สืบค้นงานวิจัย
ผลกระทบจากการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมต่อแมลงน้ำกลุ่มริ้นน้ำจืดในนาข้าว
แตงอ่อน พรหมมิ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: ผลกระทบจากการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมต่อแมลงน้ำกลุ่มริ้นน้ำจืดในนาข้าว
ชื่อเรื่อง (EN): The effect of an industrial effluent on chironomid larvae  (Chironomidae: Diptera) in rice paddy field
บทคัดย่อ: มีการนำลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่ผิดปกติของส่วน mouth part ของตัวอ่อนริ้นน้ำจืด โดยเฉพาะฟันบนส่วน mentum มาใช้ในการเป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของคุณภาพตะกอนดินและความเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำ การศึกษาครั้งนี้เก็บตัวอย่างตัวอ่อนริ้นน้ำจืดในนาข้าว 4 แห่งที่อยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมและนาข้าว 4 แห่งที่อยู่ห่างไกลโรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างจำนวน 2 ฤดูกาลการทำนาคือ ฤดูกาลการทำนาปรัง (มีนาคม-มิถุนายน 2553) และฤดูกาลการทำนาปี (สิงหาคม-ธันวาคม 2553) การเก็บตัวอย่างแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาคือ ช่วงแรกคือ 20 วันหลังจากนำน้ำเข้านา ช่วงกลางคือ 60 วัน และ ช่วงท้ายคือ 1 สัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว เก็บตัวอย่างในนาแต่ละแห่งจำนวน 3 ซ้ำ โดยใช้สวิงน้ำ พบตัวอ่อนริ้นน้ำจืดทั้งสิ้น 3,486 ตัว ศึกษาลักษณะของฟันบน mentum ของส่วน mouth part ของตัวอ่อนริ้นน้ำจืดภายใต้กล้องจุลทรรศ์เพื่อดูลักษณะที่ปกติและผิดปกติ สามารถจำแนกลักษณะที่ปกติและผิดปกติได้ 5 ลักษณะคือ mentum teeth ที่มีลักษณะปกติ (normal teeth) mentum teeth ที่มีลักษณะกร่อนปานกลาง (moderately worn) mentum teeth ที่มีลักษณะการกร่อนของฟันมาก (substantial wear) mentum teeth ที่มีลักษณะแหว่งตรงส่วน median teeth (forked) และ mentum teeth ที่มีลักษณะกร่อนหรือการแหว่งตรงส่วน lateral teeth (missing right or left teeth) โดยเปอร์เซ็นต์ของความผิดปกติพบได้ในช่วงแรกของการเก็บตัวอย่างมากที่สุด การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคุณภาพน้ำทางกายภาย เคมี ปริมาณโลหะหนักกับตัวอ่อนริ้นน้ำจืด พบว่า ปริมาณสังกะสี ทองแดงและแคดเมียม มีความสัมพันธ์กับตัวอ่อนริ้นน้ำจืดอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05, p<0.01) ทำการเก็บแมลงน้ำกลุ่มอื่นๆ ที่อยู่ในนาข้าวบริเวณเดียวกันกับที่เก็บตัวอ่อนริ้นน้ำจืด พบแมลงน้ำทั้งสิ้น 5 อันดับ 20 วงศ์ โดยแมลงน้ำอันดับ Hemiptera พบมากที่สุด (9 วงศ์) ตามด้วยอันดับ Diptera (5 วงศ์) อันดับColeoptera (3 วงศ์) อันดับ Odonata (2 วงศ์) และอับดับ Ephemeroptera (1 วงศ์) ความหลากหลายของแมลงน้ำพบมากที่สุดในช่วงแรกของการนำน้ำเข้านา มีการนำลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่ผิดปกติของส่วน mouth part ของตัวอ่อนริ้นน้ำจืด โดยเฉพาะฟันบนส่วน mentum มาใช้ในการเป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของคุณภาพตะกอนดินและความเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำ การศึกษาครั้งนี้เก็บตัวอย่างตัวอ่อนริ้นน้ำจืดในนาข้าว 4 แห่งที่อยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมและนาข้าว 4 แห่งที่อยู่ห่างไกลโรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างจำนวน 2 ฤดูกาลการทำนาคือ ฤดูกาลการทำนาปรัง (มีนาคม-มิถุนายน 2553) และฤดูกาลการทำนาปี (สิงหาคม-ธันวาคม 2553) การเก็บตัวอย่างแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาคือ ช่วงแรกคือ 20 วันหลังจากนำน้ำเข้านา ช่วงกลางคือ 60 วัน และ ช่วงท้ายคือ 1 สัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว เก็บตัวอย่างในนาแต่ละแห่งจำนวน 3 ซ้ำ โดยใช้สวิงน้ำ พบตัวอ่อนริ้นน้ำจืดทั้งสิ้น 3,486 ตัว ศึกษาลักษณะของฟันบน mentum ของส่วน mouth part ของตัวอ่อนริ้นน้ำจืดภายใต้กล้องจุลทรรศ์เพื่อดูลักษณะที่ปกติและผิดปกติ สามารถจำแนกลักษณะที่ปกติและผิดปกติได้ 5 ลักษณะคือ mentum teeth ที่มีลักษณะปกติ (normal teeth) mentum teeth ที่มีลักษณะกร่อนปานกลาง (moderately worn) mentum teeth ที่มีลักษณะการกร่อนของฟันมาก (substantial wear) mentum teeth ที่มีลักษณะแหว่งตรงส่วน median teeth (forked) และ mentum teeth ที่มีลักษณะกร่อนหรือการแหว่งตรงส่วน lateral teeth (missing right or left teeth) โดยเปอร์เซ็นต์ของความผิดปกติพบได้ในช่วงแรกของการเก็บตัวอย่างมากที่สุด การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคุณภาพน้ำทางกายภาย เคมี ปริมาณโลหะหนักกับตัวอ่อนริ้นน้ำจืด พบว่า ปริมาณสังกะสี ทองแดงและแคดเมียม มีความสัมพันธ์กับตัวอ่อนริ้นน้ำจืดอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05, p<0.01) ทำการเก็บแมลงน้ำกลุ่มอื่นๆ ที่อยู่ในนาข้าวบริเวณเดียวกันกับที่เก็บตัวอ่อนริ้นน้ำจืด พบแมลงน้ำทั้งสิ้น 5 อันดับ 20 วงศ์ โดยแมลงน้ำอันดับ Hemiptera พบมากที่สุด (9 วงศ์) ตามด้วยอันดับ Diptera (5 วงศ์) อันดับColeoptera (3 วงศ์) อันดับ Odonata (2 วงศ์) และอับดับ Ephemeroptera (1 วงศ์) ความหลากหลายของแมลงน้ำพบมากที่สุดในช่วงแรกของการนำน้ำเข้านา
บทคัดย่อ (EN): Deformities in the mouthparts of larval Chironomidae, particularly of the teeth on the mentum, have been proposed as a bioindicator of sediment quality and environmental stress. The chironimid larvae were collected in the four rice paddies nearby industrial effluent and four sites far from the industrial effluent in two crop cycles during March to December 2010. The samples were taken 3 periods as follows: 1) 20 days after flooding (ADF), 2) 60 days ADF, and 3) a week before harvesting. Three replicates of sampling by aquatic D-net was used at sampling sites. A total of 3,486 individual were collected during two crop cycles. The observation under the stereomicroscope showed the typical mentum teeth deformity in chironomid larvae with various degrees of worn such as, median teeth with moderately worn, substantial worn, median and lateral teeth folked, and missing right teeth. The percentage of deformities was higher in early period than in mid period and late period of sampling in both nearby and far away from industrial effluent. Pearson’s correlation analysis, evaluated the relationship between physico-chemical water quality parameters and heavy metal, and chironomid data. The zinc, cadmium, and copper were correlated with chironomid larvae occurring in paddies (p<0.05, p<0.01). Other group of aquatic insects in rice paddies field were also sampled. Five Orders and 20 families were recorded in this study. The hemipteran was the most abundant groups in paddies (9 families) followed by the coleopteran (3 families), the dipteran (5 families), the odonate (2 families), and the mayflies was the lowest abundance (1 families). The most abundance of aquatic insects was found in 20 days ADF than the other two periods. Deformities in the mouthparts of larval Chironomidae, particularly of the teeth on the mentum, have been proposed as a bioindicator of sediment quality and environmental stress. The chironimid larvae were collected in the four rice paddies nearby industrial effluent and four sites far from the industrial effluent in two crop cycles during March to December 2010. The samples were taken 3 periods as follows: 1) 20 days after flooding (ADF), 2) 60 days ADF, and 3) a week before harvesting. Three replicates of sampling by aquatic D-net was used at sampling sites. A total of 3,486 individual were collected during two crop cycles. The observation under the stereomicroscope showed the typical mentum teeth deformity in chironomid larvae with various degrees of worn such as, median teeth with moderately worn, substantial worn, median and lateral teeth folked, and missing right teeth. The percentage of deformities was higher in early period than in mid period and late period of sampling in both nearby and far away from industrial effluent. Pearson’s correlation analysis, evaluated the relationship between physico-chemical water quality parameters and heavy metal, and chironomid data. The zinc, cadmium, and copper were correlated with chironomid larvae occurring in paddies (p<0.05, p<0.01). Other group of aquatic insects in rice paddies field were also sampled. Five Orders and 20 families were recorded in this study. The hemipteran was the most abundant groups in paddies (9 families) followed by the coleopteran (3 families), the dipteran (5 families), the odonate (2 families), and the mayflies was the lowest abundance (1 families). The most abundance of aquatic insects was found in 20 days ADF than the other two periods.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: นาข้าว
คำสำคัญ (EN): rice paddy field
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

แตงอ่อน พรหมมิ. "ผลกระทบจากการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมต่อแมลงน้ำกลุ่มริ้นน้ำจืดในนาข้าวThe effect of an industrial effluent on chironomid larvae  (Chironomidae: Diptera) in rice paddy field". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2554

แตงอ่อน พรหมมิ. "ผลกระทบจากการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมต่อแมลงน้ำกลุ่มริ้นน้ำจืดในนาข้าวThe effect of an industrial effluent on chironomid larvae  (Chironomidae: Diptera) in rice paddy field". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
ผลกระทบจากการปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมต่อแมลงน้ำกลุ่มริ้นน้ำจืดในนาข้าว
แตงอ่อน พรหมมิ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2554
ผลของการจัดการน้ำต่อการปล่อยก๊าซมีเทนในนาข้าวศูนย์วิจัยข้าวลพบุรี การประเมินผลกระทบของแหล่งน้ำธรรมชาติที่รองรับการปล่อยน้ำทิ้งโดยใช้ กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ ผลของการล้มตอซังข้าวร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำเพื่อปลูกถั่วเหลืองหลังนาข้าวในกลุ่มชุดดินที่ 15 การผลิต resistant starch จากแป้งข้าวด้วยวิธีการย่อยแป้งด้วยกรดร่วมกับการให้ความร้อนและความชื้น ผลการตอบสนองต่อความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกิดจากความเค็มในสายพันธุ์ต่าง ๆ ของข้าวไทย ผลของระบบนิเวศวิศวกรรมต่อความหลากหลายของแมลงและแมงมุมในนาข้าว การใช้วิธีทางนิเวศวิศวกรรมในนาข้าวเพื่อลดความสูญเสียจากการระบาด ของแมลงศัตรูข้าวอย่างยั่งยืน ผลกระทบทางอัลลีโลพาธีของวัชพืชนาข้าวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าว การเลี้ยงปลาในนาข้าว การศึกษาต้นทุนส่วนเพิ่มในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากนาข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair