สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของผงเชื้อแบคทีเรียปฏิปักษ์ ในการควบคุมโรคถอดฝักดาบของข้าวในแปลงนา
รัศมี ฐิติเกียรติพงศ์ - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของผงเชื้อแบคทีเรียปฏิปักษ์ ในการควบคุมโรคถอดฝักดาบของข้าวในแปลงนา
ชื่อเรื่อง (EN): Efficacy of powder formulation of antagonistic bacteria to control rice bakanae disease in the field
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รัศมี ฐิติเกียรติพงศ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Rasamee Dhitikiattipong
บทคัดย่อ: ทดสอบประสิทธิภาพของผงเชื้อแบคทีเรียปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคถอดฝักดาบของข้าวในแปลงนา ดำเนินการทดลองในนาเกษตรกร อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ในฤดูนาปี 2552 และ 2553 วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 4 ซ้ำ 8 กรรมวิธี ได้แก่ 1.กรรมวิธีควบคุม(control)2.แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-016 3.แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-088 4.แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-102 5.แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-117 6.แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-131 7.น้ำส้มควันไม้ (wood vinegar)8.สารป้องกันกำจัดโรคพืช mancozeb+carbendazim ผลการทดลอง ปี 2552 ไม่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างกรรมวิธีในระยะแตกกอ การใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช mancozeb+carbendazim ให้ผลในการควบคุมโรคดีที่สุด โดยเกิดโรคน้อยที่สุด 8.2 เปอร์เซ็นต์ กรรมวิธีที่ให้ผลดีรองลงมาคือ การใช้แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-131 และ BAK-088 เกิดโรคถอดฝักดาบ 8.9 และ 9.7 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ขณะที่กรรมวิธีควบคุม (control) เกิดโรคสูงกว่า คือ 10.9 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผลผลิตของข้าว พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติเช่นกัน การใช้แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-088 ให้ผลผลิตข้าวสูงสุด 596 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช mancozeb+carbendazim ที่ให้ผลผลิตข้าวต่ำสุด 556 กิโลกรัมต่อไร่ ผลการทดลองในปี 2553 ไม่มีความแตกต่างทางสถิติระหว่างกรรมวิธีในระยะกล้า การใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช mancozeb+ carbendazim เกิดโรคน้อยที่สุด 0.03 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือการใช้แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-016 และ BAK-131 เกิดโรคถอดฝักดาบ 0.31 และ 0.40 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ น้อยกว่ากรรมวิธีควบคุมที่ข้าวเกิดโรค 1.48 เปอร์เซ็นต์ ในระยะแตกกอ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกรรมวิธี การใช้แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-131 เกิดโรคน้อยที่สุด 1.30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่าการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช mancozeb+carbendazim ที่ข้าวเกิดโรค 1.47 เปอร์เซ็นต์ และน้อยกว่ากรรมวิธีควบคุม ที่ข้าวเกิดโรค มากที่สุด 3.87 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผลผลิตของข้าว มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกรรมวิธี พบว่าการใช้แบคทีเรียปฏิปักษ์ BAK-102 ให้ผลผลิตข้าวสูงสุด 647 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช mancozeb+carbendazim และ กรรมวิธีควบคุม ที่ให้ผลผลิต 516 และ 547 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Efficiency of powder formulation of antagonistic bacteria to control rice bakanae disease was studied in farmer field at Amphoe muang-phayao, Phayao Province in wet season 2009 and 2010. The experiment was designed as RCB (Randomized Complete Block) with 4 replications and 8 treatments. The treatments were 1)control treament 2)antagonistic bacteria BAK-016 3)antagonistic bacteria BAK-088 4)antagonistic bacteria BAK-102 5)antagonistic bacteria BAK-117 6)antagonistic bacteria BAK-131 7)wood vinegar and 8) mancozeb+ carbendazim.The result from wet season 2009 found that naturally-infected RD6 seeds bacterized with BAK-131 and BAK-088 had bakanae incidence 8.9% and 9.7%, respectively, comparable to 8.2% of the mancozeb+carbendazim treatment and 10.9% of control treatment. For the other isolates,BAK-102,BAK-016 and BAK-117 had bakanae incidence 12.6%, 12.7% and 12.9%, respectively. For rice yield, treatment of BAK-088 gave the highest of rice yield 596 kilogram per rai more than chemical treatment which gave rice yield 556 kilogram per rai. The result from wet season 2010 revealed that at the seedling stage, rice seed bacterized with BAK-016 and BAK-131 showed bakanae incidence 0.31% and 0.40%, respectively, while the mancozeb+carbendazim and control treatment showed bakanae incidence 0.03% and 1.48%, respectively. At the tillering stage, seed bacterized with BAK-131 showed the most effective to control disease which had bakanae incidence 1.30% less than the mancozeb+carbendazim and control treatment which had bakanae incidence 1.47% and 3.87%, respectively.Treatment of BAK-102 gave the highest rice yield 647 kilogram per rai more than mancozeb+carbendazim and control treatment which gave 516 and 547 kilogram per rai, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://agkb.lib.ku.ac.th/rd/search_detail/result/329704
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
คำสำคัญ: ผลผลิต
คำสำคัญ (EN): Biological control
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมการข้าว
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของผงเชื้อแบคทีเรียปฏิปักษ์ ในการควบคุมโรคถอดฝักดาบของข้าวในแปลงนา
กรมการข้าว
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
กรมการข้าว
สรุปชุดโครงการวิจัย การเฝ้าระวังการดื้อสารต้านจุลชีพของเชื้อแบคทีเรียและการศึกษากลไกทางเภสัชเพื่อกำหนดการใช้สารต้านจุลชีพในสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ปีงบประมาณ 2546 - 2548 การประยุกต์ใช้ไอโซโทปเทคนิคในการศึกษาประสิทธิภาพของการใส่ปุ๋ยเพื่อการปลูก ข้าวในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย โครงการนาพระราชทาน ร้อยกิจการวังพิเศษ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ วังทวีวัฒนา การใช้ปุ๋ยหมักร่วมกับโปรแกรมคำแนะนำการจัดการดินและปุ๋ยรายแปลงในการผลิตข้าวในกลุ่มชุดดินที่ 5 การทดสอบประสิทธิภาพของแบคทีเรียที่ตรึงไนโตรเจนในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าวในสภาพไร่นา การคัดเลือกเชื้อราเอนโดไฟต์จากข้าว (Oryza sativa L.) ที่มีประสิทธิภาพยับยั้งราสาเหตุโรคข้าว การควบคุมการสะสมเกลือในชั้นดินในนาข้าวในพื้นที่ดินเค็ม การบริหารจัดการนาแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าว จังหวัดสุรินทร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการป้องกันและการควบคุมโรคในการเลี้ยงปลานิล การศึกษาแบคทีเรียในกระเพาะรูเมนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อาหารโค
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก