สืบค้นงานวิจัย
ภาวะการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
ภัสรา ชวประดิษฐ์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: ภาวะการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ภัสรา ชวประดิษฐ์
คำสำคัญ:
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการผลิตกระเจี๊ยบเขียว เพื่อการส่งออกต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ประชากรตัวอย่างที่ทำการศึกษาเป็นเกษตรกรในจังหวัดราชบุรี นครปฐม อ่างทอง และสระบุรี จำนวน 94 ราย รวบรวมข้อมูลโดยใช้ข้อมูลปฐมภูมิจากการสัมภาษณ์เกษตรกร และข้อมูลทุติยภูมิ จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า กระเจี๊ยบเขียวมีพื้นที่ปลูกเพื่อส่งออกรวมประมาณ 1,500 - 2,000 ไร่ต่อปี จังหวัดราชบุรีเป็นแหล่งผลิตใหญ่มีพื้นที่ปลูกร้อยละ 53 ของพื้นที่ปลูกเพื่อส่งออกทั้งหมดสำหรับผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรผู้ปลูกกระเจี๊ยบเขียวมีอายุเฉลี่ย 37 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้ปลูกผักอาชีพ มีประสบการณ์ในการปลูกกระเจี๊ยบเขียว 2-3 ปี ขนาดของพื้นที่ปลูกกระเจี๊ยบเขียวต่อครอบครัวส่วนใหญผลิตไม่เกิน 5 ไร่ ในการผลิตกระเจี๊ยบเขียวเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่เคยวิเคราะห์ดินก่อนการเพาะปลูก เกษตรกรครึ่งหนึ่งปรับปรุงความเป็นกรดของดินโดยใช้ปูนขาว และส่วนใหญ่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยคอกในแปลงปลูก แต่ใช้ในปริมาณน้อยกว่าคำแนะมาก และยังไม่มีความเข้าใจการใช้ที่ถูกต้อง เมล็ดพันธุ์กระเจี๊ยบเขียวผู้ส่งออกนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น และให้เกษตรกรปลูก อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัมต่อไร่ ระยะปลูก 50x50 เซนติเมตร จำนวน 3 ต้นต่อหลุม การให้น้ำส่วนใหญ่ให้น้ำโดยเรือรดน้ำ นอกจากนั้นใช้สายยางรด และมินิสปริงเกอร์ เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ชนิดของปุ๋ยเคมี ได้ถูกต้องและเหมาะกับสภาพพื้นที่ แต่ใช้ในปริมาณมากเกินไป ในด้านการป้องกันและกำจัดศัครูพืช เกษตรกรสามารถป้องกันกำจัดโรคและแมลงได้เป็นบางส่วน และส่วนใหญ่ไม่สามารถวินิจฉัยศัตรูพืช ได้ ผลผลิตต่อไร่ของกระเจี๊ยบเขียวเกษตรกรส่วนใหญ่ผลิตได้ 3-5 ตัน และผลผลิตได้มาตรฐานของผู้ส่งออก ร้อยละ 60-80 ต้นทุนการผลิตกระเจี๊ยบเขียวเท่ากับ 25,285 บาทต่อไร่ โดยมีค่าใช้จ่ายหลักเป็นค่าจ้างแรงงานเก็บเกี่ยว ร้อยละ 48.9 ของต้นทุนทั้งหมด ผลตอบแทนที่ได้รับในรูปของกำไรสุทธิเท่ากับ 22,285 บาทต่อไร่ ต้นทุนต่อหน่วยเท่ากับ 7.3 บาทต่อกิโลกรัม ระบบการตลาดกระเจี๊ยบเขียวเป็นแบบข้อตกลงล่วงหน้า เกษตรกรทุกรายทำสัญญาซื้อ-ขาย และจำหน่ายผลผลิตตามมาตรฐานการรับซื้อ ราคาอยู่ในช่วง 9-14 บาทต่อกิโลกรัม ผลผลิตส่งออกต่างประเทศในรูปฝักสดและแช่แข็ง ภาวะการส่งออกขยายตัวเพิ่มทุกปี โดยอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออก ในช่วงปี 2533-2537 มีอัตราขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 403.3 ต่อปี ปัญหาในการผลิตกระเจี๊ยบเขียวของเกษตรกรที่สำคัญคือ โรคและแมลงศัตรูพืชของกระเจี๊ยบเขียว การขาดแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต และปัญหาในการจัดหาปุ๋ยคอกมาใช้ ตามลำดับ ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้ คือ ควรส่งเสริมให้เกิดกลุ่มผู้ปลูกเฉพาะที่มีเกษตรกร ทักษะในการผลิตและการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง และสม่ำเสมอ โดนเน้นการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องการจัดการดิน การใช้ปุ๋ยและการป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ควรสร้างเสริมความมั่นคงด้านตลาดส่งออก โดยส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์ และการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานเพื่อป้องกันปัญหาพิษตกค้างในผลผลิต
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: ม.ป.ป.
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: ม.ป.ป.
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-SA 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ภาวะการผลิตกระเจี๊ยบเขียว
กรมส่งเสริมการเกษตร
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
ศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพการผลิตและการตลาดกระเจี๊ยบเขียวเพื่อการส่งออก โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตถั่วเหลืองฝักสดเพื่อการส่งออก รายงานผลการศึกษาสภาพการผลิตกระเจี๊ยบเขียวเพื่อส่งออก จังหวัดพิจิตร พัฒนาการผลิตพรรณไม้น้ำปลอดไส้เดือนฝอยศัตรูพืชเพื่อการส่งออก ปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตลำไยนอกฤดูของเกษตรกร จังหวัดเชียงใหม่ ศักยภาพการผลิตและการตลาดผลิตภัณฑ์ยางของกลุ่มเกษตรกรสวนยาง ศักยภาพการผลิตและการตลาดยางเครพของสถาบันเกษตรกร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมการการผลิต ต้นทุน และผลตอบแทนจากการปลูกยางพาราของเกษตรกร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศักยภาพการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกร การทดสอบการผลิตพืชอาหารสัตว์หมักในฟาร์มเกษตรกรรายใหญ่

แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-SA 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก