สืบค้นงานวิจัย
ความหนาแน่นต่อหน่วยพื้นที่ของต้นกาแฟอราบิก้าที่เหมาะสม
นริศ ยิ้มแย้ม - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: ความหนาแน่นต่อหน่วยพื้นที่ของต้นกาแฟอราบิก้าที่เหมาะสม
ชื่อเรื่อง (EN): Appropiate Plant Density per Unit Area of Arabica Coffee
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นริศ ยิ้มแย้ม
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Narit yimyam
บทคัดย่อ: การเปรียบเทียบความหนาแน่นของต้นกาแฟอราบิก้าที่เหมาะสมต่อหน่วยพื้นที่ โดยใช้พันธุ์กาแฟ อราบิก้า 3 สายพันธุ์คือ แคทูร่า (eatura) คาติมอร์ (catimor) และทิปปิก้า (typica) ทำการปลูกที่ความหนาแน่น 3 ระดับคือ 400, 700 และ 1,000 ต้นต่อไร่ หลังจากทำการทดลองเป็นเวลา 5 ปี พบว่า การใช้สายพันธุ์และความหนาแน่นที่แตกต่างกัน จะทำให้สภาพแวดล้อมแตกต่างกันออกไป โดยจะทำให้พลังงานแสงที่ต้นกาแฟได้รับความสัมพันธ์ไปในทางตรงกันข้าม กับความหนาแน่นที่สูงขึ้น ส่วนความชื้นของดินที่ระดับความลึกต่างๆ จะมีความสัมพันธ์ไปในทางเดียวกันกับความหนาแน่น ในด้านการเจริญเติบโตพบว่า สายพันธุ์ทิปปิก้า โดยเฉพาะที่ความหนาแน่น 1,000 ตันต่อไร่ จะให้ความสูงของลำต้นและเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่มที่เพิ่มขึ้นมากกว่าวิธีอื่น ๆ ส่วนจำนวนกิ่งแขนงที่ 1 พบว่าสายพันธุ์แคทูร่าที่ความหนาแน่น 700 ต้นต่อไร่ จะให้มากที่สุด ในขณะที่สายพันธุ์คาติมอร์ที่ความหนาแน่น 1,000 ต้นต่อไร่ จะให้ค่าดัชนีพื้นใบที่มากที่สุด ส่วนขององค์ประกอบของผลผลิต พบว่าสายพันธุ์คาติมอร์ที่ความหนาแน่น 700 ต้นต่อไร่ จะให้สูงที่สุด ทั้งในด้านของจำนวนกิ่งแขนงที่ 1 ที่ให้ผลผลิต จำนวนข้อต่อกิ่ง ผลต่อข้อ และน้ำหนักสุดของกาแฟ 100 ผล แต่น้ำหนักของสารกาแฟที่ได้จาก 100 ผลสดสายพันธุ์ทิปปิก้าที่ความหนาแน่น 400 ต้นต่อไร่ จะให้สูงที่สุด ด้านของน้ำหนักผลผลิตสด และสารกาแฟรวมต่ต้นนั้น พบว่าสายพันธุ์คาร์ติมอร์ที่ความหนาแน่น 700 ต้นต่อไร่ จะให้มากที่สุดถึง 9,207.3 กรัม และ 1,84.5 กรัมตามลำดับ สำหรับในด้านของต้นทุนและผลตอบแทนในแต่ละกรรมวิธี พบว่าทุกสายพันธุ์ที่ความหนาแน่น 1,000 ต้นต่อไร่ จะใช้ต้นทุนสูงที่สุด คือ 55,900 บาทต่อไร่ ส่วนผลตอบแทนสุทธินั้น พบว่าสายพันธุ์คาติมอร์ที่ความหนาแน่น 1,000 ต้นต่อไร่ จะให้ผลตอบแทนสูงสุด คือ 63,134 บาทต่อไร่รองมาได้แก่ สายพันธุ์คาติมอร์ที่ความหนาแน่น 700 ต้นต่อไร่ คือ 60,446 บาทต่อไร่ ส่วนต้นทุนในการผลิตต่อหน่วยต่ำที่สุด คือ กรรมวิธีที่ใช้พันธุ์คาร์ติมอร์ที่ความหนาแน่น 700 ต้นต่อไร่ คือ 32.14 บาทต่อการผลิตสารกาแฟ 1 กิโลกรัม
บทคัดย่อ (EN): This experiment was trailed to find out appropiate density per unit area of 3 arabica coffee cultivars namely: Caturra, Catimor and Typica. Three levels of density were tested; 400, 700 and 1,000 trees/rai. A five-year experimental result shows that cultivars and levels of density affected microclimate. Light intensity was inversely proportional to density, on the other hand, soil moisture content at various depths was directly proportional to density. For coffee growth aspcet; Typica especially at 1,000 trees/rai, showed higher average tree height and canopy diameter when compared to other cultivars and diffent densities. Caturra growing at 700 trees/rai had the hightest number of primary branches. Catimor at 700 trees/rai produced the highest leaf area index. When yield component was taken into consideration, it was found that Catimor at 700 trees/rai had the best performance, i.e. the highest fruiting primary branches, number of nodes/branch, number of fruits/node, and weight of 100 fruits. However, weight of green coffee from 100 fruits was the highest in Typica at 400 trees/rai. Total yield of fruits and green coffee per tree was the highest in Catimor at 700 trees/rai, which were 9,207.3 grams and 1,804.5 grams respectively. Every cultivars at 1,000 tress/rai had the bighest production cost, i.e. 55,900 Baht/rai but when considering the turn over, Catimor at 1,000 trees/rai gave the highest income which was 63, 134 Baht/rai and Catimor at 700 trees/ rai was slightly lower, 60,446 Baht/rai. Finally, unit cost of investment in 700 trees/rai was the lowest which was 32.14 Bath per 1 kg. green coffee.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/joacmu/article/view/247187/169099
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: ระยะปลูก
คำสำคัญ (EN): Plant density
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความหนาแน่นต่อหน่วยพื้นที่ของต้นกาแฟอราบิก้าที่เหมาะสม
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2543
ความสามารถในการแข่งขันของกาแฟอราบิก้าของประเทศไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผลของโพแทสเว๊ยมและแมกนีเซียมต่อความเข้มข้นของธาตุอาหารในใบกาแฟอราบิก้าที่กำลังติดผล โรคเหี่ยวของกาแฟอราบิก้า (Coffea Arabica Linn.) และการทดสอบสารเคมีในการควบคุมโรค รูปแบบและกระบวนการส่งเสริมการปลูกกาแฟอราบิก้าในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง การผลิตน้ำเชื่อมจากข้าวเหนียวด้วยรา พันธุ์และอัตรเมล็ดพันธุ์ข้าวบาร์เลย์ที่เหมาะสมในการปลูกร่วมกับกาแฟในช่วง 1-3 ปีแรก ผลของสภาพความสูงของพื้นที่ที่มีผลต่อคุณภาพกาแฟอราบีก้า ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกกาแฟอราบิก้าบนที่สูง อิทธิพลของ AB ต่อการขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงข้อลำต้นของกาแฟอราบิก้า (Coffee arabica L.) ผลของการให้น้ำต่อการบานของดอก องค์ประกอบผลผลิต และคุณภาพของกาแฟอราบิก้า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก