สืบค้นงานวิจัย
การลดการปนเปื้อนของสารหนูในรําข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวและการเก็บกู้สารหนูที่สกัดได้
รองศาสตราจารย์ ดร.มาโนชญ์ สุธีรวัฒนานนท์ - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การลดการปนเปื้อนของสารหนูในรําข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวและการเก็บกู้สารหนูที่สกัดได้
ชื่อเรื่อง (EN): Reduction of arsenic in rice bran and rice products and recovery of extracted arsenic
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รองศาสตราจารย์ ดร.มาโนชญ์ สุธีรวัฒนานนท์
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษากระบวนการลดปริมาณสารหนูปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์รำข้าวให้ ได้ตามมาตรฐาน (i-As < 0.2 mg/kg) และการเก็บกู้สารหนูจากสารละลายเพื่อนำน้ำกลับมาใช้ช้ำ โดย ดำเนินการสำรวจการปนเปื้อนสารหนู (Total Arsenic)ในตัวอย่างข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าวในประเทศไทย (n-55) และศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ อุณหภูมิ, เวลา, ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) รวมถึง การใช้ก๊าซโอโชน, คลื่นอัลตราชาวนด์ และการใช้สาร Chelating agent ที่มีคุณสมบัติในการจับกับโลหะ ได้แก่ สารละลาย EDTA, Citric acid และ Acetic acid ต่อการลดปริมาณสารหนูในรำข้าวเบื้องต้น เพื่อ ออกแบบการทดลองและศึกษาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการสกัดด้วยวิธีพื้นที่ผิวตอบสนอง (response surface methodology, RSM) แบบ Box Behnken desion จากผลการศึกษา พบว่า การเตรียมตัวอย่าง ด้วยสารละลาย Chelating agent 0.01 M EDTA เวลา 60 นาที ด้วยอัตราส่วนสารละลาย 1:9 แล้วนำมา สกัดต่อด้วยสภาวะที่เหมาะสมตามสมการ RSM จาก 3 ปัจจัย ได้แก่ pH(3-5),เวลา (30-90 นาที) และ อัตราส่วนของสารละลาย (1:7-1:21) พบว่า การสกัดตัวอย่างด้วยสารละลาย pH 4.95 เวลา 36.15 นาที และ อัตราส่วน 1 : 20.70 มีประสิทธิภาพการสกัดอยู่ที่ 80.62% ซึ่งสามารถลดสารหนูตกค้างให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน อ้างอิงสหภาพยุโรป โดยจากรายงานวิจัยด้านโลหะหนักส่วนใหญ่ระบุว่า i-As ในข้าวและรำข้าวพบอยู่ในช่วง 50-90% ของปริมาณสารหนูทั้งหมด (Total Arsenic) ดังนั้นปริมาณสารหนูในตัวอย่างเริ่มต้นที่สามารถใช้ กระบวนการสกัดดังกล่าวควรอยู่ที่ประมาณ 1.00 mg/kg (Total As) 1รือ i-As 0.500-0.900 mg/kg uat สารหนูตกค้างในรำข้าวที่ยอมรับได้เมื่อผ่านกระบวนการสกัดอยู่ที่ 0.22222 me/kg (Total As) หรือ i-As 0.1111 - 0.1999 mg/kg อย่างไรก็ตามรำข้าวที่ผ่านการสกัดสารหนูจากกระบวนการดังกล่าวไม่ทำให้เกิดการ สูญเสียทางกายภาพและมีการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางเคมีเพียงบางส่วน เช่น ความชื้น และปริมาณ เถ้า ในขณะที่ปริมาณโปรตีนไฟเบอร์และแป้งไม่มีความแตกต่างจากตัวอย่างเริ่มต้น จึงสามารถใช้รำข้าวที่มี สารหนูต่ำเป็นสารตั้งต้นในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลิตผลพลอยได้ในอุตสาหกรรมข้าว เช่น โปรตีนจากพืชที่ ปราศจากกลูเตน ไฟเบอร์สูง เป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านความปลอดภัยจากโลหะหนักและสารพิษ ปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ที่จะต้องมีการศึกษาในเชิงลึกต่อไป และจากผลการศึกษาเห็นได้ชัดเจนว่าปริมาณน้ำเป็น ปัจจัยสำคัญต่อกระบวนการลดปริมาณสารหนูในตัวอย่าง โดยรำข้าว 100 กิโลกรัม ต้องใช้น้ำมากถึง 5,940 ลิตร หรือประมาณ 59 เท่า จึงจำเป็นต้องมีการศึกษากระบวนการนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำและเก็บกู้สารหนูในสารละลายจากกระบวนการสกัดด้วยระบบอัลตร้าฟิลเตชั่น (Ultrafitration System) และรีเวอร์สออสโมซิส (RO ; Reverse Osmosis System) พบว่า สามารถลดปริมาณสารหนูในสารละลายได้ถึง 92.24% และมีค่า สารหนูตกค้างตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคทำให้สามารถนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทคัดย่อ (EN): This research aimed to study the process of reducing arsenic contaminants in rice bran products to meet the safety value of the international standards (i-As less than 0.2 mg/kg) and arsenic recovery from solutions in the water reusing process. The research method comprises of a survey on arsenic contamination (Total Arsenic) in rice samples and rice products in Thailand (n=55), and study the relative effects of various factors such as temperature, time, pH, including ozone consumption, ultrasound waves, and metal-chelating agents such as EDTA solutions, citric acid, and acetic acid to reduce the amount of arsenic in rice. To determine the optimum extraction condition for total arsenic content, the experiment and the optimal conditions were investigated and studied using the Box Behnken design with response surface methodology (RSM). The study found that the pre- treatment of samples with 0.01 M EDTA chelating agent solution for 60 min with 1:9 of solution ratio and then extracted by implementingthe optimum conditions according to the RSM equation with 3 factors were pH (3-5), time (30-90 min), and solution ratio (1:7-1:21). The optimized condition was found at pH 4.95 at 36.15 min, and 1: 20.70 of solution ratio had an extraction efficiency of 80.62%, which indicated that these conditions were able to reduce the residual arsenic to the lower level than the European Union safetyvalue. Most of the research about heavy metals reported that i-As in rice and rice bran were found in the range of 50-90% of total arsenic. Therefore, the allowable arsenic content in the initial sample for this extraction process should be approximately 1.00 mg/kg (Total As) or i- As 0.500-0.900 mg/kg, and the acceptable arsenic residue in rice bran after the extraction process was 0.2222 mg/kg(Total As) or i-As 0.1111 -0.1999 mg/kg. There was very littleloss of rice bran that extracted using this extraction method. However, there were partial changes in chemical constituents, such as moisture, and ash content while the protein content, fiber, and starch were not different from the initial sample. Therefore, low-arsenic rice bran could be further used as a raw material in the value added rice by- products transforming process in the rice industry, such as gluten- free proteinsand rice fibers. These findings will be served as a guideline for increaseing the safety standard for other heavy metals of Thailand’s rice products and toxicity of microbes that may be conducted in the future. From the results of this study, it was shown that a large volume of water was a crucial factor in the arsenic removal processes.For example,100 kg of rice bran required 5,940 liters of water or about 59 times as much water. Therefore, the water reusing process and arsenic recovery from the solution by using the ultrafiltration system (UF) and Reverse Osmosis System (RO) were necessary. It was found that the arsenic content in the extracted solution was reduced up to 92.24%. Consequently,the amountof arsenic residualsin the affluent was metthe drinking water standards, in this way the water could be reused efficiently.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: เมเบรน
คำสำคัญ (EN): membrane
เจ้าของลิขสิทธิ์: สาขาเทคโนโลยีอาหาร สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การลดการปนเปื้อนของสารหนูในรําข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวและการเก็บกู้สารหนูที่สกัดได้
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2562
การออกแบบลักษณะเนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์อาหารจากข้าวไทยโดยใช้โครงสร้างโมเลกุลขององค์ประกอบทางเคมีในข้าว ฤทธิ์ทางชีวภาพของไขอ่อนและไขแข็งจากรําข้าวในเซลล์เพาะเลี้ยงเพื่อประยุกต์ใช้ในเครื่องสําอาง การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าวอนิทรีย์ผงเพื่อเป็นส่วนผสมอาหารในอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์น้ํานมข้าวอินทรีย์อัดเม็ด การยกระดับคุณภาพข้าวและการบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวแบบครบวงจรในระดับกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ การทดแทนยากลุ่ม statin สําหรับการลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วยสารสกัดจากเห็ด การพัฒนาไฮโดรเจลจุ่มเต้าจากข้าวไทยที่มีสารต้านเชื้อแบคทีเรียสำหรับป้องกันภาวะเต้านมอักเสบในโค การตรวจสอบประโยชน์ทางเภสัชวิทยาและการเป็นอาหารเสริมของสารสกัดจากปลิงทะเล การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิตวัตถุดิบสมุนไพรข้าวเย็นเหนือ การปรับปรุงพันธุ์ข้าวลูกผสมเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสำหรับการแปรรูปเชิงอุตสาหกรรม ระยะที่ 2 ปีที่ 2 การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก