สืบค้นงานวิจัย
แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งการเกษตรอินทรีย์ เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน : กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอยุธยา และจังหวัดชลบุรี
นาฏสุดา เชมนะสิริ - มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ชื่อเรื่อง: แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งการเกษตรอินทรีย์ เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน : กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอยุธยา และจังหวัดชลบุรี
ชื่อเรื่อง (EN): The Development and Promotion Guidelines of Organic Farmings for Sustainable Tourism : Case in Chiang Mai, Phuket, Ubonratchathani, Ayudthaya, and Chonburi Provinces
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นาฏสุดา เชมนะสิริ
คำสำคัญ:
คำสำคัญ (EN):
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจแหล่งที่ทำการเกษตรอินทรีย์ที่สำคัญ และน่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี 2) สำรวจพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการท่องเที่ยว เชิงเกษตร 3) วิเคราะห์ศักยภาพของแหล่งที่ทำการเกษตรอินทรีย์ในการรองรับการพัฒนา การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และ 4) หาแนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งที่ทำการเกษตรอินทรีย์ เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน วิธีดำเนินการวิจัย โดยการเก็บข้อมูลภาคสนาม การสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม และการสอบถาม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลภาคสนาม แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถามนักท่องเที่ยว แบบประเมินผลการฝึกอบรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแบบประเมินผลการเข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี มีแหล่งที่ทำการเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ และประสบความสำเร็จ พร้อมที่จะได้รับการพัฒนา เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเกษตรอินทรีย์ที่มีศักยภาพในการรองรับการพัฒนาการท่องเที่ยว เชิงเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ในอำเภอพร้าว จังหวัดภูเก็ต ได้แก่ สวนเกษตรไม้ดอกไม้ประดับ ในอำเภอถลาง สำหรับในจังหวัดอุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี ได้แก่ สวนป่าเกษตร สวนเกษตรพอเพียง และแหล่งเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งเกษตรที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ มีวิถีชิวิตทางเกษตรที่แตกต่างจากแหล่งอื่นๆ นักท่องเที่ยวมีความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอยู่ในระดับมาก และมีความคิดเห็นว่าทั้ง 5 จังหวัดนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรที่น่าสนใจอยู่ในระดับมาก มีความสนใจ เข้าเยี่ยมชมอยู่ในระดับมากในแหล่งเกษตรที่มีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การทำนา การทำสวนไม้ผล การปลูกพืชไร่ การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และการเพาะเห็ด กิจกรรมที่ต้องการ ให้มีในการเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในระดับมาก คือ การบรรยายให้ความรู้จากเกษตรกร การจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกร การทำอาหารหรือการรับประทานอาหารที่เป็นผลผลิต ของแหล่งเกษตรนั้นๆ การเข้าร่วมกิจกรรมทางการเกษตร และการพักแรมที่บ้านเกษตรกร จากการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและทดลองปฏิบัติการ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พบว่า ผู้รับการอบรมและผู้เข้าเยี่ยมชม มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก แนวทางในการพัฒนา และส่งเสริมแหล่งการเกษตรอินทรีย์นั้นควรดำเนินการ ตามขั้นตอนที่ทำวิจัย โดยสิ่งที่สำคัญ คือ การพัฒนาไปพร้อมกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจ โดยชาวบ้านไปรับประโยชน์เท่าเทียมกัน การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น และที่สำคัญที่สุด คือ การมีส่วนร่วมของชุมชน
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this study were to : 1) survey the interesting organic farms for tourism in five provinces including Chiangmai, Phuket, Ubonratchathani, Phranakornsiayutthaya and Chonburi 2) study tourists’ behaviors and requirements of agro-tourism area 3) study the potential and qualification of organic farms on being agro-tourism tourist attractions and 4) develop the selected organic farms for sustainable tourism. The population of this study were farmers, groups of farmers’ housewives and tourists. Data was collected through the interview, survey, observation and inquiry. The instruments of the study were semi-structured interviews and questionnaires. The quantitative data were analyzed by descriptive statistics including frequency, percentage, arithmetic mean, mean score and standard deviation. The qualitative data were described in details. The results of the study were as follows : The study showed that there are not many organic farms in Chiangmai, Phuket, Ubonratchathani, Phranakornsiayutthaya and Chonburi which had a high degree of potential and qualification on being agro-tourism tourist attractions. In Chiangmai, the villages in Prao district were qualified to be agro-tourism tourist attractions. In Phuket, organic farm in Thalang district were qualified. In Ubonratchathani, Phranakornsiayutthaya and Chonburi, the qualified organic farms were agro-forestry, green farm and new theory organic farm, respectively. These were because of the unique physical and biological values, technology and agricultural way of life which were different from each other agricultural area. Concerning the tourists’ behaviors and requirements, the study was found that there were varieties of activities such as brief explanation from farmers, participate in agricultural activities, products distribution, fruit tasting and home stay. These activities were accordant with tourists’ requirements. The implementation of training on tourism service and management and practice for being agro-tourism attraction were conducted. The results of this study concerning development of organic farms for sustainable tourism indicated that there should be economic growth together with conservation of local culture and environment. The most important for sustainable tourism is community participation.
วิธีการจ้างทำงานวิจัย: ได้รับทุนวิจัย
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2550-11-01
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2552-10-30
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งการเกษตรอินทรีย์ เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน : กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอยุธยา และจังหวัดชลบุรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
30 ตุลาคม 2552
ศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ ศักยภาพการผลิตสินค้าการเกษตรอินทรีย์สู่มาตรฐานสากล ของ จังหวัดเชียงใหม่ การพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ด้านธุรกิจเกษตรอินทรีย์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนยั่งยืน การพัฒนารูปแบบการจัดการการตลาดของกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน การพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูปสู่การสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ ของจังหวัดเชียงใหม่ แนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างยั่งยืนในกลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ การผลิตเมล็ดผักในระบบเกษตรอินทรีย์ แนวทางการพัฒนาศักยภาพบุคลากรชุมชนด้านการท่องเที่ยวและการบริการใน จังหวัดเชียงใหม่เพื่อรองรับเศรษฐกิจอาเซียน รูปแบบการพัฒนาระบบแปลงเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการทำเกษตรของผู้พิการในจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาระบบโปรแกรมเครื่องมือทางการเงินของกลุ่มเกษตรผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ในจังหวัดเชียงใหม่

แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย (CC BY-NC-ND 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก