สืบค้นงานวิจัย
การโคลนยีนและตรวจสอบการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน
วิเชียร กีรตินิจกาล - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การโคลนยีนและตรวจสอบการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน
ชื่อเรื่อง (EN): Cloning and investigation of the expression of genes involved in curcuminoid biosynthesis in turmeric (Curcuma longa L.)
บทคัดย่อ: การโคลนชิ้นส่วนยีน CHS-like ของขมิ้นชัน เริ่มต้นโดยการเพิ่มปริมาณยีนด้วยวิธี nested PCR ทำให้ได้ชิ้นดีเอ็นเอขนาดประมาณ 850 คู่เบส ซึ่งสามารถนำชิ้นดีเอ็นเอดังกล่าวไปเชื่อมต่อกับพลาสมิด pGEM?-T Easy ต่อไป เมื่อตรวจสอบความแตกต่างของชิ้นดีเอ็นเอที่ได้ด้วยเอนไซม์ตัดจำเพาะ 7 ชนิด พบว่ามีเพียง 4 ชนิดเท่านั้นได้แก่ AluI, HinfI, MboI และ RsaI ที่แสดงรูปแบบของแถบดีเอ็นเอที่แตกต่างกันรวม 6 แบบ และพบว่ายีน 6 รูปแบบนี้มีลำดับนิวคลีโอไทด์ตรงกับส่วนของยีน CHS-like ของพืชชนิดอื่นอีกหลายชนิด ผลของ Southern blot hybridization พบว่าจีโนมของขมิ้นชันมีจำนวนชุดของยีนอย่างน้อย 5 ชุด ทั้งนี้เมื่อใช้เทคนิค TAIL-PCR สามารถโคลนและหาลำดับนิวคลีโอไทด์ที่สมบูรณ์ของยีน CHS-like ได้ 3 ยีน คือ ClCHS1, ClCHS2 และ ClCHS3 พบว่าประกอบด้วย เอกซอน 2 เอกซอน โดยเอกซอนที่ 1 มีกรดอะมิโนอยู่ 65 หน่วย ส่วนเอกซอนที่ 2 มีกรดอะมิโนอยู่ 324-331 หน่วย และมีอินทรอน 1 ตำแหน่ง ขนาด 82-95 คู่เบส อยู่ระหว่างเอกซอนทั้งสอง เมื่อนำลำดับนิวคลีโอไทด์มาแปลเป็นกรดอะมิโน และเปรียบเทียบกับลำดับกรดอะมิโนของยีนกลุ่มนี้ในพืชชนิดอื่น พบค่าความเหมือนประมาณ 50-60% และยังพบบริเวณ active site, CoA binding site, กรดอะมิโนส่วนอนุรักษ์ของ CHS superfamily enzymes รวมทั้งส่วน substrate specificity site ของยีน CHS-like อีกด้วย ทั้งนี้เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการโดยเปรียบเทียบกับลำดับกรดอะมิโนของยีน CHS และ CHS-like ของพืชอื่นรวมทั้งหมด 18 ชนิด พบว่ายีน ClCHS1, ClCHS2 และ ClCHS3 จัดอยู่ในกลุ่มของพืชมีดอก และจัดอยู่ในกลุ่มย่อยเดียวกันแยกจากกลุ่มย่อยอื่น การแสดงออกของยีน CHS-like ในขมิ้นชัน พบมากที่สุดในส่วนของแง่งที่มีขนาดเล็ก (น้อยกว่า 2 เซนติเมตร) และ ค่อย ๆ ลดลงในแง่งที่มีขนาดยาวขึ้นตามลำดับ การโคลนชิ้นส่วนยีน CHS-like ของขมิ้นชัน เริ่มต้นโดยการเพิ่มปริมาณยีนด้วยวิธี nested PCR ทำให้ได้ชิ้นดีเอ็นเอขนาดประมาณ 850 คู่เบส ซึ่งสามารถนำชิ้นดีเอ็นเอดังกล่าวไปเชื่อมต่อกับพลาสมิด pGEM?-T Easy ต่อไป เมื่อตรวจสอบความแตกต่างของชิ้นดีเอ็นเอที่ได้ด้วยเอนไซม์ตัดจำเพาะ 7 ชนิด พบว่ามีเพียง 4 ชนิดเท่านั้นได้แก่ AluI, HinfI, MboI และ RsaI ที่แสดงรูปแบบของแถบดีเอ็นเอที่แตกต่างกันรวม 6 แบบ และพบว่ายีน 6 รูปแบบนี้มีลำดับนิวคลีโอไทด์ตรงกับส่วนของยีน CHS-like ของพืชชนิดอื่นอีกหลายชนิด ผลของ Southern blot hybridization พบว่าจีโนมของขมิ้นชันมีจำนวนชุดของยีนอย่างน้อย 5 ชุด ทั้งนี้เมื่อใช้เทคนิค TAIL-PCR สามารถโคลนและหาลำดับนิวคลีโอไทด์ที่สมบูรณ์ของยีน CHS-like ได้ 3 ยีน คือ ClCHS1, ClCHS2 และ ClCHS3 พบว่าประกอบด้วย เอกซอน 2 เอกซอน โดยเอกซอนที่ 1 มีกรดอะมิโนอยู่ 65 หน่วย ส่วนเอกซอนที่ 2 มีกรดอะมิโนอยู่ 324-331 หน่วย และมีอินทรอน 1 ตำแหน่ง ขนาด 82-95 คู่เบส อยู่ระหว่างเอกซอนทั้งสอง เมื่อนำลำดับนิวคลีโอไทด์มาแปลเป็นกรดอะมิโน และเปรียบเทียบกับลำดับกรดอะมิโนของยีนกลุ่มนี้ในพืชชนิดอื่น พบค่าความเหมือนประมาณ 50-60% และยังพบบริเวณ active site, CoA binding site, กรดอะมิโนส่วนอนุรักษ์ของ CHS superfamily enzymes รวมทั้งส่วน substrate specificity site ของยีน CHS-like อีกด้วย ทั้งนี้เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการโดยเปรียบเทียบกับลำดับกรดอะมิโนของยีน CHS และ CHS-like ของพืชอื่นรวมทั้งหมด 18 ชนิด พบว่ายีน ClCHS1, ClCHS2 และ ClCHS3 จัดอยู่ในกลุ่มของพืชมีดอก และจัดอยู่ในกลุ่มย่อยเดียวกันแยกจากกลุ่มย่อยอื่น การแสดงออกของยีน CHS-like ในขมิ้นชัน พบมากที่สุดในส่วนของแง่งที่มีขนาดเล็ก (น้อยกว่า 2 เซนติเมตร) และ ค่อย ๆ ลดลงในแง่งที่มีขนาดยาวขึ้นตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): A part of CHS-like gene from Curcuma longa Linn. was amplified using nested PCR, which resulted in a ~850 bp DNA fragment. This fragment was further ligated with pGEM?-T Easy vector. Each inserted part in the positive clones was cut with 7 restriction enzymes. Only 4 enzymes, i.e., AluI, HinfI, MboI and RsaI, showed polymorphic band patterns contributed to 6 different types. The nucleotide sequences of each type matched well with CHS-like genes from other plants. Southern blot hybridization indicated that the CHS-like gene contained at least 5 copies. The complete CHS-like gene, i.e., ClCHS1, ClCHS2 and ClCHS3, were cloned and their sequences were determined using TAIL-PCR. These genes were composed of 2 exons; the first exon encoded 65 amino acids while the second exon encoded 324-331 amino acids and having one intron of 82-95 base pairs in between. The deduced amino acid sequences showed 50-60% homology to CHS and CHS-like genes from several other plants. Active sites, CoA binding sites, conserved sequences and substrate specificity site of CHS superfamily enzymes were also found. Phylogenetic analysis based on amino acid sequences of CHS, CHS-like genes from 18 other plants indicated that the ClCHS1, ClCHS2 and ClCHS3 genes belonged to the group of CHS and CHS-like gene from angiosperm and formed a separate group from others. Semi-quantitative RT-PCR analysis revealed that CHS-like gene was expressed at the highest level in the small rhizome size (<2 cm) and become less expressed in the longer ones.A part of CHS-like gene from Curcuma longa Linn. was amplified using nested PCR, which resulted in a ~850 bp DNA fragment. This fragment was further ligated with pGEM?-T Easy vector. Each inserted part in the positive clones was cut with 7 restriction enzymes. Only 4 enzymes, i.e., AluI, HinfI, MboI and RsaI, showed polymorphic band patterns contributed to 6 different types. The nucleotide sequences of each type matched well with CHS-like genes from other plants. Southern blot hybridization indicated that the CHS-like gene contained at least 5 copies. The complete CHS-like gene, i.e., ClCHS1, ClCHS2 and ClCHS3, were cloned and their sequences were determined using TAIL-PCR. These genes were composed of 2 exons; the first exon encoded 65 amino acids while the second exon encoded 324-331 amino acids and having one intron of 82-95 base pairs in between. The deduced amino acid sequences showed 50-60% homology to CHS and CHS-like genes from several other plants. Active sites, CoA binding sites, conserved sequences and substrate specificity site of CHS superfamily enzymes were also found. Phylogenetic analysis based on amino acid sequences of CHS, CHS-like genes from 18 other plants indicated that the ClCHS1, ClCHS2 and ClCHS3 genes belonged to the group of CHS and CHS-like gene from angiosperm and formed a separate group from others. Semi-quantitative RT-PCR analysis revealed that CHS-like gene was expressed at the highest level in the small rhizome size (<2 cm) and become less expressed in the longer ones.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ยีนโพลีคีไทด์ซินเทส
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การโคลนยีนและตรวจสอบการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2551
การวิเคราะห์การทำงานของยีนที่ใช้ในการสังเคราะห์สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชันโดย RNA interference การสร้างแอพพลิเคชั่นเพื่อตรวจวัดสารเคอร์คูมินในสมุนไพรขมิ้นชันพร้อมกันทีละหลายตัวอย่างแบบทราบผลทันที ฤทธิ์ต้านการกลายพันธ์ุของผลิตภัณฑ์ขมิ้นชันผงสำหรับชงเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีปริมาณเคอร์คูมินอยด์สูง การศึกษาลักษณะและการโคลนยีนที่ควบคุมการสร้างแอนติไมโครเบียลเปปไทด์ (Antimicrobial peptide) ในด้วงมูลสัตว์ การศึกษาประสิทธิภาพในการย่อยเซลลูโลสของแบคทีเรียที่ผลิตเอนไซม์เซลลูเลสและการโคลนยีนเซลลูเลสเข้าสู่ Escherichia coli การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดขมิ้นชันต่อการเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันจากสารทึบรังสีในผู้ป่วยที่ได้รับการสวนและขยายหลอดเลือดหัวใจ การทำให้บริสุทธิ์และการศึกษาคุณสมบัติของฮีโมไซยานินและการโคลนยีนฮีโมไซยานินของกุ้งแชบ๊วย การปรับปรุงพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ105 ต้านทานโรคไหม้ด้วยยีน Pi-1 การทำให้บริสุทธิ์และการศึกษาคุณสมบัติของไวเทลโลจีนินและการโคลนยีนไวเทลโลจีนินจากตับของกุ้งแชบ๊วย การพัฒนาสูตรพรีมิกซ์ขมิ้นชันเพื่อเป็นสารเสริมสุขภาพปลานิล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก