สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาระบบการวางแผนการเงินและการบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัดเชียงใหม่
ดวงนภา สุขะหุต - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การศึกษาระบบการวางแผนการเงินและการบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัดเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Study on cost and financial management systems for financial security of pepper farmers in Chiang Mai
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ดวงนภา สุขะหุต
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Duangnapa Sukhahuta
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชุดเอกสาร: การพัฒนาเครื่องหมายในระดับโมเลกุลของลักษณะความต้านทานโรคเหี่ยวเนื่องจากเชื้อ Phytophthora เพื่อการปรับปรุงพันธุ์พริก
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาต้นทุนและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และกำไร เพื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุนในการปลูกพริก และเพื่อศึกษาแนวทางในการวางแผนการจัดหาและจัดสรรเงินทุนของเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัด เชียงใหม่ การวิจัยครั้งนี้ได้แบ่งงานวิจัยเป็น 3 ส่วนได้แก่ 1) การจำแนกต้นทุนและวิเคราะห์ต้นทุน 2) การวิเคราะห์ต้นทุน - ปริมาณ - กำไร และการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน และ 3)การวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งจากผลการวิจัยเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกพริกพันธ์เดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกัน พบว่าเกษตรกรผู้ปลูกพริกทุกรายมีกำไรจากการลงทุนในการเพาะปลูกพริก โดยแต่ละรายค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่นมีต้นทุน มีจำนวนการเก็บผลผลิต และมีรายได้ต่อไร่ไม่เท่ากัน เมื่อนำข้อมูลที่ได้จากเกษตรกรที่ทำการศึกษามาหาค่าเฉลี่ยต้นทุนและรายได้ ได้ผลการวิจัยดังนี้ จากการเพาะปลูกใน 1 รอบการปลูก ต้นทุนรวมโดยเฉลี่ยเท่ากับ 25,672.90 บาทต่อไร่ ประกอบไปด้วยต้นทุนผันแปรเท่ากับ 23,268.57 บาทต่อไร่ และต้นทุนคงที่เท่ากับ 2,404.33 บาทต่อไร่ การเก็บผลผลิตโดยเฉลี่ยได้ 6 ครั้ง ราคาที่ขายโดยเฉลี่ยเท่ากับ 8.27 บาทต่อกิโลกรัม ก่อให้เกิดรายได้รวมโดยเฉลี่ยเท่ากับ 51,902.20 บาท มีผลทำให้มีกำไรโดยเฉลี่ยจากการเพาะปลูกพริกเท่ากับ 26,229.30 บาทต่อไร่ เมื่อคิดต้นทุนผันแปรต่อกิโลกรัมโดยเฉลี่ยเท่ากับ 3.71 บาท กำไรผันแปรต่อกิโลกรัมโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 บาท คิดเป็นอัตรากำไรผันแปรโดยเฉลี่ยเท่ากับ 55.17% จุดคุ้มทุนโดยเฉลี่ยเท่ากับ 526.80 กิโลกรัม เมื่อนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุนโดยการคำนวณหาค่ามูลค่าปัจจุบันสุทธิ หาอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน และหาอัตราผลตอบแทนภายในโครงการ พบว่าการคำนวณให้ผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกันคือยอมรับการลงทุน อย่างไรก็ตามการเพาะปลูกพริกมีหลายตัวแปรที่อาจส่งผลให้กำไรจากการลงทุนเปลี่ยนแปลงได้ เช่น มีโรคระบาดในพริก มีแมลงรบกวน ดินที่เพาะปลูกเป็นเวลานานเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น ดังนั้นอาจทำให้ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น หรืออาจทำให้ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้น้อย นอกจากนี้ราคาตลาดตกต่ำเนื่องจากมีผลผลิตในตลาดมาก พ่อค้าคนกลางกดราคารับซื้อผลผลิต และราคาวัสดุการเกษตรมีราคาแพงขึ้น ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่อาจมีผลทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง ดังนั้นผลการวิจัยในครั้งนี้สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกพริกรับทราบวิธีการคิดต้นทุน คิดกำไร และทำการประเมินผลตอบแทนจากการเพาะปลูก เพื่อใช้ในการบริหารต้นทุน และการหาแหล่งเงินที่เหมาะสมมาใช้ในการเพาะปลูก ทำให้เกิดกำไรที่ยั่งยืน
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research is to study the cost and analysis of Cost – Volume - Profit relationships, to analyze return on investment for growing pepper and to provide guidelines for planning and financing of pepper farmers in Chiang Mai. This research was divided into three parts: 1) cost classification and cost analysis 2) Cost - Volume - Profit analysis and cost structure, and 3) return on investment analysis. The research looked for the farmers who planted the same kind of pepper in the same area. The results found that all pepper farmers had profits from investing in pepper farm. However, the cost of planting and income per rai for each pepper farmers were unequal. Using data collected from pepper farmers, the average total cost of planting was 25,672.90 Baht per rai which includes 23,268.57 Baht per rai of variable costs and 2,404.33 Baht per rai of fixed costs. The average of harvesting was 6 times and the average selling price was 8.27 Baht per kilogram. The total revenue in average was 51,902.20 Baht; therefore the average profit from planting pepper was 26,229.30 Baht per rai. The variable cost per kilogram in average was equal to 3.71 Baht and the variable profit per kilogram in average was equal to 4.56 Baht. The margin variation average was 55.17% and the break-even point average was 526.80 kg. When calculating the net present value, the ratio of return on cost and the internal rate of return for project, the output showed the same direction and the investment was acceptable. However, growing the pepper has several factors that may affect the earnings from investment such as a disease outbreak, epidemic of insects, soil deterioration, and etc. These factors may cause the harvest yields to decrease or the cost of investment to increase. Moreover, lot of pepper productivity in the markets at the same time may cause market prices to depress. Furthermore, the cheap price given by the middlemen and the high agriculture material prices were key factors to make the pepper farmer having low income. Finally, the results of this study showed how to calculate cost, income and analyzing the return from investment. Moreover, the study referred to cost management and finding suitable sources of fund used for pepper farming leading to sustainable profits.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://webpac.library.mju.ac.th:8080/mm/fulltext/research/2558/duangnapa_sukhahuta_2553/fulltext.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: การบริหารการเงิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ดวงนภา สุขะหุต. "การศึกษาระบบการวางแผนการเงินและการบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัดเชียงใหม่Study on cost and financial management systems for financial security of pepper farmers in Chiang Mai". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2552

ดวงนภา สุขะหุต. "การศึกษาระบบการวางแผนการเงินและการบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัดเชียงใหม่Study on cost and financial management systems for financial security of pepper farmers in Chiang Mai". มหาวิทยาลัยแม่โจ้. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาระบบการวางแผนการเงินและการบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกในจังหวัดเชียงใหม่
ดวงนภา สุขะหุต
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2552
ความต้องการการส่งเสริมการผลิตและการตลาดของเกษตรกรผู้ปลูกพริกในตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ต้นทุนและผลตอบแทนในการปลูกข้าวนาหยอดของเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี ต้นทุนการปลูกพืชสมุนไพรของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเชียงเพ็ง รูปแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์เชิงนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพแก่ผู้พิการในจังหวัดเชียงใหม่ การพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูปสู่การสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ ของจังหวัดเชียงใหม่ ความคิดเห็นของเกษตรกรที่มีต่อการดำเนินงานโครงการส่งเสริมผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพครบวงจรของสหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ ผลของอาหารผสมสารสกัดกระเทียมต่อการเหนี่ยวนำให้เป็นเพศผู้ การ เจริญเติบโต และต้นทุนการผลิตของปลานิล เพื่อเป็นอาหารปลอดภัย การศึกษาลักษณะประจำพันธุ์และระบบการผลิตกล้วยน้ำว้าบางสายพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้าในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ความดีเด่นของพริกลูกผสม Capsicum baccatum L. ศัตรูพริกและศัตรูธรรมชาติ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair