สืบค้นงานวิจัย
การใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจัดการดินเค็มพื้นที่ลุ่มน้ำเซบกจังหวัดอำนาจเจริญแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
สุวรรณภา บุญจงรักษ์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจัดการดินเค็มพื้นที่ลุ่มน้ำเซบกจังหวัดอำนาจเจริญแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
ชื่อเรื่อง (EN): Basin salinity management technology development Se-Bok basin in Amnatchareon Province of Farmer participation For sustainable use
บทคัดย่อ: ปีงบประมาณ 2558-2560 กลุ่มวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ดิน สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 4 ได้ศึกษาการใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจัดการดินเค็มพื้นที่ลุ่มน้ำเซบกจังหวัดอำนาจเจริญแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ในพื้นที่อำเภอหัวตะพาน และอำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ประกอบด้วย วัสดุปรับปรุงดิน เช่น ยิปซัม ซิลิคอน ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.12 และปุ๋ยอินทรีย์จากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งฟาร์มสุกร นอกจากนั้นยังมีการใช้วัสดุอินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เช่น แกลบ และถ่านชีวภาพ โดยดำเนินการกับพืชทดลอง 3 ชนิด ได้แก่ ผักหวานป่า หญ้าเนเปียร์ และข้าวหอมมะลิ 105 รวม 3 โครงการวิจัย ดังนี้ 1). การจัดการหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.๑๒ และวัสดุปรับปรุงดินบางชนิด เพื่อปลูกผักหวานป่าในพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็ม 2).ผลของวัสดุอินทรีย์ชนิดต่างๆ ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ในการปรับปรุงดินเค็มเพื่อปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1และ 3). การใช้ยิปซั่ม ซิลิคอน และปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งฟาร์มสุกร ร่วมกับผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดินต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวหอมมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็ม ผลการวิจัยประกอบด้วย ด้านการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน พบว่าการปรับปรุงบำรุงดินด้วยวัสดุชนิดต่างๆ ทั้งที่เป็นวัสดุอินทรีย์ในท้องถิ่น เช่น แกลบ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์จากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งฟาร์มสุกร การใช้วัสดุปรับปรุงดินเช่น ยิปซัม และซิลิคอน รวมไปถึงการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ สูตร พด.12 และถ่านชีวภาพ มีผลทำให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินในแปลงวิจัยต่าง ๆ มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นซึ่งหมายความว่าช่วยลดระดับความเป็นกรดของดินให้น้อยลง มีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชมากขึ้น และช่วยทำให้ปริมาณอินทรียวัตถุในดินเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน สำหรับในด้านการเปลี่ยนแปลงด้านธาตุอาหารหลักในดินพบว่า มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในแปลงวิจัยหญ้าเนเปียร์และแปลงวิจัยข้าวหอมมะลิ 105 ด้านการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช การใส่ถ่านชีวภาพทำให้ผักหวานป่ามีอัตรารอดตายสูงสุดร้อยละ 97.50 แต่การใส่ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 มีความยาวยอดเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 14.77 เซนติเมตร การใส่ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ร่วมกับปุ๋ยคอก อัตรา 1000 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้ผลผลิตรวมหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 มากที่สุดเท่ากับ 47.67 ตันต่อไร่ ซึ่งให้ผลผลิตไม่แตกต่างจากตำรับที่มีการใส่แกลบ และปลูกปอเทือง และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งฟาร์มสุกร อัตรา500 กก./ไร่+ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง ให้ผลผลิตข้าวสูงที่สุด เฉลี่ย 483.66 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งมากกว่าและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับผลผลิตจากตำรับอื่น ๆ ในขณะที่การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งฟาร์มสุกร (ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี) ให้ผลผลิตที่ไม่แตกต่างทางสถิติจากการใช้ซิลิคอนอัตรา 100 กก./ไร่+ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง แต่มีแนวโน้มที่ที่แตกต่างทางสถิติจากการใช้ยิปซัมอัตรา 200กก./ไร่+ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลง สำหรับด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ผักหวานป่าเป็นพืชที่ต้องใช้เวลาปลูกหลายปีจึงไม่มีข้อมูลด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 การใส่ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 อัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยคอกอัตรา 1 ตันต่อไร่ มีรายได้สูงสุด แต่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนหรือกำไรที่สูงสุด การไม่ใส่วัสดุอินทรีย์ มีผลตอบแทนมากที่สุดคือ 13,606 บาทต่อไร่ สำหรับในส่วนของข้าวหอมมะลิ105 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากกากตะกอนบ่อน้ำทิ้งฟาร์มสุกร อัตรา 500 กก./ไร่ (ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี) มีกำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 2,582 บาท/ไร่
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุวรรณภา บุญจงรักษ์. "การใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจัดการดินเค็มพื้นที่ลุ่มน้ำเซบกจังหวัดอำนาจเจริญแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนBasin salinity management technology development Se-Bok basin in Amnatchareon Province of Farmer participation For sustainable use". กรมพัฒนาที่ดิน. 2560

สุวรรณภา บุญจงรักษ์. "การใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจัดการดินเค็มพื้นที่ลุ่มน้ำเซบกจังหวัดอำนาจเจริญแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนBasin salinity management technology development Se-Bok basin in Amnatchareon Province of Farmer participation For sustainable use". กรมพัฒนาที่ดิน. 2560. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินจัดการดินเค็มพื้นที่ลุ่มน้ำเซบกจังหวัดอำนาจเจริญแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
สุวรรณภา บุญจงรักษ์
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2560
การจัดการดินเค็มในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การใช้โสนอัฟริกันร่วมกับปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินต่อผลผลิตข้าวเจ้าพันธุ์ต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำสะแทด ศึกษาการเจริญเติบโตของไม้ยืนต้นทนเค็มภายหลังการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มในพื้นที่ลุ่มน้ำลำสะแทด การเปลี่ยนแปลงการแพร่กระจายคราบเกลือบนผิวดินหลังจากการพัฒนา ดินเค็มแบบบูรณาการในพื้นที่ ตำบลด่านช้าง ตำบลขุนทอง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา การใช้ประโยชน์จากโรงเลี้ยงไหมวัยอ่อนของเกษตรกรในจังหวัดกาฬสินธุ์ ปี 2535-2542 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพัฒนาที่ดินสำหรับปรับปรุงและฟื้นฟูพื้นที่ดินเค็มลุ่มน้ำเซบก อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ แบบเกษตรกรมีส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการเกษตรแบบผสมผสานในจังหวัดอำนาจเจริญ ความสำคัญของปุ๋ยพืชสดกับการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน: กรณีศึกษาในพื้นที่แปลงสาธิตหนองบ่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ทัศนคติ การยอมรับ เศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรในท้องถิ่นต่อการฟื้นฟูระบบนิเวศดินเค็มเพื่อการผลิตพืช การใช้ประโยชน์จากบ่อก๊าซชีวภาพของเกษตรกรในจังหวัดเชียงราย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair