สืบค้นงานวิจัย
ปริมาณสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่คนไทยนิยมบริโภค
Poonsak Boonyoung - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ปริมาณสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่คนไทยนิยมบริโภค
ชื่อเรื่อง (EN): The quantity of specific nutrients related to cardiovascular disease in popular Thai ready to eat food products
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Poonsak Boonyoung
บทคัดย่อ: สัดส่วนและปริมาณของสารอาหารที่ได้รับ มีความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดีและไม่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง ปัจจุบันอาหารพร้อมบริโภคมีบทบาทมากขึ้นในสังคมเมืองซึ่งรีบเร่ง วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยครั้งนี้ เพื่อ ศึกษาปริมาณสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่ คนไทยนิยมบริโภคโดยได้นำตัวอย่างอาหาร 10 ชนิด มาวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการและการคำนวณด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยได้มีการวิเคราะห์ปริมาณพลังงานและสารอาหาร ได้แก่ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, ใยอาหาร, โซเดียม, กรดไขมัน,คอเลสเตอรอล,วิตามิน เอ, วิตามิน ซี และ วิตามิน อี และ เปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้ง 2 วิธี ด้วย ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารที่ได้จากวิธีการวิเคราะห์ทาง ห้องปฏิบัติการในตัวอย่างอาหารกับ Thai RDI, DASH และ NCEP พบว่าอาหารทุกชนิดมีปริมาณพลังงาน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน และการกระจายพลังงานอย่างเหมาะสม ข้าวปลาหมึกผัดฉ่าและข้าวหมูกระเทียม พริกไทยมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูงกว่าปริมาณที่แนะนำ (223.43 มก./กล่อง และ 145.56 มก./กล่อง) ตามลำดับ สำหรับข้าวหน้าไก่น้ำมันหอยและข้าวปลาหมึกผัดฉ่า มีปริมาณโซเดียมซึ่งมีปริมาณที่สูงกว่าที่แนะนำ ( 881.7 มก./ กล่อง และ 877.4 มก./กล่อง) ตามลำดับ ส่วนปริมาณใยอาหารและวิตามินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระมีปริมาณ ต่ำกว่าที่แนะนำไว้ในทุกชนิดอาหาร และสัดส่วนของกรดไขมันไม่มีความเหมาะสมโดยมีสัดส่วนของไขมันอิ่มตัว สูงในทุกชนิดอาหารเช่นกัน การเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้งสองวิธีแสดงให้เห็นว่า ค่าเฉลี่ยของไขมัน, ใยอาหารและวิตามินเอโดยการคำนวณและการวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการไม่มีความแตกต่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนค่าเฉลี่ยของพลังงาน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีนและวิตามินซี มีความแตกต่างอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.05) ผู้บริโภคควรตระหนักในเรื่องของสัดส่วนของบริโภคอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะ การเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้จะช่วยทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อันจะนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี
บทคัดย่อ (EN): The quantity and proportion of nutrient intake is important for health. Currently, the eating style of Thais has changed due to the increased hurried pace of living. Therefore, ready to eat food products are playing a bigger role. Thus, the objectives of this study are to analyze the nutrients related to cardiovascular disease in 10 popular Thai ready to eat food products. The quantity of energy and nutrients such as carbohydrate, protein, total fat, dietary fiber, sodium, fatty acid profile, cholesterol, vitamin A, C and E were analyzed. The Thai ready to eat food products were analyzed by laboratory analysis method and calculation method. The results from the two methods were compared. Moreover, the quantity of nutrients by laboratory analysis were compared with Thai RDI ,DASH and NCEP per meal showed that all of the Thai ready to eat food products in this study were identified as having appropriate quantities of energy, carbohydrate, protein, fat and energy distribution. Cholesterol contents in rice with stir fried spicy squid and rice with garlic and pepper pork were higher than the recommendation (223.43 mg/pack and145.56 mg/pack, respectively). Sodium contents in rice with savory chilli and shrimp paste and rice with stir fried spicy squid were higher than the recommendation (811.7mg/pack and 877.4 per pack, respectively) In this study, all items contained low dietary fiber and antioxidant vitamins. Fatty acid ratio in all food items was not optimum. The saturated fatty acid proportion was too high. The results indicated that the means of fat, dietary fiber and vitamin A by calculation were not significantly different than those by laboratory analysis. However, the means of energy, carbohydrate, protein and vitamin C by calculated were significantly different from those obtained by laboratory analysis (p-value<0.05). Consumer should accrue be aware of food proportion and nutrient intake. Adding vegetables and fruits consumed is advantage for health.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4926&obj_id=3106
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Food Microbiology
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: สัดส่วนและปริมาณของสารอาหารที่ได้รับ มีความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดีและไม่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง ปัจจุบันอาหารพร้อมบริโภคมีบทบาทมากขึ้นในสังคมเมืองซึ่งรีบเร่ง วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยครั้งนี้ เพื่อ ศึกษาปริมาณสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่ คนไทยนิยมบริโภคโดยได้นำตัวอย่างอาหาร 10 ชนิด มาวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการและการคำนวณด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยได้มีการวิเคราะห์ปริมาณพลังงานและสารอาหาร ได้แก่ ปริมาณคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, ใยอาหาร, โซเดียม, กรดไขมัน,คอเลสเตอรอล,วิตามิน เอ, วิตามิน ซี และ วิตามิน อี และ เปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้ง 2 วิธี ด้วย ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารที่ได้จากวิธีการวิเคราะห์ทาง ห้องปฏิบัติการในตัวอย่างอาหารกับ Thai RDI, DASH และ NCEP พบว่าอาหารทุกชนิดมีปริมาณพลังงาน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน และการกระจายพลังงานอย่างเหมาะสม ข้าวปลาหมึกผัดฉ่าและข้าวหมูกระเทียม พริกไทยมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูงกว่าปริมาณที่แนะนำ (223.43 มก./กล่อง และ 145.56 มก./กล่อง) ตามลำดับ สำหรับข้าวหน้าไก่น้ำมันหอยและข้าวปลาหมึกผัดฉ่า มีปริมาณโซเดียมซึ่งมีปริมาณที่สูงกว่าที่แนะนำ ( 881.7 มก./ กล่อง และ 877.4 มก./กล่อง) ตามลำดับ ส่วนปริมาณใยอาหารและวิตามินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระมีปริมาณ ต่ำกว่าที่แนะนำไว้ในทุกชนิดอาหาร และสัดส่วนของกรดไขมันไม่มีความเหมาะสมโดยมีสัดส่วนของไขมันอิ่มตัว สูงในทุกชนิดอาหารเช่นกัน การเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้งสองวิธีแสดงให้เห็นว่า ค่าเฉลี่ยของไขมัน, ใยอาหารและวิตามินเอโดยการคำนวณและการวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการไม่มีความแตกต่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนค่าเฉลี่ยของพลังงาน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีนและวิตามินซี มีความแตกต่างอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติ (p-value
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปริมาณสารอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่คนไทยนิยมบริโภค
Poonsak Boonyoung
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
บริโภคนิยมและการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพร : กรณีศึกษาการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานของคนงานโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา จังหวัดระยอง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดหลอดเลือดดำอักเสบจากการได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำส่วนปลาย ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของวัยกลางคนในกรุงเทพมหานคร การประเมินความเสี่ยงเชิงปริมาณของเชื้อ Vibrio parahaemolyticus ในกุ้งแช่แข็งไทย อิทธิพลของอาชีพที่มีต่อการบริโภคดินของคนไทยอายุ 30-50 ปี ในจังหวัดพัทลุง ปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มปริมาณการส่งออกข้าวของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ : ในทัศนะของผู้ส่งออก ฟิล์มที่บริโภคได้สำหรับเคลือบผลิตภัณฑ์ผลไม้สด พัฒนาการนโยบายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย การศึกษาปริมาณเหล็กในผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันและผลเสียในหนู
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก