สืบค้นงานวิจัย
การกำจัดไซยาโนแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษไมโครซิสติส แอรูจิโนซาโดยใช้หอยกาบน้ำจืด
Amornthep Archawakulathep - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การกำจัดไซยาโนแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษไมโครซิสติส แอรูจิโนซาโดยใช้หอยกาบน้ำจืด
ชื่อเรื่อง (EN): Removal of toxic cyanobacterium, Microcystis aeruginosa, by Chamberlainia hainesiana, a freshwater clam
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Amornthep Archawakulathep
บทคัดย่อ: ไซยาโนแบคทีเรียไมโครซิสติส แอรูจิโนซา และสารชีวพิษของมันได้ก่อให้เกิดปัญหาให้แก่แหล่งน้ำ ต่าง ๆ ในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการบำบัดแหล่งน้ำด้วยวิธีทางกายภาพและทางเคมี แต่วิธีการเหล่านี้ยังมีข้อ จำกัด การศึกษาครั้งนี้มุ่งหวังที่จะใช้หอยกาบน้ำจืดซึ่งเป็นหอยที่กรองกินอาหารจากแหล่งน้ำมาใช้ในการ ควบคุมปริมาณไซยาโนแบคทีเรียในสภาวะการทดลองที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ การทดลองครั้งนี้ใช้หอย 3 ขนาดโดยแยกเลี้ยงขนาดละ 36 ตัวในบ่อที่บรรจุน้ำ 800 ลิตร ในระหว่าง การทดลองอุณหภูมิของอากาศ, น้ำ, และค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ในช่อง 23-27 องศาเซลเซียส, 22-26.5 องศา เซลเซียส และ 7.2-8.6 ตามลำดับ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าหอยและกลางสามารถกรองกินเซลล์ไซยาโน แบคทีเรียพิษได้ประมาณร้อยฃะ 90 และ 80 ในเวลา 1 และ 2 วันตามลำดับ หอยขนาดเล็กสามารถกำจัดเซลล์ สาหร่ายได้ประมาณร้อยละ 80 ในวันที่ 4 เช่นเดียวกับกลุ่มควบคุมซึ่งสาหร่ายตายไปเอง ทำการวิเคราะห์สาร ไมโครซิสตินในน้ำและเนื้อหอยด้วยเครื่องไฮเพอร์ ฟอร์มานซ์ลิควิดโครมาโตรกราฟฟี ไม่พบแนวโน้มที่ เพิ่มขึ้นของไมโครซิสติน-แอลอาร์ในน้ำของกลุ่มควบคุม, กลุ่มหอยขนาดกลาง, และกลุ่มหอยขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามปริมาณสารชีวพิษไมโครซิสตินในกลุ่มการทดลองของหอยขนาดเล็กมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นแต่ ไม่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในวันที่ 5 ในการทดลองครั้งนี้ตรวจไม่พบสารพิษไมโคร ซิสตินในเนื้อหอย การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าหอยกาบน้ำจืดสามารถกำจัดเซลล์ไมโครซิสติสในแหล่งน้ำได้ และอัตรา เร็วในการกำจัดขึ้นอยู่กับขนาดของหอยที่นำมาใช้
บทคัดย่อ (EN): C, and 7.2-8.6, respectively. The result showed that approximately 90 and 80 % of the initial cyanobacterial cells were removed in one and two days by large and medium clams, respectively. The small clams could remove approximately 80 percent of cyanobacterial cells in four days, which was the same rate as in removal by the control, group of which the cyanobacterial cells naturally deteriorated in day 4. Microcystin in water and clam meat were analyzed using HPLC. The trend of microcystin-LR concentrations in the water of control, medium-, and large-sized groups was not observed. However, the microcystin-LR concentrations in water of the small group increased, but it was not significantly different from the other groups on day 5. Microcystin-LR in clam meat could not be detected. These findings suggest that the freshwater clam could remove Microcystis cells in water and the rate of cyanobacterial cell reduction depended on the size of the clam.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1681&obj_id=1118
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Mycrocystins
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ไซยาโนแบคทีเรียไมโครซิสติส แอรูจิโนซา และสารชีวพิษของมันได้ก่อให้เกิดปัญหาให้แก่แหล่งน้ำ ต่าง ๆ ในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการบำบัดแหล่งน้ำด้วยวิธีทางกายภาพและทางเคมี แต่วิธีการเหล่านี้ยังมีข้อ จำกัด การศึกษาครั้งนี้มุ่งหวังที่จะใช้หอยกาบน้ำจืดซึ่งเป็นหอยที่กรองกินอาหารจากแหล่งน้ำมาใช้ในการ ควบคุมปริมาณไซยาโนแบคทีเรียในสภาวะการทดลองที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ การทดลองครั้งนี้ใช้หอย 3 ขนาดโดยแยกเลี้ยงขนาดละ 36 ตัวในบ่อที่บรรจุน้ำ 800 ลิตร ในระหว่าง การทดลองอุณหภูมิของอากาศ, น้ำ, และค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ในช่อง 23-27 องศาเซลเซียส, 22-26.5 องศา เซลเซียส และ 7.2-8.6 ตามลำดับ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าหอยและกลางสามารถกรองกินเซลล์ไซยาโน แบคทีเรียพิษได้ประมาณร้อยฃะ 90 และ 80 ในเวลา 1 และ 2 วันตามลำดับ หอยขนาดเล็กสามารถกำจัดเซลล์ สาหร่ายได้ประมาณร้อยละ 80 ในวันที่ 4 เช่นเดียวกับกลุ่มควบคุมซึ่งสาหร่ายตายไปเอง ทำการวิเคราะห์สาร ไมโครซิสตินในน้ำและเนื้อหอยด้วยเครื่องไฮเพอร์ ฟอร์มานซ์ลิควิดโครมาโตรกราฟฟี ไม่พบแนวโน้มที่ เพิ่มขึ้นของไมโครซิสติน-แอลอาร์ในน้ำของกลุ่มควบคุม, กลุ่มหอยขนาดกลาง, และกลุ่มหอยขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามปริมาณสารชีวพิษไมโครซิสตินในกลุ่มการทดลองของหอยขนาดเล็กมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นแต่ ไม่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในวันที่ 5 ในการทดลองครั้งนี้ตรวจไม่พบสารพิษไมโคร ซิสตินในเนื้อหอย การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าหอยกาบน้ำจืดสามารถกำจัดเซลล์ไมโครซิสติสในแหล่งน้ำได้ และอัตรา เร็วในการกำจัดขึ้นอยู่กับขนาดของหอยที่นำมาใช้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Amornthep Archawakulathep. "การกำจัดไซยาโนแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษไมโครซิสติส แอรูจิโนซาโดยใช้หอยกาบน้ำจืดRemoval of toxic cyanobacterium, Microcystis aeruginosa, by Chamberlainia hainesiana, a freshwater clam". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2547

Amornthep Archawakulathep. "การกำจัดไซยาโนแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษไมโครซิสติส แอรูจิโนซาโดยใช้หอยกาบน้ำจืดRemoval of toxic cyanobacterium, Microcystis aeruginosa, by Chamberlainia hainesiana, a freshwater clam". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2547. Print.



TARR Wordcloud:
การกำจัดไซยาโนแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษไมโครซิสติส แอรูจิโนซาโดยใช้หอยกาบน้ำจืด
Amornthep Archawakulathep
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
การตรวจสอบปริมาณไซยาโนแบคทีเรียไมโครซิสติส แอรูจิโนซาและสารชีวพิษขอ ผลิตภาพของปัจจัยการผลิตโดยรวมของการผลิตอ้อยเพื่อใช้ผลิตเอทานอลใน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก การลดเวลานำในการผลิตและงานระหว่างผลิตในการผลิตตู้นิรภัยโดยใช้เทคนิคการผลิตแบบลีน การสะสมสารพิษไมโครซิสตินในน้ำและปลาเศรษฐกิจของกว๊านพะเยา / สภาวะที่เหมาะสมของการกำจัดแคดเมียมและสังกะสีโดยใช้ไซยาโนแบคทีเรีย Hapalosiphon hibernicus. การผลิตถ่านกัมมันต์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและการประยุกต์ใช้ในการกำจัดสีย้อมและโลหะหนักในน้ำ การเตรียมอิมมูโนเจนโดยวิธีการสามวิธีที่ต่างกันเพื่อผลิตโมโนโคลยอลแอยติบอดรต่อโปรตีน CD4 การกำจัดแคดเมียมจากสารละลายโดยใช้ exopolymersที่ผลิตจากแบคที่เรียต้านทานแคดเมียม การศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตเอทานอลขนาดเล็กจากมันสำปะหลังเพื่อใช้ผลิตเป็นแก๊สโซฮอล์ การเคลื่อนย้ายการใช้ปัจจัยการผลิตจากการผลิตขี้โยไปเป็นการผลิตฝิ่น ในเขตปกครองพิเศษ 6 รัฐฉาน ประเทศพม่า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair