สืบค้นงานวิจัย
การศึกษากระบวนการพัฒนาระบบการผลิตข้าวคุณภาพ ในสถานการณ์การเปิดเขตการค้าเสรี กรณีศึกษา: โครงการศึกษาเชิงปฏิบัติการระบบการผลิตและการจัดการข้าว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ
ปณิตา สาธุธรรม - สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ชื่อเรื่อง: การศึกษากระบวนการพัฒนาระบบการผลิตข้าวคุณภาพ ในสถานการณ์การเปิดเขตการค้าเสรี กรณีศึกษา: โครงการศึกษาเชิงปฏิบัติการระบบการผลิตและการจัดการข้าว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปณิตา สาธุธรรม
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษากระบวนการพัฒนาระบบการผลิตข้าวคุณภาพในสถานการณ์การเปิดเขตการค้าเสรี กรณีศึกษาโครงการศึกษาเชิงปฏิบัติการระบบการผลิตและการจัดการข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเขต ปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาและวิเคราะห์กระบวนการพัฒนาและเพิ่มขีด ความสามารถของเกษตรกรด้านการผลิตข้าวคุณภาพ วิเคราะห์และศึกษาองค์ความรู้ด้านการผลิตข้าวคุณภาพ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์การเปิดเขตการค้าเสรี และสรุปแนวทางในการพัฒนาและขยายผลการดำเนินงาน โครงการต่อไป ซึ่งงานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเฉพาะกรณีและใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพในการศึกษาและ วิเคราะห์เพื่อค้นหาและอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการตลอด 1 ปี โดยเก็บ ข้อมูลจากการติดตามประเมินผลแบบมีส่วนร่วมระหว่างดำเนินโครงการ การสังเกต และการสัมภาษณ์แบบกึ่ง โครงสร้างในกลุ่มผู้ดำเนินโครงการและกลุ่มเกษตรกรในโครงการจาก อำเภอแม่ใจ อำเภอจุน อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา รวมทั้งสิ้น 8 ราย ผลการศึกษา สามารถสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. กระบวนการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกรด้านการผลิตข้าวคุณภาพ ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การคัดเลือกพื้นที่และเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 2) การวางแผนและกำหนดกิจกรรม ตารบัสนั้นักร้บวนกรบนรู้กวจีบเคสื่อนก็จกรรมและการทำกิงกรบ 2 เวทีแต่กเปลียนเรียนรู้การ การจัดตั้งกลุ่มและเลือกแกนนำ 4) เวทีประเมินการตัดสินใจดำเนินการเลือกพันธุ์ข้าวและปุ๋ยอินทรีย์ ปฏิบัติงานในนาข้าวนาทดลอง 7 ติดตามประเมินสถานการณ์และปรับปรุงวิธีการดำเนินงาน และ 8) การ ประเมินผลและสรุปบทเรียนหลังจากการสร้างกลไกดังกล่าวแล้วคณะผู้ดำเนินโครงการได้จัดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรที่เข้าร่วมกระบวนการศึกษาเชิงปฏิบัติการได้รับความรู้เรื่องการผลิตและการ จัดการข้าวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตถึงการจัดการและการตลาด ทำให้เกษตรกร ได้ทราบถึงเป้าหมายที่ชัดเจนในการร่วมดำเนินการ และเห็นประโยชน์ของการผลิตข้าวพื้นเมืองในระบบที่เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อร่วมกันบริหารจัดการผลผลิตในรูปแบบ สมาคม และเกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเกษตรกรในชุมชน เครือข่ายจากภายนอก หรือแม้กระทั่ง หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรมีเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และทำงานร่วมกัน จากการศึกษาสามารถสรุปได้ว่า โครงการมีการเตรียมความพร้อม สร้างกระบวนการเรียนรู้ สร้าง ระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างกระบวนการกลุ่มย่อย (จุ้ม) และการติดตามประเมินผลแบบ มีส่วนร่วมมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรม ซึ่งข้อค้นพบทั้งหมดมีส่วนช่วยทำให้โครงการบรรลุ วัตถุประสงค์ได้เป็นอย่างดียิ่ง 2. องค์ความรู้ด้านการผลิตข้าวคุณภาพที่สอดคล้องกับสถานการณ์การเปิดเขตการค้าเสรี ประกอบด้วย 4 องค์ความรู้เด่นดังนี้ 1) การจัดการดินและน้ำ 2) การคัดเลือกพันธุ์ข้าวพื้นเมือง 3) การใช้ประ ประโยชน์จากจุลินทรีย์ท้องถิ่น และ 4) กระบวนการและเทคนิคในการทำนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกได้ผ่านการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการทั้งก่อนและหลัง ปลูกในนาทดลอง เพื่อให้เกษตรกรได้ทราบและเปรียบเทียบผลปริมาณสารอาหารในพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ปลูก ซึ่งเป็นการสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของข้าวสายพันธุ์ต่งๆ รวมถึงได้เห็นแนวทางการสร้างมูลค่เพิ่มและ การจัดการด้านการตลาดข้าวในอนาคต นอกจากนี้แล้ว การนำความรู้ใหม่ผสมผสานความรู้เก่าเป็นอีกจุดเด่น หนึ่งที่พบว่าเกษตรกรให้ความสนใจ สามารถสร้างความตระหนักรู้ และกระตุ้นให้เกษตรกรเกิดการเรียนรู้ ต่อเนื่องได้ดี เช่น การใช้จุลินทรีย์อะตอมมิคนาโน การตรวจสารพิษในเลือด และการวิเคราะห์คุณค่าทาง โภชนาการข้าว การผลิตด้วยระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทดลองปฏิบัติโดยเกษตรกรภายใต้โครงการนี้ พบว่า สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีหลักคิดสำคัญเรื่อง การผลิตข้าวแบบองค์รวม กล่าวคือ เป็นกิจกรรมที่นำไปสู่การเกิดหรือการสร้างกิจกรรมการผลิตอื่นๆ ได้ อย่างหลากหลาย ลักษณะสำคัญคือ ต้องผลิตแบบปลอดภัย ไร้สารพิษ ให้ความสำคัญกับดินและน้ำ ใช้พันธุ์ ข้าวพื้นเมือง และการปฏิบัติดูแลอย่างประณีต ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการนำองค์ความรู้ต่างๆ ไปปฏิบัติจนเกิดผลคือ การลดต้นทุนการผลิตและ การเพิ่มปริมาณผลผลิต ซึ่งเกษตรกรในโครงการใช้ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยประมาณ 2,249.6 บาทต่อไร่ ต่ำกว่าการทำนาแบบปกติที่ใช้วิธีการผลิตแบบเดิมและใช้ปุ๋ยหรือสารเคมี ซึ่งมีต้นทุนการผลิตประมาณ 4,1 18.4 บาท ต่อไร่ กล่าวคือ สามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 1,868.8 บาทต่อไร่ เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนาแบบปกติ ด้าน ผลผลิตพบว่า แปลงนาทดลองของเกษตรบางรายได้ผลผลิตสูงถึง 720 กิโลกรัมต่อไร่ โดยปริมาณข้าวในแปลง นาทดลองมีผลผลิตเฉลี่ย 493 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งปริมาณผลผลิตน้อยกว่าแปลงนาปกติที่มีผลผลิตเฉลี่ย 515 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เมื่อคิดค่าเฉลี่ยจากรายได้สุทธิแล้ว ผลตอบแทนที่เป็นรายได้จากแปลงนาทดลองสูงกว่าแปลง นาปกติประมาณ 2,020 บาทต่อไร่ เนื่องจากราคาจำหน่ายสูงกว่าและต้นทุนการผลิตต่ำกว่า นอกจากนี้ผลพลอยได้อีกประการ คือ สิ่งแวดล้อมที่เคยเสื่อมโทรมจากการใช้สารเคมีของคนในชุมชน ได้ฟื้นคืนสภาพในระดับที่ดีขึ้น อีกทั้งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการยังมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะ การผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใดๆ ระหว่างกระบ่วนการผลิต มากกว่านั้น เกษตรกรในโครงการยังมีข้าวที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และคุณค่ทางโภชนาการสูงไว้บริโภคในครัวเรือนและ จำหน่ายอีกด้วย 3. คณะผู้ศึกษาได้จัดทำข้อเสนอแนะบนพื้นฐานข้อคันพบที่ได้จากการศึกษา แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 3.1 ข้อเสนอแนะสำหรับโครงการ 1) ควรสร้างความต่อเนื่องของกิจกรรม เนื่องจากโครงการต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับ เกษตรกรไม่เพียงแต่การผลิตข้าวเท่านั้น แต่ต้องการให้เกษตรกรมองถึงอนาคต ได้แก่ การตลาด การแปรรูป และการบริหารจัดการกลุ่ม 2) จากการที่โครงการได้ให้ความสำคัญกับการค้นหาคุณค่าทางโภชนาการ ควรมีการนำ ความรู้ดังกล่าวคืนให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความตระหนักให้กับเกษตรกร 3) พันธุ์ข้าวที่ทดลองปลูกในพื้นที่โครงการทั้งหมด ปลูกเพียง 1 รอบการผลิตเท่านั้น หาก ต้องการข้อมูลที่เที่ยงตรง ถูกต้องแม่นยำ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ที่จะต่อยอดการพัฒนาโดยการเพิ่มมูลค่า ผลผลิตหรือการส่งเสริมการบริโภคและการจำหน่ายเพื่อให้เกิดรายได้ในพื้นที่มากขึ้น จำเป็นต้องทำการทดลอง ปลูกซ้ำทั้ง 11 สายพันธุ์ 4) ส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างระบบการผลิตที่หลากหลายมากขึ้น โดยคำนึงถึงความสอดคล้อง ทางมิติวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการเกื้อหนุนกันของกิจกรรมภายในแปลงเกษตร และลดการพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอก 5) ควรมีการให้ความรู้ด้านการจดบันทึกข้อมูลฟาร์ม เพื่อให้เกษตรกรรับรู้และตระหนักกับสิ่ง งทุนและพัฒนาการลงทุน ตลอดถึงรายรับจากการผลิตและการจัดการผลผลิตของไร่นา กร วางแผนในการลดต้นทุนและวางแผนการจัดการผลผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 6) สร้างความตระหนักและให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับด้านกฎระเบียบหรือกติกาสากล าะ มาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (Codex) และกฎระเบียบความปลอดภัยทาง 3.2 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1) ส.ป.ก. ควรสนับสนุนการศึกษาเชิงปฏิบัติกรระบบการผลิตและการจัดการข้าวที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เดิม และบริเวณใกล้เคียงต่อไปอีกระยะหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี เพื่อให้ผลการ ดำเนินงานเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน 2) ส.ป.ก. ควรจะเปิดโอกาสการเรียนรู้เรื่อง การจัดการข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปสู่ เกษตรกรที่สนใจในจังหวัดต่างๆ ให้กว้างขวางขึ้น เพราะโครงการได้สร้างความตื่นตัว และทางออกให้กับ เกษตรกรที่สนใจอย่างกว้างขวาง ทั้งในเขตปฏิรูปที่ดินและเกษตรกรทั่วไปที่ตระหนักต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการลดต้นทุนในการผลิตข้าว ซึ่งจะเห็นได้จากการเสนอตัวเข้ามาขอความรู้ และติดต่อขอซื้อสายพันธุ์ข้าว 3) ให้ความสำคัญกับการสร้างกิจกรรมในลักษณะนี้ให้มากขึ้น โดยให้เกษตรกรเป็นแกนนำใน การขับเคลื่อน และกระตุ้นให้เกิดการกำหนดทิศทางร่วมกันของคนในชุมชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่าง ยั่งยืน 4) สนับสนุนให้เกษตรกร องค์กรชาวบ้าน หรือชุมชน สามารถจัดการพันธุกรรมข้าวทั้งการ ดเลือกพันธุ์ ขยายพันธุ์ รวบรวมพันธุ์ และเป็นเจ้าของพันธุ์ เพื่อลดการพึ่งพาปัจจัยการผลิตจาก ความผันผวนด้านราคาสูง 5) สนับสนุนเกษตรกรให้สามารถจัดการผลผลิตด้วยตนเองในรูปของกลุ่มเกษตรกรหรือ กรณ์ โดยเน้นการจัดการทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) และพัฒน เป็นแหล่งเรียนรู้ สามารถถ่ยทอดประสบการณ์และขยายผลให้เกษตรกรที่สนใจ 6) สร้างความร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานทุกภาคส่วนในการสนับสนุนการค้าที่เป็นธรรม สร้างตลาดทางเลือกในระบบเกษตรกรรมที่หลากหลาย และผลักดันให้มีโครงการอุดหนุนชาวนาโดยตรง เน้น การจัดการในระดับท้องถิ่นโดยเกษตรกร หรือองค์กรเกษตรกรในท้องถิ่น 7 สนับสนุนการสร้างอัตลักษณ์หรือภาพลักษณ์สินค้าและผลิตภัณฑ์จากข้าวพันธุ์พื้นเมือง ของไทย โดยทำการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมถึงสร้างตราสินค้าและมาตรฐานคุณภาพ ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.alro.go.th/research_plan/ewt_news.php?nid=365&filename=index
เผยแพร่โดย: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คำสำคัญ: การผลิต
หมวดหมู่:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษากระบวนการพัฒนาระบบการผลิตข้าวคุณภาพ ในสถานการณ์การเปิดเขตการค้าเสรี กรณีศึกษา: โครงการศึกษาเชิงปฏิบัติการระบบการผลิตและการจัดการข้าว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2555
วิธีลอยกระทงให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สถานการณ์เกษตรและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยในปัจจุบัน คุณภาพข้าวสุกจากการผสมข้าว กข 23 และ ชัยนาท 1 ในขาวดอกมะลิ 105 แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การพัฒนากระบวนการต้นแบบในการทดสอบพันธุ์ข้าวลูกผสม แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน การจัดการคุณภาพข้าวกล้องเพื่อการค้า การพัฒนาระบบคุณภาพและวิธีการทดสอบ แนวทางการพัฒนาการจัดการของศูนย์ข้าวชุมชนบ้านทุ่งยาว ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก