะนำมา สังเคราะห์ ให้เป็นเอกสาร และคู่มือ ซึ่งสามารถใช้ประกอบในการพัฒนาพื้นที่สะลวงให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ 3 เส้นทางดังนี้ เส้นทางที่ 1 เส้นทางป่าชุมชน บ้นพระบาทสี่รอย ต.สันป้ายาง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (1.8 กิโลเมตร) โดยพบนกที่น่าสนใจดังนี้ เหยี่ยวนกเขาชิครา (4ccipiter: badius) กินปลีหางขาวคอดำ (Aethopyga saturate) ปลีกล้วยเล็ก (Arachnothera longirostra)ปลีกล้วยลาย (Arachmothera magna) แอ่นพง (Artamus fuscus) พบผีเสื้อและแมลงปอทั้งหมดทั้งหมด 15 วงศ์ (Family) 109 จีนัส (Genus)และ 141 ๙ปี ษีส์ (speccies) ซึ่งในอันดับ Lepidoptcra พบว่ามี 3 สกุล 97 ชนิด เป็นผีเสื้อในวงศ์ ต่าง ๆ ร วงศ์ คือ ผีเสื้อในวงศ์ Nymphalidae , Lycaenidae , Pieridae, Pepilionidae และ Hesperidae ตามลำดับ ใน อันดับ Odonata พบทั้งหมด 36 สกุล 44 ชนิด เป็นแมลงปอในวงศ์ต่าง ๆ 10 วงศ์ คือแมลงปอวงศ์ Libellulidae, Coenagrionidae, Calopterygidae , Chlorocyphidae , Euphacidae , Platystictidae , Gomphidac , Cordulidae, Acshnidae , และ Platycncmididae ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังพบจุดเด่น ในพื้นที่คือมีการสำรวจพบผีเสื้อคุ้มครอง 1 ชนิด เป็นการบ่งขี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ได้เป็น อย่างดี คือพบผีเสื้อถุงทองธรรมดา เส้นทางที่ 2 เส้นทางผาแตก บ้านพระบาทสี่รอย ต.สันป้ายาง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (2.5 กิโลเมตร) โดยพบนกที่น่าสนใจดังนี้ นกจับแมลงหัวเทา (Cuicicapa ceylonensis ) คัดคุ้มรกต ( Chrysococcyx maculatus ) กินปลีหางยาวคอคำ (Aethopyga saturate) ปลีกล้วยเล็ก (Arachnothera longirostra) ปลีกล้วยลาย (Arachmothera magna) แอ่นพง (Artamus fuseus) นอกจากนี้เนื่องจาก เป็นพื้นที่ๆ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาสที่หนาวเย็น ดังนั้นจึงมึนกอพยพเข้ามาพัก อาศัยในฤดูหนาวในพื้นที่หลายชนิด ช่น นกเค้าดินสวน (Anihs hodssom) นกจับแมลงคอแดง (Ficedula parva ) นกอีเสือลายเสื่อ (Lanius tigrinus) และ นกอุ้มบาตร (Motacilla alba ) เป็นต้น Vสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การให้มีความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในด้านสิ่งแวคล้อม และคุณค่าของระบบนิเวศ แต่ชุมชนยังขาดเครื่องมือที่จะนำมาใช้ดำเนินการ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
คำสำคัญ: การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
คำสำคัญ (EN): Birds
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อพัฒนาแหล่งอาหารของชุมชนในพื้นที่สะลวง อำเภอแม่แตง และอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
30 กันยายน 2553
การศึกษาความหลากหลายและโครงสร้างของสังคมพืชบริเวณพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โครงการสื่อความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังและพื้นที่ใกล้เคียงทะเลอันดามัน โครงการสื่อความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังและพื้นที่ใกล้เคียงทะเลอันดามัน ความหลากหลายของโปรโตซัวในน้ำเขตอำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร อาหารบำรุงสมอง อนาคตของอาหารโลกอยู่ในมือของคุณ โครงการวิจัยและพัฒนาการฟื้นฟูแหล่งอาหารและความหลากหลายทางชีวภาพของชุมชนบนพื้นที่สูง โครงการวิจัยการฟื้นฟูแหล่งอาหารและความหลากหลายทางชีวภาพของชุมชน การศึกษาสมบัติทางเคมีและกายภาพของยางรักและการใช้ประโยชน์ : พื้นที่ ตำบลสะลวง-ขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การเสริมสร้างมูลค่าของน้ำมันหอมระเหยจากพืชสมุนไพรท้องถิ่น สู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนในชุมชนในพื้นที่สะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก